CSI LA ล่าบังแจ็คข้ามโลก แฉเข้าเมืองเถื่อนปลอมเอกสาร (คลิป)

26 พ.ค. 65

เพจ CSI LA แฉบังแจ็ค ใช้ชื่อปลอม-ที่อยู่ปลอมในสหรัฐ จับโป๊ะป้ายทะเบียน-หัวดับเพลิง เตือนแม่แตงโม และคนไทยอย่าหลงเชื่อบังแจ็คเป็นคนดี เตรียมรวบรวมหลักฐานแฉเพิ่ม มีเหยื่อเด็กนักเรียนสาวเคยถูกบังแจ็คข่มขืนเมื่อ 5 ปีก่อนด้วย

 

บังแจ็ค

 

จากกรณี เพจ CSI LA ได้โพสต์ภาพหน้าบังแจ็ค พาดหัวว่า "เปิดพิกัดบังเจ็ค ไม่ได้อยู่แคลิฟอร์เนีย" พร้อมข้อความรายละเอียดโพสต์ระบุว่า "จากการสังเกตสภาพแวดล้อมของป้ายทะเบียนรถและหัวดับเพลิง ตอนโทรไลฟ์สดกับไทยรัฐทีวี คืออยู่เมือง Chicago รัฐ Illinois และ เห็นได้ชัดว่าเป็นเวลาเช้า แต่ที่ California ตอนนั้นยังมืดอยู่"

 

บังแจ็ค

 

โดยบังแจ็คไม่ได้ใช้ชื่อจริงทั้งเวลาอยู่ที่นี่และที่เมืองไทย เพราะทางเพจได้ตรวจใบตรวจคนเข้าเมืองของไทยและ บัตร ID ของบังแจ็คที่รัฐนิวยอร์กแล้ว สรุปเป็นที่อยู่ปลอมและชื่อก็ปลอม โดยการสวมชื่อนักกีฬาชาวปากีสถาน ตอนนี้ทางเพจได้เริ่มประสานงานกับตำรวจแล้ว ใครเจอหรือมีข้อมูลบังอีกส่งมาหลังไมค์ได้เลย

 

ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 26 พ.ค. 65 ทีมข่าวได้พูดคุยแอดมินเพจ CSI LA ให้ข้อมูลว่า สิ่งที่ตนเองลงข้อมูลผ่านเพจไปนั้น ต้องการอยากให้แม่ของคุณแตงโม และคนไทยทั้งประเทศอย่าหลงเชื่อผู้ชายคนนี้เด็ดขาด เพราะบังแจ็คคนนี้เชื่อถือไม่ได้สักเรื่อง

 

บังแจ็ค

 

เริ่มต้นจาก เมื่อคืนนี้บังแเจ็คได้ไลฟ์เฟซบุ๊กพูดคุยกับนักข่าวทางโทรทัศน์อ้างว่า กำลังขับรถอยู่ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา พร้อมกับโชว์โทรศัพท์ของคุณแตงโมที่แม่ของคุณแตงโม ได้ส่งมาให้เพื่อไขคดี ซึ่งเวลานั้นตนเองก็อยู่ที่รัฐแคลิฟอร์เนียเหมือนกัน จึงรู้ทันทีว่าบังแจ็คกำลังโกหกคนไทย และนักข่าวทุกคนอยู่ เนื่องจากช่วงเวลานั้นแคลิฟอร์เนีย ตนเองอยู่ท้องฟ้ายังมืดอยู่เลย แต่ทำไมแคลิฟอร์เนียของบังแจ็คสว่างแล้ว ซึ่งเป็นไปไม่ได้

 

และเมื่อสังเกตเห็นหัวดับเพลิงตามถนนในไลฟ์บังแจ็ค สีแดง ก็รู้ทันทีว่า จริง ๆ แล้วบังแจ็คอยู่รัฐชิคาโก้ ไม่ใช่แคลิฟอร์เนีย เพราะหัวดับเพลิงของรัฐแคลิฟอร์เนียจะเป็นสีเหลือง ซึ่งหัวดับเพลิงของแต่ละรัฐนั้นจะมีสีที่ไม่เหมือนกัน

 

บังแจ็ค

 

นอกจากนี้ ยังพบว่าบังแจ็คมีการใช้ใบขับขี่ปลอมในสหรัฐอเมริกาอีกด้วย ซึ่งหากสังเกตใบขับขี่ของบังแจ็ค จะพบข้อมูลที่ผิดจากความเป็นจริงมาก คือ

 

บังแจ็ค

 

1. ที่อยู่ในใบขับขี่บังแจ็ค ระบุชื่อถนน คือ 15 CHURCH ST ซึ่งถนนในบัตร ไประบุว่าอยู่ที่ BROOKYN รัฐนิวยอร์ก แต่หากไปดูชื่อถนนจริง ๆ แล้ว ถนนดังกล่าวจะอยู่ฝั่งเกาะแมนแฮตตัน

2. ชื่อ-นามสกุลของบังแจ็ค คือ RAJA ZULQARNAIN HAIDER ซึ่งตนเองนำไปค้นหาในฐานข้อมูลประชาชนชาวอเมริกัน กลับไม่พบรายชื่อนี้เป็นพลเมืองในสหรัฐฯ แต่บังแจ็คอ้างว่าตัวเองเป็นชาวอเมริกัน

3. ในใบขับขี่บังแจ็ค ระบุวันเกิด 09-12-1990 แต่เมื่อดูในพาสปอร์ตบังแจ็ค กลับระบุวันเกิดปี 1987

4. ในใบขับขี่บังแจ็ค ขึ้นว่าหมดอายุ 2013 ถึง 2018 หมดอายุภายใน 5 ปี แต่หากเป็นใบขับขี่ของสหรัฐจริง จะมีระยะเวลาหมดอายุ 8 ปี ไม่ใช่ 5 ปี

5. สีและรูปในใบขับขี่บังแจ็ค ไม่ตรงกับแบบใบขับขี่ของจริงของสหรัฐ และรูปของบังแจ็คคล้ายเอารูปมาตัดแปะลงบัตร ของแท้ บริเวณรูปต้องมีลายน้ำทับรูปภาพเจ้าของบัตรด้วย ไม่ใช่เป็นพื้นหลังขาวแบบนั้น

นอกจากนี้ ยังมีเอกสารเดินทางที่บังแจ็ค ระบุว่าใช้ชื่อ RAJA เข้ามาในประเทศไทยล่าสุดเมื่อปี 2015 โดยระบุบังแจ็คสัญชาติ ปากีสถาน ในการเข้าประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาบังแจ็คอ้างว่า เป็นคนสัญชาติสหรัฐ หรือเป็นพลเมืองชาวอมริกัน ทำไมไม่ใช่พาสอร์ตของสหรัฐ จริงแล้ว RAJA คือชื่อบังแจ็คจริงหรือไม่

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ตนเองออกมาเปิดเผยเรื่องทั้งหมดนั้น ไม่ได้ต้องการที่จะดิสเครดิตบังแจ็คแต่อย่างใด แต่ตนเองเป็นห่วงคุณแม่คุณแตงโมและคนไทยทั้งประเทศ กลัวจะถูกผู้ชายคนนี้หลอก เพราะที่ผ่านมาตนเองยังทราบอีกว่า บังแจ็คเมื่อ 7 ปีก่อนยังเคยไปก่อเหตุข่มขืนและพรากผู้เยาว์ เป็นเด็กนักเรียนหญิงที่จังหวัดนครราชสีมาอีกหลายคนอีกด้วย ซึ่งขณะนั้นบังแจ็คเข้ามาภายในประเทศไทย เป็นคุณครูสอนภาษาอังกฤษ ตอนนี้ตนเองอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน ขอยังไม่เปิดเผยเด็กผู้เสียหาย และอยู่ระหว่างประสานตำรวจดำเนินคดีกับบังแจ็ค

 

บังแจ็ค

 

ทีมข่าววีดีโอคอลพูดคุยกับ นายราชา ไฮเดอร์ หรือ บังแจ็ค เปิดเผยว่า กรณีแบล็กลิสต์ 10 ปี ส่วนตัวยืนยันว่าตนไม่ได้ตรวจสอบเรื่องนี้ แต่เคยให้สัมภาษณ์กับรายการหนึ่ง และรายการนั้นมีการตรวจสอบแล้วว่าตนเองไม่มีแบล็กลิสต์ ซึ่งตนเองก็ทราบจากข้อมูลนั้น ส่วนเรื่องแบล็กลิสต์ตนเองก็ไม่ได้สนใจ เพราะตนเองถือสัญชาติสหรัฐฯ ไม่จำเป็นต้องเข้าไทยอยู่แล้ว หลังจากที่วานนี้ตนบอกว่าจะกลับไทยแน่นอน

 

บังแจ็ค

 

เรื่องคนจับผิดสถานที่ที่ตนเองอยู่ ตนเองยืนยันว่าตนเองอยู่ในสหรัฐฯ โดยใช้ชีวิตอยู่ 3 เมือง คือ นิวยอร์ค ชิคาโก้ และแคลิฟลอเนีย
ขณะสัมภาษณ์ตนยืนยันว่าอยู่แคลิฟลอเนีย อย่างไรก็ตาม ตนเองมองว่าเรื่องที่อยู่ตนไม่เกี่ยวกับคดี อย่างหนึ่งตนไม่ได้อยู่บอสตัน ตามที่ตำรวจบอก ทั้งนี้ ตนมีความกังวลเรื่องความปลอดภัย และไม่พอใจสื่อช่องหนึ่งที่เอาเรื่องจับผิดออกอากาศ

 

บังแจ็ค

 

ด้าน พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ เปิดเผยว่า จากข้อมูลรายงานและการติดตาม ยืนยันว่าตัวของบังแจ็ค ยังอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ตอนนี้ตนเองยืนยันว่าเอกสารที่อยู่ในมือเป็นพิกัดที่อยู่ล่าสุดของบังแจ็ค ที่ทางตำรวจไซเบอร์ได้มีการติดตามสัญญาณและความเคลื่อนไหวอยู่ แต่จะไม่ขอระบุที่มาของเอกสารดังกล่าวหรือข้อมูลดังกล่าว เพราะเนื่องจากการทำหน้าที่ในฐานะตำรวจไซเบอร์มีเครือข่ายในการทำงานหลักหลายประเทศ ไม่ว่าจะเคลื่อนไหวแบบไหนอย่างไรตำรวจประเทศไทยก็รู้ความเคลื่อนไหว แต่ในหลักการทำงานของตำรวจไซเบอร์นั้น ก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับตัวของบังแจ็คมากนัก และไม่จำเป็นต้องจับตามองตลอด เพียงแค่ให้รู้ความเคลื่อนไหวในการกระทำผิดแต่ละครั้งเท่านั้น

 

774925

 

ที่สำคัญการที่บังแจ็ค ได้มีการนำข้อมูลออกมาเผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์ ซึ่งมีกฎหมายคอมพิวเตอร์รองรับ ฉะนั้นการกระทำผิดทั้งหมดก็เกิดขึ้นในหลายกรรม แม้ว่าจะมีการอ้างว่าไม่มีเจตนาที่จะเผยแพร่คลิปลามกอนาจารหรือคลิปลับบางอย่างผ่านโทรศัพท์ของใคร แต่ด้วยเงื่อนไขของข้อกฎหมายที่ระบุว่า เผยแพร่ หรือ ส่งต่อ ไม่ว่าจะตั้งแต่กี่คน หรือหนึ่งคนขึ้นไป ก็ถือว่ามีความผิดเกิดขึ้นแล้ว

 

ดังนั้นการที่ตัวของบังแจ็คมีการส่งเข้าไปในมือถือของนางสาวกระติก ก็ถือว่าความผิดเกิดขึ้นแล้วเช่นเดียวกัน และแม้ว่าเจ้าตัวจะอ้างว่ามีคลิปหลักฐานซึ่งเป็นภาพเกี่ยวโยงกับบุคคลดังอีกเกือบ 30 คน หรือแม้แต่มีคลิปเสียงที่อ้างว่าเกี่ยวข้องกับสำนวนคดี หากเป็นเรื่องราวที่ไม่เหมาะสมแล้วถูกนำมาเผยแพร่ ก็จะเกิดเป็นการกระทำผิดเพิ่ม ทุกครั้งที่โพสต์ แล้วพาดพิง หรือมีอะไรที่ไม่เหมาะสมผิดกฎหมาย ก็จะกลายเป็นความผิดเพิ่มอีกหลายๆกรรม

 

ทั้งนี้ที่บังแจ็คอ้างว่าสามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ โดยหมายจับที่มีนั้นเป็นเพียงแค่ข้อหาหมิ่นประมาทเล็กน้อย มีการเตรียมทนายความเอาไว้แล้ว สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ ส่วนตัวในฐานะตำรวจไซเบอร์ ยืนยันว่าตัวของบังแจ็คถ้าหากจะเข้าประเทศก็ต้องหลังปี 2569 เท่านั้น เพราะยังมีหมายจับรออยู่ แต่ถ้าอยากจะเข้าประเทศให้บอกกับตนเองโดยตรง พร้อมที่จะทำเรื่องขอศาล และไปรับตัวเข้าประเทศพร้อมกับนำตัวมาดำเนินคดีทันที

 

ดังนั้นไม่ว่าจากกรณีใดก็ตามอย่าดูถูกกฎหมายประเทศไทย และอย่าคิดว่าการกระทำก่อนหน้านี้จะไม่มีความผิด ซึ่งกันแค่เข้ามา ตำรวจก็สามารถคุมตัวได้โดยทันที อีกทั้งการที่บังแจ็ค มีการปรามาสตำรวจไทยนั้น ตนเองต้องการจะบอกว่าแม้ตัวไม่ได้อยู่ในประเทศไทย แต่สร้างความปั่นป่วน หรือสร้างเรื่องราวให้เกิดกระทบต่อสำนวนคดี ซึ่งเป็นคดีสำคัญที่สังคมจับตามอง ตนเองก็พร้อมที่จะดำเนินการเอาผิด และการกระทำผิดไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนแต่มันเกี่ยวข้องกับประเทศไทยก็ต้องถือกฎหมายไทยเป็นหลัก หรือแม้แต่คนไทยบางคน ที่มีการเผยแพร่หรือส่งต่อเรื่องราวที่ไม่เหมาะสมคลิปลามกอนาจาร หรือเป็นภัยต่อไซเบอร์ ก็สามารถถูกดำเนินการเอาผิดด้วยเช่นเดียวกัน

 

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส