วันที่ 21 มิ.ย. 65 ผู้สื่อข่าวรับการร้องเรียนจาก น.ส.บี (นามสมมติ) ว่ามีพระรูปหนึ่งชื่อ หลวงพ่ออ้วน อยู่ที่พักสงฆ์ บ้านกำไสจาน ต.ทุ่งมน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ อารมณ์ร้อนใช้ไม้ตะพตมาฟาดหัวของ นายเสมอ สายดวง มีศักดิ์ปู่ของ น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 59 ปี
พร้อมกับเปิดคลิปที่ น.ส.บี (นามสมมติ) ได้ถ่ายไว้ได้ นายเสมอ สายดวงถูกตีด้วยไม้ตะพตความยาวกว่า 1 เมตร เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.65 เวลา 12.00 น. ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะเลือดไหลไม่หยุด แต่ปัจจุบันหยุดแล้ว แผลยาวต้องเย็บถึง 7 เข็ม เข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสุรินทร์ 2 วัน
โดยมีญาติเดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.ทุ่งมน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งหลวงพ่อในข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่สำนักสงฆ์ พบกับหลวงตาอ้วน เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า วันที่เกิดเหตุนั้น หลวงตากับนั่งดูดวงให้กับญาติโยมที่มาหาบนกุฎิ โยมที่ถูกตีนั้นมาก่อนแล้ว แต่ไม่ขึ้นมา เลยให้คนอื่นแซงคิวขึ้นไปก่อน และ 2 คนที่มานั้นก็เมาด้วย พูดจาเสียงดัง เลยลงมาเตือนอย่าเสียงดัง เตือนอยู่หลายครั้ง
ครั้งสุดท้ายเลยเอาไม้ตะพดลงมาเคาะหัว หัวเลยแตก แต่หลวงตาก็ไม่รู้ว่าถูกแอบถ่ายคลิป อยากจะให้แก้ข่าวด้วยว่าไม่เป็นความจริง ถ้าไม่มีเหตุ พระคงไม่เคาะหัว ต้องมีเหตุถึงได้เคาะ
ส่วนทางด้านนางสาวอรสา จงพูนศรี ผู้ดูแลทำความสะอาดสำนักสงฆ์ เปิดเผยว่า ข่าวที่ออกไปนั้นไม่ยุติธรรม พระแบบนี้ต้องไปรักษา หลวงตาเองก็ไม่ได้ตั้งใจ ท่านใช้ไม้ตะพด พอดีว่าไปโดนสันไม้พอดี ทำให้หัวตี
ล่าสุดทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังที่พักสงฆ์ของหลวงตาอ้วน ตั้งอยู่ในป่าลึกกว่า 2 กิโลเมตร ใกล้กับหมู่บ้านกำไสจาน ต.ทุ่งมน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ลักษณะพื้นที่สำนักสงฆ์ทางเข้ามีป้ายติดไว้ พร้อมเบอร์โทรและไอดีไลน์ ภายในที่พักสงฆ์ต้องขับรถลัดเลาะเข้าไปตามป่า ประมาณ 2 กิโลเมตร ประตูทางเข้าของที่พักสงฆ์ถูกปิดเอาไว้ มีป้ายเขียนติดเอาไว้ว่า "วันพระ หยุด 1 วัน ไม่รับงานในเวลากลางคืน เปิด 06.00 ปิด 16.00 น."
ทีมข่าวก็ได้ตะโกนเรียก หลวงตาอ้วนเดินออกมา พร้อมบอกว่า "ไม่เห็นหรอ ป้ายที่ติดเอาไว้ว่าไม่รับงานเวลากลางคืน นี่มาจากไหนกัน เป็นนักข่าวก็ไม่รับ เพราะปิดแล้ว" ทีมข่าวบอกว่า เดินทางมาจากกรุงเทพฯ จะมาถามถึงเหตุการณ์วันที่หลวงตาตีหัวชาวบ้านจนได้รับบาดเจ็บว่ามันเกิดอะไรขึ้น
หลวงตาอ้วน บอกว่าวันนั้นที่ต้องตีหัวชาวบ้านไป เนื่องจากชาวบ้านคนดังกล่าวมาก่อกวน พูดจาเสียงดังในขณะที่อาตมากำลังนั่งดูดวงให้ลูกศิษย์อยู่ ตอนนั้นพยายามลงมาตักเตือนแล้ว 2 รอบ แต่ชาวบ้านคนดังกล่าวก็ไม่หยุดพูด ก็เลยหยิบไม้ตะพดเคาะหัวไป 1 ครั้ง ที่หัวมันแตกเย็บถึง 7 เข็ม เพราะหัวมันถูกเหลี่ยมไม้ตะพด ยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจตีหัวจนแตก แค่เคาะหัวตักเตือนให้หยุดก่อกวนเท่านั้น ทำไมข่าวถึงพากันไปออกว่าหลวงตาเป็นพระที่โหดร้าย ที่หลวงตาเคาะหัวมัน เพราะหลวงตาหมดความอดทน
ตอนนี้ยอมรับว่ารู้เรื่องแล้วว่าชาวบ้านที่ได้รับบาดเจ็บไปแจ้งความกับตำรวจ ยืนยันไม่หนีไปไหน รอให้ตำรวจมารับไปสอบปากคำ และขอยืนยันว่า ครอบครัวที่มาตั้งใจมาหาเรื่องหลวงตาทุกคน ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ซึ่งครอบครัวนี้ไม่ได้เป็นลูกศิษย์ของหลวงตา เพิ่งจะมาวันเกิดเหตุเป็นครั้งแรก ส่วนรถยนต์ที่เห็นจอดอยู่ข้างกุฏิเป็นรถของลูกสาวมาฝากไว้ หลวงตาอยู่ที่พักแห่งนี้เพียงรูปเดียว ที่ผ่านมาไม่เคยออกไปบิณฑบาต มีญาติโยมมาถวายอาหารให้ถึงที่ และที่พักสงฆ์แห่งนี้ หลวงตาก็เป็นคนสร้างเอง ตอนนี้ยื่นเอกสารขอเป็นสำนักสงฆ์แล้ว
ส่วนเรื่องการดูดวงหลวงตาก็ดูดวงให้กับญาติโยมตามตำราในหนังสือไม่เคยเรียกรับเงินกับใคร แล้วแต่ญาติโยมจะมาถวายให้ ซึ่งลูกศิษย์ของหลวงตามีทั่วประเทศ ไม่ใช่มีแต่ที่ จ.สุรินทร์