เซ่น 3 ชีวิต! พ่อเลี้ยงยิงลูกท้องห่วงผัวป้ายแดงทำช้ำ เมียโต้ชู้สาวช็อกฆ่าตัวตาม (คลิป)

27 พ.ค. 65

จากกรณี เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 65 ร.ต.อ.ฉลาด สุขวิเศษ รอง สว.(สอบสวน) สภ.หินเหล็กไฟ รับแจ้งเหตุยิงกันตาย 2 ศพ ที่บ้านเลขที่ 56 หมู่ 5 ต.ตูมใหญ่ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ จึงเดินทางไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุอยู่ภายในห้องนอนพบศพ น.ส.อัจจิมา คูเรืองรัมย์ อายุ 32 ปี ถูกยิงบริเวณศีรษะน อนตะแคงเสียชีวิตอยู่บนที่นอน

303055675994750244

 

ใกล้กันพบศพ นายเพชร์ ก๋องก๋อง อายุ 55 ปี ถูกกระสุนปืนยิงเข้าบริเวณศีรษะ นอนเสียชีวิตอยู่บนที่นอนเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ ยังพบอาวุธปืนขนาด .38 ตกอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากการตรวจสอบเบื้องต้น น.ส.อัจจิมา เพิ่งจะผูกข้อไม้ข้อมือกับแฟนหนุ่ม ได้ประมาณ 1 สัปดาห์ ตั้งท้องได้ 6 เดือน และเป็นลูกติดของภรรยานายเพชร์

 

237413

 

ล่าสุดวันที่ 27 พ.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ ที่บ้านหมู่ 5 ต.ตูมใหญ่ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ โดยลักษณะบ้านที่ เป็นจุดเกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้นครึ่งไม้ครึ่งปูน อยู่ติดถนนกลางหมู่บ้าน มีห้องโถงอยู่กลางบ้าน บรรยากาศที่บ้านในช่วงเช้าทางญาติได้จัดเตรียมกางเต็นท์เอาไว้ที่ข้างบ้าน รอรับศพทั้งคู่มาตั้งบำเพ็ญกุศลด้วยกัน

332310

น.ส.สุดา สองกอง อายุ 48 ปี ภรรยาของผู้ก่อเหตุแ ละเป็นแม่ของผู้เสียชีวิตในขณะตั้งท้องได้ 6 เดือน เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคาดว่าสามีเครียดและเก็บกด เนื่องจากลูกสาวคนโตซึ่งเป็นลูกติดของตนเอง ได้ตั้งท้องกับลูกเขยที่คบหาดูใจกันอยู่ แล้วปกปิดเรื่องท้องมา 6 เดือน ซึ่งเรื่องนี้ความมาแตกตอนที่ลูกเขยมาสู่ขอลูกสาว และสารภาพว่าทำลูกสาวท้อง

จากนั้นทั้งคู่ก็ผูกข้อไม้ข้อมือเป็นบ่าวสาว มีค่าสินสอดให้พ่อแม่เป็นเงินสด 1 แสนบาทกับทองคำอีก 1 บาท จัดงานเล็ก ๆ วันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา แล้วฝ่ายชายก็ย้ายมาอยู่ที่บ้านกับลูกสาว เริ่มแรกก่อนทั้งคู่จะมาอยู่ด้วยกันก็ไม่พบว่าเคยมีปัญหาทะเลาะกัน แต่พอหลังแต่งงาน ฝ่ายชายมาอยู่กินกับลูกสาวแบบสามีภรรยาก็ทะเลาะกันบ่อยครั้ง จนทำให้ลูกสาวร้องไห้ทุกวัน ซึ่งปัญหานี้ของทั้งคู่ ครอบครัวรู้ เพราะลูกสาวไม่ยอมบอก

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนตัวเชื่อว่าปมเหตุที่สามีก่อเหตุลงไปเพราะเกิดความเครียดที่ลูกสาวท้องก่อนแต่ง แล้วต้องมานั่งเห็นภาพลูกสาว นั่งเสียใจทุกวัน ยืนยันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับเรื่องชู้สาว เพราะสามีเลี้ยงและรักลูกสาว เหมือนกับลูกแท้ ๆ มาตั้งแต่ลูกสาวมีอายุไม่ถึง 10 ขวบ ซึ่งที่ผ่านมาสามีเป็นเสาหลักของบ้าน วาดความฝันอยากจะให้ลูกสาวทั้งสองคนมีชีวิตที่ดี แต่ลูกสาวดันทำให้พ่อเสียใจ เกิดความเครียด จึงบันดาลโทสะตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว

844698

นางสาวกวาง (นามสมมติ) อายุ 22 ปี น้องสาว ของน.ส.อัจจิมา ผู้ตาย และเป็นลูกสาวของนายเพชร์ ผู้ก่อเหตุ ที่อยู่ในเหตุการณ์ พาทีมข่าวเดินไปดูภายในห้องโถง ในที่เกิดเหตุที่พี่สาวนอนเสียชีวิตอยู่กับพ่อ เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ก่อนเกิดเหตุประมาณ 9 โมงเช้า ตนเองนอนอยู่ในห้องพ่อ ได้ยินเสียงพี่เขยกับพี่สาวทะเลาะกันอยู่ บนที่นอนในห้องโถง ที่เป็นห้องนอนของพี่สาว ตนเองก็เลยเดินออกไปดูถามว่าเป็นอะไรกัน แต่พี่สาวก็ไม่ยอมพูด เอาแต่ร้องไห้ จับใจความได้ว่าพี่สาวไม่อยากให้พี่เขยกลับไปทำงานในเมืองบุรีรัมย์

 

996458

 

หลังจากนั้นพี่เขยออกไปจากบ้าน ผ่านไปประมาณ 15 นาที พ่อก็ขับรถเข้ามาจอดที่ข้างบ้าน แล้วก็เดินไปเห็นพี่สาวกำลังนั่งร้องไห้อยู่ พอพ่อเห็นภาพพี่สาวนั่งร้องไห้เสียใจ ก็เดินเข้ามาหาตนเองที่ห้อง แล้วก็พูดสั่งเสียฝากแม่ ฝากคนที่บ้าน แล้วก็เดินไปเอาปืนที่รถ

จนกระทั่งผ่านไปประมาณ 1 นาที ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด ด้วยความตกใจจึงรีบวิ่งออกมาดูพ่อ แต่ไม่เห็นพ่อ เห็นแต่พี่สาวนอนหันหน้าออกมาและยังไม่รู้ว่าพี่สาวตายแล้ว จึงตะโกนถามกับพี่สาวไปว่าพ่ออยู่ไหน เห็นพ่อไหม แต่พี่สาวก็ไม่ตอบวิ่งวนไปวนมาที่บ้าน หาพ่อไม่เจอ

กระทั่งย้อนกลับไปที่ห้องพี่สาว แล้วก็เห็นพ่อนอนตายอยู่ข้างพี่สาว โดยหันหลังชนกัน สภาพเลือดไหลนองเต็มที่นอนไปหมด ส่วนปืนที่พ่อใช้ก่อเหตุ ก็ตกอยู่ที่ข้างมือของพ่อ พอแม่เดินทางมาถึงบ้าน ตนเองก็วิ่งไปกอดแม่ บอกกับแม่ว่าพ่อกับพี่สาวตายแล้ว ยอมรับว่าเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ต้องมาเสียพี่สาวกับพ่อ รวมถึงหลานที่อยู่ในท้องพี่สาวไปพร้อมกัน ซึ่งก่อนเกิดเหตุประมาณ 1 เดือน ตนเองเคยฝันว่าฟันล่วงหมดปาก แล้วในฝันยังเห็นภาพพ่อยืนอยู่บนเมรุ ยิ่งไปกว่านั้นตลอดทั้งเดือนที่ผ่านมา เห็นหน้าพี่สาวหมองคล้ำ ไม่คิดว่าสิ่งที่เห็นและฝันจะเป็นลางสังหรณ์

ซึ่งเมื่อวานนี้ ที่ทางครอบครัวไม่ได้ให้ข้อมูลกับสื่อไป เนื่องจากรับไม่ได้ที่สื่อบางที่เต้าข่าวกันไปลงว่าพี่สาวกับพ่อเป็นชู้สาวกัน จนเป็นปมเหตุทำให้พ่อต้องฆ่าลูก ยืนยันว่าพ่อคนนี้เป็นพ่อที่ดี รักพี่สาวเหมือนกับลูกแท้ ๆ ของตัวเอง

238971

เมื่อเวลา 19.00 น. ญาติได้รับศพของทั้ง 2 รายออกมาจากโรงพยาบาล และเคลื่อนย้ายศพมาประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านหลังที่เกิดเหตุ โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า เนื่องจากศพของ น.ส.อัจจิมา ไม่สามารถผ่าศพลูกในท้องออกมาได้ ซึ่งจะต้องนำศพ ของ น.ส.อัจจิมา บำเพ็ญกุศลไปพร้อมกับศพลูกที่ยังอยู่ในท้อง

เมื่อญาตินำศพของทั้งคู่ลงมาจากรถ ภรรยาผู้ตายและลูกสาว ร่วมถึงญาติก็ได้พากันร่ำไห้ กอดและกราบที่เท้าของศพ ก่อนจะนำถุงเท้ามาใส่ให้ทั้งคู่ ส่วนนายวุฒิ วงษ์จันทร์ อายุ 33 ปี สามี เปิดหน้าศพภรรยาหอมที่หน้าผากอำลากันเป็นครั้งสุดท้าย

 

541708

นายวุฒิ วงษ์จันทร์ อายุ 33 ปี สามีของ น.ส.อัจจิมา เปิดเผยว่า ตนเองเป็นเพื่อนเรียนด้วยกันมากับภรรยา ตั้งแต่ ม.4 และได้ตกลงคบหาเป็นแฟนกัน เมื่อตอนที่ตนเองไปเป็นทหารเกณฑ์ ยอมรับว่าตนเองผิดที่ไม่บอกกับญาติผู้ใหญ่ฝ่ายภรรยาว่าภรรยาตั้งท้อง เนื่องจากเกรงว่าจะดูไม่ดี จึงยังไม่อยากบอก ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะเป็นปมให้พ่อตาตัดสินใจยิงภรรยา

ซึ่งวันเกิดเหตุในช่วงเช้า ตนเองก็ยังออกไปช่วยพ่อตากับแม่ยายที่ร้านแตงโม โดยไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน พอช่วงสายก็กลับมาเก็บของที่บ้าน แล้วก็บอกกับภรรยาว่าจะไปเอาทะเบียนบ้าน มาทำบัตรประชาชนใหม่ในเมือง แต่ภรรยาไม่ยอมให้ไป คิดว่าตนเองจะไปหลายวัน พอดุนิดหน่อย ภรรยาก็ร้องไห้ตามภาษาคนท้อง

หลังจากนั้น พอตนเองเห็นว่าภรรยาหลับ ก็ขับรถออกไปจากบ้าน ขับไปยังไม่ทันถึงตัวเมือง แม่ยายก็โทรศัพท์ไปบอกว่าภรรยาตายแล้ว ยืนยันทั้งก่อนวันเกิดเหตุและวันเกิดเหตุ ตนเองไม่เคยมีปัญหาทะเลาะอะไรกับพ่อตาและแม่ยาย เสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ต้องเสียภรรยาไปพร้อมกับลูกที่กำลังจะเกิด อีกไม่กี่เดือนที่จะถึง

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส