แฉ! พ่อค้าส้มตำปืนโหด รัวยิงเฒ่าร่างพรุน ปมขัดแย้งที่จอด - ลูกเหยื่อผวานิสัยนักเลง มีนายคุ้มหัว (คลิป)

จากกรณีที่เมื่อวันที่ 7 เม.ย. 62 เวลาประมาณ 09.00 น. เจ้าหน้าที่ สภ.มวกเหล็ก ได้รับแจ้งเหตุยิงกันตาย บริเวณลานจอดรถ ริมธารน้ำตกบ้านปากคลอง หมู่ 11 ต.มวกเหล็ก อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรีที่เกิดเหตุพบศพ นายหรั่ง ศรีสมัย อายุ 68 ปี นอนจมกองเลือด ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายอุบล เถาทอง ซึ่งมีอาชีพขายส้มตำ และอาหารตามสั่งบริเวณดังกล่าว ได้ขับรถกระบะโตโยต้าวีโก้ สีขาว หลบหนีไปหลังเกิดเหตุ ส่วนสาเหตุในการก่อเหตุ เนื่องจากมีปัญหาในเรื่องการใช้ประโยชน์พื้นที่ลานว่าง เพราะแบ่งรายได้ไม่ลงตัว

วันที่ 8 เม.ย. 62 นายเล็ก เพื่อนของผู้เสียชีวิต เผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวาน (7 เม.ย.) แต่ตนไม่อยู่ในเหตุการณ์ เมื่อมาถึงก็เห็นนายหรั่งนอนคว่ำหน้าเสียชีวิตแล้ว ตนไม่รู้ว่าทำไมนายอุบลถึงก่อเหตุยิงนายหรั่ง แต่หากเป็นเรื่องผลประโยชน์ลานจอดรถนั้น ตนทราบเพียงว่า ลานจอดรถนี้ไม่มีใครเป็นเจ้าของ แต่นายหรั่งได้มาปลูกผักในลานนี้มาหลายสิบปีแล้ว ส่วนนายอุบลเพิ่งมาได้ไม่กี่ปี ซึ่งทั้ง 2 คน เคยคิดที่จะทำลานจอดรถร่วมกัน แต่ตนไม่ทราบว่ารายละเอียดเป็นอย่างไร

ทั้งนี้ ตนคิดว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นรุนแรงเกินไป ไม่ควรฆ่ากันเช่นนี้ และอุปนิสัยของนายอุบลก็เป็นคนนักเลง ชอบยิงปืนเล่นประจำ และหากไม่พอใจใครก็จะยิงปืนขึ้นฟ้า ผิดกับนายหรั่ง ผู้เสียชีวิตที่เป็นคนดี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีแต่คนรักใคร่ ชาวบ้านเมื่อทราบข่าวก็ร้องไห้กันแทบทุกคน

ด้าน นางสงวน (นามสมมติ) ภรรยาของผู้ก่อเหตุ เผยว่า ตนไม่ทราบว่าสามีไปก่อเหตุยิงนายหรั่งเพราะอะไร ซึ่งตนยอมรับว่าไม่ค่อยทราบเรื่องของสามีเท่าไร ว่าได้มีเรื่องทะเลาะบาดหมางกับผู้ตายไหม อีกทั้งปกติแฟนตนก็ไม่ใช่คนอารมณ์ร้อน ส่วนเรื่องปืนตนก็ไม่ทราบว่าเช่นกันว่าเป็นปืนของใคร เนื่องจากไม่เคยเห็นสามีพกปืนมาก่อน และไม่เคยยิงใครมาก่อน ทั้งนี้ หลังจากเกิดเรื่อง สามีก็ยังไม่ได้โทรศัพท์ติดต่อมาแต่อย่างใด ซึ่งตนอยากให้สามีมอบตัว เพราะรู้สึกเป็นห่วงสามีมาก

นอกจากนี้ บรรยากาศที่วัดเหวลาด ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ นายหรั่ง ศรีสมัย พบว่ามีญาติเดินทางมาร่วมงานจำนวนมาก โดยเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ได้มีพิธีรดน้ำศพ บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า

น.ส.แพท ลูกสาวผู้เสียชีวิต เผยว่า ปกติแล้วตนจะพักอาศัยอยู่ที่ต่างประเทศ เพิ่งเดินทางหลับมาถึง จ.สระบุรี ได้เพียง 4-5 วัน ซึ่งวันเกิดเหตุ ก่อนพ่อตนจะถูกยิงเพียง 10 นาที พ่อได้มาเล่าให้ฟังว่ามีปัญหากับผู้ก่อเหตุ และเจ้าของรีสอร์ตแห่งหนึ่ง เนื่องจากที่พ่อตนจะไม่ยอมเปิดให้นักท่องเที่ยวขับรถมาจอดเที่ยวตรงบริเวณริมน้ำตก บ้านปากคลองลานดิน เพราะพื้นที่ลานจอดรถดังกล่าว อยู่ติดกับบ้านพ่อที่พักอาศัย ประกอบกับผลประโยชน์ไม่ลงตัวและไม่ได้รับเงิน นอกจากนี้ พ่อยังบอกอีกว่า คนก่อเหตุพกปืนตลอดเวลาและเคยคิดจะยิงหลายครั้ง บางครั้งก็ยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อเป็นการข่มขู่ ซึ่งปืนดังกล่าวพ่อบอกว่าเป็นของเจ้าของรีสอร์ตแห่งหนึ่ง โดยผู้ก่อเหตุเคยพูดกับพ่อตนว่า “จะทำอะไรก็ได้ เพราะมีปืน ปืนก็ไม่ได้หาเอง เจ้านายเป็นคนให้ ผมจะยิงใครก็ได้ เดี๋ยวเจ้านายเคลียร์เอง” ตนก็ไม่ทราบว่าจริงเท็จแค่ไหน เนื่องจากพ่อเป็นคนเล่าให้ฟังก่อนเสียชีวิตเพียง 10 นาที