เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 65 มีเหตุหญิงถูกทำร้ายเสียชีวิตแล้วถูกอำพรางโยนทิ้งน้ำ ที่บ้านโคกน้ำเกลี้ยง ตำบลป่าไม้งาม อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน ไม่มีเลขที่ หมู่ 3 ตำบลป่าไม้งาม อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู อยู่กลางทุ่งนาห่างไกลจากชุมชน พบนายโพธิ์ศรี เดชเดิม อายุ 85 ปี อยู่ในที่เกิดเหตุ ผู้ตายคือ นางสาววาริน ศรีแล อายุ 48 ปี ภรรยา
เบื้องต้นถูกแจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองบัวลำภู ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายโพธิ์ศรี เดชเดิม ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ในช่วงเวลากลางคืนประมาณ 23.00 น. วันที่ 6 มิ.ย. 65 ทะเลาะกับภรรยา และเกิดมีปากเสียงกัน จนถึงขั้นลงไม้ลงมือ โดยภรรยาได้ไปคว้าเอามีดมาเพื่อที่จะทำร้าย ตนเองจึงได้ใช้เท้าถีบ และเมื่อเห็นภรรยาล้มแล้วยังไปคว้าเอามีดมาต่อ สู้จึงได้ใช้ค้อนตีตะปูตีไปที่ท้ายทอยของภรรยาหลายครั้ง จนเห็นว่าเสียชีวิต และได้นำเอาศพไปทิ้งในน้ำอำพรางไว้
โดยได้ใช้ไม้มัดกับตัว และใช้โซฟายางรถยนต์ทับร่างไว้ จนกระทั่งรุ่งเช้า ทำตัวปกติเหมือนไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น ต่อมาได้เข้าไปในหมู่บ้านหาญาติพี่น้องปรึกษาหารือว่าจะทำอย่างไร สุดท้ายญาติพี่น้องแนะนำว่าให้เข้ามอบตัว จึงได้ไปแจ้งกับผู้ใหญ่บ้าน และประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบยังสถานทีเกิดเหตุ
นายวิจิตร ศรีโพนทอง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 บ้านโคกน้ำเกลี้ยง เล่าว่า ฝ่ายชายแต่ก่อนบวชเป็นพระ ฝ่ายหญิงก็บวชชีอยู่วัดภายในหมู่บ้าน เคยมีสามีแล้ว สามีถูกจับติดคุกในคดียาเสพติ ดต่อมาก็ได้ไปบวชชีหลายครั้ง จนสุดท้ายทั้งคู่ได้สึกออกมาแต่งงานอยู่กันฉันสามีภรรยาประมาณ 2 เดือนกว่า ก่อนจะมาเกิดเหตุฆาตกรรมกันในครั้งนี้
ซึ่งฝ่ายหญิงนั้น ชาวบ้านก็ไม่ค่อยรู้จักประวัติเท่าไร ทราบว่าแต่เดิมอยู่บ้านซำไฮ ต.ผานกเค้า อ.ภูกระดึง จ.เลย มาอยู่หมู่บ้านนี้หลายปีแล้ว จนลูกสาวโตเรียนอยู่ ม.2 แล้ว ซึ่งตอนนี้ศพของผู้ตายทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำไปไว้ที่โรงพยาบาล รอแจ้งหาญาติพี่น้องอีกครั้งหนึ่ง ส่วนตัวผู้ก่อเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ส่วนชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างจับกลุ่มวิพากวิจารณ์กันตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ชาวบ้านซึ่งเป็นญาติกันบางคนยังเล่าว่าในช่วงเช้าหลังจากที่นายโพธิ์ศรีได้ก่อเหตุแล้ว ยังเข้ามาซื้อก้อยลาบกินอยู่ ทำตัวเหมือนกับว่าไม่ได้มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น จนกระทั่งสายถึงมาปรึกษาญาติพี่น้องเข้ามอบตัว และแจ้งสถานที่อำพรางศพ
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังวัดป่าปิยธรรมมาราม หรือ วัดป่าบ้านโคกป่ากุง ซึ่งเป็นวัดที่นายโพธิ์ศรี และนางสาววารินเคยจำพรรษาอยู่นานก่อนลาสิกขา พระธนวัฒน์ ฐานากโร รักษาการเจ้าอาวาส วัดป่าปิยธรรมมาราม หรือ วัดป่าบ้านโคกป่ากุง เผยว่า อดีตพระโพธิ์ศรีมาจำพรรษาที่วัดแห่งนี้มาเป็นระยะเวลากว่า 14 ปี ที่ผ่านมาเป็นพระที่อยู่อย่างประหยัด เรียกง่าย ๆ ว่าขี้เหนียว ใจเย็น ปฏิบัติดี ไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสีย และเงินที่มีก็มาจากเบี้ยยังชีพคนชรา และลูกหลานนำมาให้ เพราะกิจนิมนต์ที่วัดค่อนข้างน้อย มีแต่งานศพเท่านั้น ส่วนรถยนต์นั้นมีอยู่ก่อนแล้ว
กระทั่งเดือน ก.ค. 64 แม่ชีวารินมาขออยู่ที่วัดทุกอย่างปกติดี ไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสียเกี่ยวชู้สาว ต่างคนต่างอยู่ กระทั่งเดือนตุลาคม ทั้งคู่มาขอสึกแต่ไม่ได้มาด้วยกัน ด้วยเหตุว่าอายุมากแล้ว อาตมาเป็นคนสึกให้เอง
ต่อมารู้อีกทีทั้งคู่ก็คบหากันแล้ว อาตมายังตกใจและเสียดายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่านายโพธิ์ศรีจะกล้าทำ คงเกิดจากอารมณ์ขั่ววูบ เพราะแกเป็นคนที่เก็บเงินเก่ง และใช้อย่างละเอียดถี่ถ้วน แต่ก็กรรมใครกรรมมัน