ภาพลับแตงโม กระติกช็อก ไอ้โม่งใจทรามปล่อยคลิปเสียง!

23 พ.ค. 65

โซเชียลลุกฮืออีกครั้งหลังจากที่เฟซบุ๊กแตงโม ภัทรธิดา Happy Melon Patcharaveerapong กลับมาเคลื่อนไหว ทั้งโพสต์รัว ๆ รูปกระติก ผู้จัดการแตงโม และคลิปกระติกกับแตงโม รวมทั้งภาพคนบนเรือ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 21 พ.ค.65 กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโซเชียลนั้น

 

ภาพลับแตงโม

 

ล่าสุด มีบุคคลปริศนาส่งจดหมายเขียนด้วยลายมือส่งถือแม่ของแตงโม อ้างว่าเป็นกระติกที่ยอมรับสารภาพว่าทำร้ายแตงโมนั้น ด้านกระติก อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ ยืนยันว่าไม่ได้มีการเขียนจดหมายนั้น

 

กระติก

 

"กระติก อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์" ที่ล่าสุดออกมาเคลียร์ปมมือปริศนาที่โพสต์เฟซบุ๊ก และปล่อยภาพจากมือถือของแตงโม ปรากฎว่าหลังจากที่กระติกได้เดินทางกลับจากการออกรายการโทรทัศน์ มีเสียงโทรศัพท์ดังเข้ามา ซึ่งที่น่าตกใจก็คือเป็นรายชื่อที่คุณกระติกเมมชื่อไว้ว่า E MO ก่อนที่สายนี้จะขอเปิดวิดีโอคอล ทางคุณกระติกจึงได้กดรับ ปลายสายได้เปิดวิดีโอคลิปในรูปภาพที่ไม่เหมาะสมออกมาให้ดู

 

กระติก เปิดใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ตัวเองยังไม่ทราบว่าเรื่องการโพสต์เฟซบุ๊ก หรือรวมถึงเรื่องที่มีคนโทรศัพท์เข้ามาหาเป็นฝีมือของใคร ควรจะต้องไปถามที่ตำรวจจะดีกว่า แต่ที่จับสังเกตได้อย่างหนึ่งก็คือในข้อความต่าง ๆ มักจะใช้คำว่า "ครับ" แต่เอาจริง ๆ ก็ยังไม่ชัด เพราะอาจจะเป็นผู้หญิงพิมพ์ก็ได้ ส่วนตัวไม่ขอฟันธงว่าเป็นฝีมือใคร อย่างแรกก็ต้องถามว่ามือถือไปอยู่กับใคร มีการให้ข้อมูลกับใคร หรือมีการให้กดลิงก์แปลก ๆ ที่ส่งมาล่อลวงไหม เพราะสมัยนี้ก็มีมิจฉาชีพที่ชอบจะส่งลิงก์มาให้

 

จิน เดอะวอยซ์

 

ส่วนกรณีมีคลิปเสียงปรากฏการพูดคุยทำนองว่าเรื่องที่เกิดขึ้นว่า "น่ากลัว สงสารปล่อยให้อยู่คนเดียวใครมาเจอจะเกิดอะไร และทำไมต้องไปนัดเจอกันที่ปั๊มน้ำมัน" นั้น

 

จิน เดอะวอยซ์

 

นายจินดา วิริยะแสงจันทร์ หรือ จิน เดอะวอยซ์ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเสียง ซึ่งได้นำคลิปต้นฉบับมาถอดเสียง ลักษณะเสียงคล้ายผู้หญิงคุยกัน 2 คน มีการนำเสียงสัมภาษณ์ของ 3 บุคคล ประกอบด้วย กระติก แซน และโบ ทีเค ไปเทียบเสียงจากคลิปดังกล่าวว่าบทสนทนานั้นมีความใกล้เคียงหรือเป็นเสียงของใครหรือไม่

 

จิน เดอะวอยซ์

 

นายจินดา วิริยะแสงจันทร์ หรือ จิน เดอะวอยซ์ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเสียง เปิดเผยว่า ข้อจำกัดของการวิเคราะห์เสียงในวันนี้เกิดจากการบันทึกเสียงต้นฉบับ เพราะไม่ใช่เสียงที่มาจากไมโครโฟนโดยตรง จึงทำให้เกิดเสียงแทรกและเสียงที่ไม่ชัดค่อนข้างสูง แต่เมื่อผ่านตัวโปรแกรมแล้ว สามารถเลือกย่าน คลื่นเสียง 1-3K ซึ่งเป็นระดับเสียงของการพูดของคน และเมื่อผ่านโปรแกรมพิเศษเพื่อให้เห็นกราฟโทนการพูด จึงสามารถที่จะนำไปเทียบได้บ้างแต่ไม่สมบูรณ์ แต่จากการทดสอบใกล้เคียงกับกระติกมากที่สุด แต่ก็ไม่ได้เหมือน 100% เพราะยืนยันว่าแตกต่างกับไมโครโฟนและการบันทึกเสียง

 

คดีแตงโม

 

กรณีที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าทางเทคนิคหรือผู้ที่อยู่ในวงการของการใช้เสียงหรือวงการนักร้อง สามารถที่จะปรับแต่งเสียงจากผู้ชายเป็นผู้หญิง และจากผู้หญิงไปเป็นผู้ชายได้หรือไม่นั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ เนื่องจากปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย สามารถปรับเปลี่ยนได้ทุกอย่าง เปลี่ยนจากเสียงผู้ชายไปเป็นผู้หญิง จะให้ใกล้เคียงหรือคล้ายกับใครก็ทำได้ ดังนั้นเพื่อความเป็นธรรมให้กับผู้ที่ถูกพาดพิงเกี่ยวกับเสียง ตนเองมองว่าถ้าหากจะมีความเป็นไปได้ คือคลิปนั้นจะต้องเห็นหน้าของคนที่ถูกอัดคลิปมาด้วย จึงจะยืนยันว่าเสียงและภาพคือคนเดียวกัน

 

คดีแตงโม

 

โดยการทดสอบหลังจากที่มีการนำคลิปเสียงเข้าสู่โปรแกรมเทคนิคพิเศษ จึงได้มีการลดเสียงรบกวนออก จากนั้นได้มีการเปิดโปรแกรมสำหรับเทียบกราฟเสียง โดยจะเป็นการบ่งบอกถึงคลื่นและระดับเสียง เพราะแต่ละคนจะมีโทนเสียงและช่วงเสียงที่แตกต่างกัน โดยการถอดเสียงจะเริ่มต้นถอดจากเสียงต้นฉบับ นำไปเทียบกับกราฟเสียงของ 3 บุคคล โดยผลปรากฏว่าเสียงการสนทนาที่มีการพูด ไม่สามารถที่จะนำไปเทียบกับเสียงของใครได้ ระดับคลื่นเสียงมีเสียงแทรกเยอะ ไม่สามารถเทียบกับเสียงปกติของใครได้

 

จากการวิเคราะห์ ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับคลื่นเสียง และบทสนทนา ภายในคลิปดังกล่าวว่า เป็นการพูดคุยกับใครบางคนที่มีการเปิดสปีกเกอร์โฟน เพื่อบันทึกเสียงดังกล่าวออกมา โดยเสียงหลักจะเป็นคนที่อยู่ในรถ แต่เสียงอีกคนมีการผ่านการเปิดสปีกเกอร์โฟนของโทรศัพท์และมีการเก็บเสียง จึงได้จำลองแบบที่ 2 ซึ่งให้ทีมข่าวเปิดโฟนโทรศัพท์ ให้ปลายสายพูดคุยกับทีมข่าวปลายสาย จากนั้นได้มีการบันทึกเสียง และเปิดซาวด์ซึ่งเป็นซาวน์เสียงคลื่นลมแทรก แล้วมีการบันทึกถ้อยคำสนทนา คล้ายกับในคลิปที่โพสต์ไว้

 

คดีแตงโม

 

เทียบกับลักษณะเสียงว่าคล้ายกับคลิปดังกล่าวที่มีการคุยผ่านสปีกเกอร์โฟนหรือไม่ ผลปรากฏว่าเสียงหลักที่มีประโยคยาวกว่าเป็นเสียงที่พูดใกล้กับโทรศัพท์ แต่เสียงที่มีการตอบสั้น ๆ ว่า "สงสารมันอะ" ลักษณะใกล้เคียงกับปลายสายที่มีการพูดผ่านสปีกเกอร์โฟน

 

อีกทั้งมีการนำเสียงที่มีการทดสอบโดยเป็นผู้ชายกับผู้ชายสนทนากัน เป็นทีมข่าวกับผู้ช่วยช่างภาพ มีการพูดประโยคใกล้เคียงกับคลิป แล้วนำคลิปนั้นไปปรับแต่งในโปรแกรมพิเศษ ซึ่งเป็นโปรแกรมบันทึกเสียงและปรับเสียงของนักร้องและมืออาชีพด้านเสียงใช้ ผลปรากฏว่าเพียงแค่ปรับจูนเสียงจากโมโนเสียงของผู้ชาย เพิ่มขึ้นไปเป็นของผู้หญิง 6 คีย์ ปรากฏว่ามีลักษณะเสียงคล้ายและใกล้เคียงกับผู้หญิงได้เช่นกัน

 

 

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส