เบิร์ดตัดขาดกระติก ยัวะอ้างนั่งรับลมไม่ว่างดูแลโม “บุญถาวร” สะพรึงโมมาหาขอถอนตัว (คลิป)

7 มิ.ย. 65

วันที่ 7 มิ.ย. 65 บังแจ็ค โพสต์เสียงสนทนากับเบิร์ด แฟนแตงโม ระบุว่ามีการคุยกับกระติกถึงการดูแลแตงโมในวันที่เกิดเหตุ 24 ก.พ. 65 ซึ่งกระติกตอบว่า "แตงโมไม่ใช่เด็ก 2-3 ขวบ จะดูแลได้ยังไง ฉันอยากนั่งตากลมสวย ๆ" ทำให้เบิร์ดไม่พอใจ และไม่คุยกับกระติกอีกเลย

478225

คลิปเสียงความยาว 1.18 นาที ใจความสำคัญเบิร์ดพูดว่า "มึงไม่ดูแลแฟนกูแค่นั้นแหละ เพราะผมคุยกับกระติกครั้งสุดท้ายคือวันที่เจอร่างน้องโม ผมถามว่าทำไมกระติกไม่ดูแลโม มันบอกว่าฉันจะดูแลมันอย่างไง มันไม่ใช่เด็ก 2-3 ขวบนะ ฉันก็อยากจะนั่งสวย นั่งตากลมของฉันสิ คำนี้ทำให้ผมไม่คุยกับมันอีกเลย คือมันไม่เกี่ยวว่าเด็ก 2-3 ขวบโว้ย มันเกี่ยวที่ว่ามึงดูแลเพื่อนมึงอย่างไง มึงดูแลเพื่อนมึงดีหรือป่าว มันไม่เกี่ยวเลยว่าเด็ก 2-3 ขวบ จะต้องมานั่งดูแล 24 ชั่วโมง ต้องมานั่งดูกันตลอด มันไม่ใช่ อีกอย่างมึงเป็นผู้จัดการ ไอ้- เออนั้นแหละพี่"

719119

ส่วนกรณี พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) ออกหมายเรียก นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดา ของนางสาวนิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม มาให้การในฐานะพยานกรณีส่งโทรศัพท์มือถือของแตงโมให้บังแจ็คตามนัดหมายในวันที่ 7 มิ.ย. 65

248214

ต่อมานางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่แตงโม เดินทางมาถึง บช.สอท. มีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เป็นประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมรอรับ เปิดเผยสั้นว่า ตอนนี้ยังไว้ใจบังแจ็ค 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะบังแจ็คมีเพื่อนอยู่ที่ประเทศไทยเยอะมาก ทุกวันนี้ยังมีการติดต่อคุยกันทุกวัน โดยวันนี้ไม่ได้รู้สึกเครียดหรือกังวล

194026

ต่อมา นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมกับนางภนิดา ได้มาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ภายหลังจากการสอบปากคำเสร็จสิ้น นางภนิดา กล่าวว่า ตอนนี้ชีวิตสบายดีขึ้นเยอะมาก เพราะได้เคลียร์อะไรไปเยอะแล้ว ส่วนประเด็นเรื่องโทรศัพท์ของลูกสาว ยอมรับว่าที่ผ่านมาพยายามทำทุกวิถีทางแล้ว ทั้งค้นหาข้อมูลด้วยตัวเอง เพื่อที่จะได้รู้ความจริงว่าลูกสาวเสียชีวิตเพราะอะไรกันแน่ และพยายามไปติดต่อที่ Apple (Thailand) ด้วยตัวเอง แต่ตอนไปถึงทราบว่าผู้จัดการเป็นคนแคนนาดา ก็กลัวคุยกันไม่รู้เรื่อง และกลัวความลับรั่วไหลหากต้องคุยกับพนักงานคนอื่น อีกทั้งยังคิดว่าทาง Apple คงไม่ทำให้เราแน่ เพราะเกี่ยวข้องกับคดีใหญ่ และเป็นเรื่องที่ไม่ดี จึงคิดว่าไม่มีใครอยากยุ่ง เลยตัดสินใจกลับบ้าน

หลังจากวันนั้นมีนักข่าวช่องหนึ่งแนะนำให้รับโทรศัพท์บังแจ็ค ตนจึงตัดสินใจรับสายเพื่อพูดคุย ซึ่งบังแจ็คเขาก็แนะนำตัวดี และเล่าข้อมูลบางอย่างให้ฟังว่า ได้คุยกับคนบนเรือ 1 คน และคน ๆ นี้ยอมรับสารภาพแล้วว่าในคืนวันเกิดเหตุเกิดอะไรขึ้น เขาก็เล่าทั้งหมด พร้อมกับส่งสลิปโอนเงินจำนวน 300,000 บาท ให้กับชื่อของคน ๆ นี้ เป็นค่าตอบแทนที่ยอมรับสารภาพกับเขา เรื่องนี้ได้ให้ข้อมูลกับทางตำรวจแล้ว และจะต้องตรวจสอบว่าเป็นสลิปจริงหรือไม่

โดยนางภนิดา ยอมรับด้วยว่า ตนไม่รู้จริงว่าประเทศไทยสามารถกู้ข้อมูลได้ และเพิ่งจะรู้วันนี้ เพราะถ้ารู้ตั้งแต่แรกคงไม่ส่งโทรศัพท์ไปให้เสียเงิน ประกอบกับบังแจ็คเขาบอกว่าจะเอาโทรศัพท์ไปให้เฮดใหญ่ที่ออฟฟิศของ Apple USA กู้ข้อมูลให้ เพราะมีเพื่อนอยู่ที่นั่นเยอะ ตนก็เลยเชื่อ จึงตัดสินใจส่งไปให้

ส่วนประเด็นภาพที่สงสัยในเครื่องแตงโมนั้น ก็เห็นเป็นภาพจอดำ ไม่เห็นเป็นภาพอะไรเลย ตอนนี้ถ้าหากว่าจะให้ว่าเชื่อใจบังแจ็คอยู่หรือไม่นั้น ตนไม่ขอตอบ แต่ก็ได้คุยกับบังแจ็คแล้วว่าให้เอามาคืน เขาก็กำลังส่งกลับมาให้ บอกไปเมื่อ 3 วันก่อน คาดว่าน่าจะถึงในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ บังแจ็คเองได้บอกตนด้วยว่าจะก๊อบปี๊ข้อมูลไว้ทั้งหมด ซึ่งตนก็ไม่ว่าอะไร เพราะในเครื่องโทรศัพท์ของลูกสาวไม่มีภาพหรือวิดิโออะไรที่น่าเกลียด เพราะแตงโมชอบถ่ายแต่วิว หมาแมวทั่วไป หลังจากนี้หากโทรศัพท์มาถึงจะนำโทรศัพท์เข้ามาให้ที่ สอท. ทันที

นางภนิดา ยังกล่าวทิ้งท้ายอีกว่า ไม่โกรธบังแจ็คที่ยังโพสต์ข้อความและรูปภาพในเพจเฟซบุ๊กของแตงโม มองเป็นเรื่องปกติ และส่วนตัวคิดว่าสาเหตุที่บังแจ็คโพสต์อาจจะเป็นเทคนิคทำให้คนผิดยอมรับสารภาพก็ได้ และจนถึงตอนนี้ตนยืนยันว่า ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองพลาดที่ส่งโทรศัพท์ให้บังแจ็ค เพราะจนปัญญาที่จะเข้าถึง ไม่รู้ว่ามีตำรวจไซเบอร์ ด้วยความที่จิตใจลุ่มร้อน อยากรู้ว่าลูกสาวตายเพราะอะไร ใครเป็นคนทำ และยังเชื่อว่าดีแล้วที่ให้โทรศัพท์ไปเพราะได้รู้ข้อมูลอะไรเยอะมาก ยืนยันว่า ไม่สนใจอะไรแม้ว่าตำรวจจะบอกว่าบังแจ็คเป็นคนเพ้อเจ้อ เพราะตนเชื่อว่าทุกคนเคยมีปัญหา ส่วนหลักฐานที่เห็นจากนายอัจฉริยะเชื่อว่าเป็นเลือดจริง ๆ มีหลายจุด

588734

ด้านทนายบุญถาวร ปัญญาสิทธิ์เผยเรื่องวิญญาณแตงโมเฮี้ยน หลังไลฟ์เล่าเหตุการณ์แปลกชวนขนลุก เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนได้ยินเรื่องความเฮี้ยนของวิญญาณแตงโมมาเยอะมาก ทั้งจากกู้ภัย และคนที่มีประสบการณ์ตรง ถึงขั้นที่มีอยู่วันหนึ่งที่เครื่องปรินต์ที่บ้าน ส.ส.เต้ ทำงานเอง ตนยังเคยเจอกับตัวเอง อย่างเช่น โทรศัพท์มีเสียงดังโดยที่ไม่มีเหตุผล ยังมีเหตุการณ์ที่ประตูที่บ้านของตนล็อกเอง ซึ่งตนก็รู้สึกตกใจมาก และเมื่อตนเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาของ ส.ส.เต้ เจ้าตัวก็บอกว่าเคยเจอมามากกว่านี้อีก

913572

ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนบุคคล เชื่อว่าวิญญาณของน้องแตงโมจะยังไม่สงบสุข จนกว่าพวกเราจะเอาคนผิดมาลงโทษ วิญญาณน้องแตงโมถึงจะสงบ และใครก็ตามที่เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์จากคดีแตงโม ตนเชื่อว่าคนพวกนั้นจะสติฟั่นเฟือน สติหลุดและเป็นบ้าในที่สุด ก่อนหน้านี้ ตนเคยได้พูดคุยกับอาจารย์ท่านหนึ่งที่สื่อสารทางจิตได้ อาจารย์ได้โทรศัพท์มาตักเตือนตนว่าในคดีแตงโมนั้นให้ทำไปอย่างตรงไปตรงมา ไม่เช่นนั้นวิญญาณน้องแตงโมจะไม่ยอม

ในส่วนของคดีแตงโมนั้น ตนเข้ามามีบทบาทได้เนื่องจาก ส.ส.เต้ ได้แต่งตั้งให้ตนมาดูแลแม่ของแตงโม เพราะในช่วงนั้นชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์เยอะ เพราะแม่แตงโมส่งโทรศัพท์ไปให้บังแจ็ค ตนก็ได้เข้ามาช่วยปกป้องสิทธิ์ของแม่แตงโม คอยดูแลดำเนินคดีกับคนภายนอกที่มาคอมเมนต์ให้เสียหาย เพราะในช่วงนั้นมีทั้งแฟนเก่าแตงโมออกมากแสดงความคิดเห็นว่าการที่แม่มาอยู่กับ ส.ส.เต้ นั้นเป็นการหนีเสือปะจระเข้

หลังจากนั้นตนเข้ามามีบทบาทในคดีแตงโม ก็มีคนไปโยงนิทานของตนว่าจะเกี่ยวข้องกับคดีแตงโม ดังนั้นตนจึงจะขอถอนตัวจากคดี ยุติการเปิดที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายคดีแตงโม แต่ยังเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวของ ส.ส.เต้ และแม่แตงโมเหมือนเดิม ในส่วนเรื่องนิทาน ตนยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับคดีแตงโม เพราะตนก็เคยบอกไปแล้วว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องที่ตนแต่งขึ้นมา เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศหนึ่งที่อยู่ไกลทะเลโพ้น เป็นประเทศที่มีนักการเมืองและข้าราชการคอรัปชั่น

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส