โหดฆ่าเผานั่งยางหนุ่ม ผงะเลือดหยดไปกระท่อมปริศนา เจ้าของโต้ฆ่าแต่รถดันอยู่ในน้ำ (คลิป)

วันที่ 28 พฤษภาคม 2565 เมื่อเวลาประมาณ 12.28 น. ร.ต.อ.จีระศักดิ์ ศักดิ์สม” รองสว.สอบสวน สภ.เมืองลำพูน ได้รับแจ้งว่ามีผู้พบศพถูกเผานั่งยางในหมู่บ้านจักคำภิมุข หมู่ 7 ต.ต้นธง อ.เมือง จ.ลำพูน แถวโรงฆ่าสัตว์ ต.ต้นธง อ.เมืองลำพูน หลังจากได้รับแจ้งจึงรายงานให้ พ.ต.อ.ฐิติพล อรุณสกุล ผกก.สภ.เมืองลำพูน ทราบก่อนจะรีบรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยชุดสืบสวน แพทย์เวร โรงพยาบาลลำพูน เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานและกู้ภัยลำพูน

ที่เกิดเหตุพบกลางป่าล้อมรอบด้วยสวนลำไยห่างไกลจากผู้คน พบโครงกระดูกศพเพิ่งเผาใหม่ เนื่องจากอวัยวะภายในยังคงชุ่มเลือดและบางส่วนยังไม่ถูกเผาไหม้ สภาพศพอยู่ในลักษณะนอนหงาย ส่วนเชื้อเพลิงที่คนร้ายใช้ในการเผา มีเศษไม้ สแลนกันแดดที่ถูกเผาไหม้ เชือกไนล่อนที่ถูกเผาไหม้ และเศษยางรถยนต์ที่ถูกเผาไหม้เหลือไว้เป็นขดลวดของยางรถ

นอกจากนี้ หลังมีการเคลื่อนย้ายศพเพื่อนำไปตรวจหาดีเอ็นเอระบุตัวตน เจ้าหน้าที่ยังพบซากโทรศัพท์ของผู้ตาย 2 เครื่อง อยู่บริเวณซ้ายและขวาของศพ คาดว่าน่าจะถูกใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงซ้ายและขวา มีแบตเตอรรี่และหน้าจอที่หลุดออกจากตัวเครื่อง พบสปริงลำกล้องปืน คาดว่าเป็นชิ้นส่วนประกอบของปืนปากกาหรือไม่ก็ปืนบีบีกัน พบหัวกระสุนที่ถูกเผาไหม้ 1 ชิ้น มีดพับถูกเผาไหม้ 1 เล่ม

ผ่านไปประมาณ 20 นาที หลังจากเจ้าหน้าที่กว่า 10 นาย กระจายกำลังกันหาเบาะแสเพิ่มเติม ก็พบว่าตรงบริเวณพงหญ้าริมสระน้ำห่างจากจุดพบศพประมาณ 200 เมตร มีร่องรอยของหญ้าที่ล้มเป็นแนวราบ คล้ายมีการลากบางอย่างลงไปในสระ จึงประสานนักประดาน้ำลงงมหาหลักฐานเพิ่มเติม หลังงมหา 10 นาทีก็พบรถ จยย. 1 คัน ยี่ห้อยามาฮ่า สีแดง-ดำ รุ่น เฟรช ทู มีสติกเกอร์กองปราบปรามแปะอยู่ด้านหน้า ไม่มีแผ่นป้ายทะเบียน อยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 2 เมตร

จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงมีการประสานไปยังผู้นำชุมชนในละแวกใกล้เคียง เพื่อตรวจสอบว่ามีลูกบ้านคนไหนหายบ้าง จนกระทั่งเวลาประมาณ 14.00 น. มีชาวบ้านรายหนึ่งทราบชื่อ นายเกตุ หิรัญรัตน์ อายุ 59 ปี แจ้งว่าลูกชายตัวเองหายออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา

นายเกตุเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุและมีการตรวจสอบรถ จยย. ที่พบในสระน้ำก็มั่นใจว่าเป็นรถของลูกชาย ทราบชื่อ นายวุฒิไกร หิรัญรัตน์ หรือ เอก อายุ 37 ปี จากนั้นเมื่อไปตรวจสอบสภาพศพที่ถูกเผาไหม้ ก็ยืนยันได้ว่าเป็นลูกชายจริง เนื่องจากจำกางเกงในสีแดงและมีดพับได้

จากนั้นเวลาประมาณ 15.00 น. พล.ต.ต.มงคล สัมภวะผล ผบก.ภ.ลำพูน ลงพื้นที่เกิดเหตุ และได้มีการตรวจสอบโดยรอบด้วยตนเอง พบว่าบริเวณกระท่อมไม้ห่างจากจุดพบศพประมาณ 90 เมตร พบคราบเลือดหยดอยู่ที่กอหญ้าหน้ากระท่อม 1 จุด พบร่องรอยคล้ายการกดทับหน้ากระท่อม 1 จุด พบร่องรอยการชำระล้างลานปูนซีเมนต์บริเวณหน้ากระท่อม พบการเชื่อมโยงสายไฟจากกระท่อมซึ่งเป็นเต้ารับ ไปยังปลั๊กเสียบที่อยู่บริเวณริมคลองส่งน้ำหน้ากระท่อม คล้ายกับการเสียบปลั๊กเพื่อเปิดเครื่องสูบน้ำสำหรับชำระล้างพื้นปูนซีเมนต์ด้านหน้า พบสแลนกันแดดสีน้ำเงิน และพบเชือกไนล่อน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงสันนิษฐานว่าช่วงเวลาเกิดเหตุน่าจะประมาณเที่ยงคืนถึงตี 1 ที่ผ่านมา เพราะมีชาวบ้านรอบสวนบอกว่าเห็นไฟลุกขึ้นบริเวณดังกล่าวเวลาประมาณตี 1 และคาดว่าผู้ตายน่าจะถูกฆ่าด้วยวิธีการยิง ที่บริเวณลานปูนซีเมนต์หน้ากระท่อม แล้วเลือดกระเด็นไปที่บริเวณต้นหญ้าใกล้ ๆ จากนั้นถูกพันธนาการด้วยเชือกไนล่อน ห่อด้วยสแลนกันแดด จากนั้นก็ลากศพผู้ตายไปเผานั่งยางที่บริเวณจุดพบศพ ก่อนจะกลับมานำรถ จยย. ผู้ตายไปทิ้งลงสระ แล้วสุดท้ายก็กลับมาต่อสายไฟเครื่องสูบน้ำและชำระล้างเลือดที่บริเวณลานปูนซีเมนต์

พ.ต.อ.ฐิติพล อรุณสกุล” ผกก.สภ.เมืองลำพูนให้ข้อมูลว่า เท่าที่ตรวจสอบประวัติผู้ตาย ยังไม่เคยมีประวัติเรื่องของธุรกิจผิดกฎหมาย ต้องขอเวลาให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อจะสาวไปยังผู้ที่ก่อเหตุ

นายเกตุ หิรัญรัตน์ อายุ 59 ปี พ่อของผู้ตาย บอกว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาเวลาประมาณ 20.00 น. ตนเห็นว่าลูกชายคุยโทรศัพท์กับใครสักคน ท่าทางปกติ ไม่ได้เคร่งเครียด แล้วไม่นานลูกชายก็เดินไปที่รถ จยย. ตนก็บอกว่า "พรุ่งนี้ทำงานพ่นยาลำไยนะ ไม่ต้องไปเที่ยว" แต่เหมือนลูกชายจะไม่ฟัง ก็เลยสตาร์ตรถ จยย. แล้วขับออกจากบ้านไป โดยที่ไม่ได้บอกอะไรกับตนก่อน จากนั้นประมาณ 06.00 น. ของวันนี้ตนพยายามโทรหาลูกชายแต่ก็โทรไม่ติด จนกระทั่งช่วงบ่ายที่ผ่านมาถึงได้รับแจ้งว่ามีคนพบศพ ก็เลยเข้ามาตรวจสอบ ปรากฏว่าเป็นศพของลูกชาย

เหตุผลที่ยืนยันว่าศพดังกล่าวเป็นลูกชาย เพราะจำกางเกงในสีแดงและกางเกงยีนขายาวซึ่งพบในศพได้ ลูกชายใส่อยู่ที่บ้านประจำ รวมถึงรถ จยย. ที่พบในสระก็เป็นรถของลูกชายด้วย บวกกับมาทรายภายหลังว่าพบโทรศัพท์ 2 เครื่อง และมีดพับในศพก็ตรงกับสิ่งที่ลูกชายมักจะพกติดตัวตลอด ส่วนปืนนั้นตนไม่ทราบมาก่อนว่าลูกชายมีไว้ติดตัว

ทั้งนี้ ถ้าถามว่าลูกชายเคยมีปัญหาหรือทะเลาะเบาะแว้งอะไรกับใครไหม ปกติลูกชายก็จะทำงานรับจ้างทั่วไปเหมือนกับตน ก็คือทำไร่ทำสวน ตัดหญ้า ตัดไม้ รับจ้างพ่นยาฆ่าแมลงในสวนลำไย ไม่เคยทราบมาก่อนว่าลูกชายมีปัญหากับใคร และเรื่องหนี้สินก็ยืนยันว่าไม่มีด้วย

ส่วนประเด็นชู้สาวนั้น ลูกชายเคยมีภรรยาแต่เลิกกันได้ประมาณ 10 ปีแล้ว เพราะภรรยาเขาไปมีแฟนใหม่อยู่ที่กรุงเทพฯ แล้วก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย หลังจากนั้นลูกชายก็เป็นโสดมาตลอด ไม่เคยเห็นว่ามีแฟนและไม่เคยมีใครบุกมาหาเรื่องที่บ้านด้วย จะมีแค่กลุ่มเพื่อนที่แวะเวียนกันมาร่วมกันนั่งสังสรรค์ แต่นาน ๆ ครั้งจะมาที และเรื่องยาเสพติดยอมรับว่าเมื่อก่อนลูกชายเคยยุ่งเกี่ยวและเสพจริง แต่เมื่อ 2 ปีที่แล้วลูกชายเข้ารับการบำบัดอยู่ประมาณ 1 อาทิตย์ หลังจากนั้นพอออกมาก็ไม่เห็นว่าจะยุ่งเกี่ยวอีกเลย แต่ลับตาตนไม่รู้

ในขณะที่ผู้พบศพคนแรกคือ นายชายชาญ แม่นมั่น อายุ 44 ปี ชาวบ้านหมู่เดียวกับผู้ตาย เล่าว่าเมื่อเช้าของวันนี้เวลาประมาณ 08.00 น. ตนขับ จยย. เข้ามาในพื้นที่เกิดเหตุเพื่อทำการขุดหน้าดินให้กับผู้จ้าง โดยแม็คโครของตนจอดอยู่ด้านในตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็นแล้ว แต่ขณะที่ขับเข้ามาตอนเช้า ผ่านจุดพบศพก็ยังไม่เห็นอะไรผิดปกติ

จากนั้นตอน 12.00 น. ตนพักเที่ยงก็เลยลงจากแม็คโครแล้วขับ จยย. ออกมาเพื่อจะกลับบ้าน แต่ขณะขับกลับก็เหลือบไปเห็นฝั่งซ้ายมือ เป็นลักษณะคล้ายหัวกะโหลก แต่สองจิตสองใจว่าจะจอดดูดีไหม จึงขับผ่านตรงนั้นไปประมาณ 5 เมตร ก็เลยตัดสินใจกลับรถมาดู ปรากฏว่าภาพที่เห็นคือกะโหลกของมนุษย์ รวมถึงร่างกายที่ถูกเผาไหม้หมดแล้ว และมีไส้ทะลักออกมาด้วย

วินาทีนั้นตนตกใจมากไม่ทันได้ลงจากรถ อึ้งอยู่ประมาณ 1 นาทีแล้วก็รีบกลับไปบอกคนที่บ้าน ให้ประสานเจ้าหน้าที่ ซึ่งส่วนตัวแม้ว่าจะอยู่บ้านเดียวกับผู้ตายแต่ไม่ได้รู้จักกัน เพราะตัวเองเป็นคน จ.ขอนแก่น เพิ่งจะมาเป็นเขยที่นี่ได้ไม่นาน

เวลา 18.00 น. ที่ สภ.เมืองลำพูน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวเจ้าของกระท่อม ที่พบคราบเลือดบริเวณกอหญ้าด้านหน้า ซึ่งเป็นชาย 1 รายมาสอบปากคำ และในเวลา 18.45 น. เจ้าของกระท่อมออกมาดื่มน้ำ ที่หน้าห้องสอบสวนด้วยสีหน้าท่าทางนิ่งเฉย ไม่ได้ดูกระวนกระวายแต่อย่างใด

ทีมข่าวพยายามสอบถามว่าเมื่อวานนี้ได้ติดต่อหรือพบเจอกับผู้ตายไหม เจ้าตัวตอบเพียงสั้น ๆ ว่า "ไม่ได้เจอกับผู้ตาย แต่รู้จักกันเพราะเป็นคนบ้านเดียวกัน" ก่อนจะเดินกลับเข้าห้องสอบฯ

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณบ้านของผู้ตาย พบว่าเวลา 21.02 น. จะเห็นว่าผู้ตายขับ จยย. คันที่พบในสระน้ำออกจากบ้านเพียงคนเดียว มุ่งหน้าไปยังจุดเกิดเหตุ ไม่มีใครขับตาม สอดคล้องกับข้อมูลที่พ่อของผู้ตาย