เมื่อวานนี้ ( 3 มี..62 ) ตำรวจ สภ. ปากน้ำหลังสวน รับแจ้งพบศพผู้เสียชีวิต ที่หมู่ที่ 1 ต.บางน้ำจืด อ.หลังสวน จ.ชุมพร ตรวจสอบที่เกิดเหตุอยู่กลางสวนปาล์ม หลังบ้านเลขที่ 77 หมู่ที่ 1 บางน้ำจืด อ. หลังสวน จ.ชุมพร พบศพ ของนางสมวัน ทิมา อายุ 72 ปี อาชีพรับจ้าง ซึ่งสภาพศพเปลือยกายล่อนจ้อน ตามใบหน้าถูกทุบตีด้วยของแข็ง ที่บริเวณศีรษะเลือดไหลท่วมแห้งกรัง และมีร่องรอยถูกข่มขืน จึงให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เก็บรายละเอียดไว้
จากการสอบสวน นายพรวิชัย ทิมา อายุ 72 ปี สามีของผู้ตาย อาชีพขับรถ รับจ้าง ได้การว่า ในช่วงเช้า ตนได้ขับรถไปส่งนายภูวนัย (ลูกชาย) เพื่อออกเรือประมง เมื่อเดินทางกลับมาถึงบ้านพักที่เช่าไว้อยู่กับครอบครัว ไม่พบนางสมวัน ตนจึงออกตามหาไปในหลายสถานที่ในตำบลปากน้ำหลังสวน และโรงพยาบาลรวมถึงโทรศัพท์ไปสอบถาม ญาติสนิทก็ไม่ได้ข่าวว่านางสมวันอยู่ที่ไหน จึงเดินทางกลับมาที่บ้านพัก และพูดกับสุนัขชื่อบุญนำ สุนัขเพศผู้อายุ 1 ปี ว่าเห็น แม่สมวันหรือไม่ ปรากฏว่าสุนัข บุญนำกระโดดลงจากบ้านและวิ่งเข้าไปในสวนปาล์ม เมื่อไปถึงกลางสวนปาล์มพบเห็นชิ้นส่วนของเสื้อผ้า อาทิ กางเกงใน สร้อยพระ ตกหล่นอยู่ตามระยะทาง ก่อนที่จะพบร่างของนางสมวันนอนจมกองเลือดอยู่
ด้าน พ.ต.อ.สัญญา พาตินธุ ผกก.สภ.ปากน้ำหลังสวน เปิดเผยว่า คนร้ายรายนี้ น่าจะชื่อนายตะวัน อายุ 37 ปี เป็นคนชาวมอญเข้ามาประกอบอาชีพ รับจ้างอยู่ใกล้กับสวนปาล์มที่เกิดเหตุ ซึ่งในช่วงเมื่อคืนของวันเกิดเหตุที่ผ่านมา ได้มาของานลงเรือประมงกับลูกชายของนางสมวัน และได้มีการดื่มเหล้าจนกระทั่งดึก นางสมวันจึงไล่ให้นายตะวันและน้องชายชาวมอญไม่ทราบชื่ออายุ 20 ปีกลับไปนอน ต่อมาในช่วงเช้า นายตะวันได้เดินทางมาที่บ้านพร้อมทั้งอ้างว่าจะนำพระเครื่องมาให้เช่าบูชา แต่ไม่มีใครสนใจ หลังจากนั้น นายพรวิชัยจึงได้ออกไปส่งนายลูกชายเมื่อกลับมาก็ไม่พบ นางสมวันและนายตะวัน จนมาพบว่าเป็นศพ
ทั้งนี้สันนิษฐานว่าหลังจาก นายพรวิชัย และ นายภูวนัย ออกจากบ้านไป คนร้ายเห็นว่านางสมวันอยู่บ้านเพียงลำพัง อีกทั้งยายสมวันถึงจะอายุมาก แต่รูปร่างหน้าตายังสวยงาม ทำให้เกิดอาการหื่น ตรงเข้าฉุดลากนางสมวันเข้าไปสวนปาล์ม โดยใช้ก้อนหินทุบนางสมวันที่ใบหน้าจนแน่นิ่ง แล้วลงมือข่มขืน ก่อนจะหลบหนีไป
ต่อมา ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวนายตะวันในขณะที่หลบอยู่ที่บ้านเช่าคนงานของเจ้าของสวนปาล์ม ข้างๆสวนปาล์มที่เกิดเหตุ ซึ่งตรวจสอบร่างกายพบร่องรอยขีดข่วนตามร่างกาย จึงได้ควบคุมตัวไปไว้ที่ สภ.ปากน้ำหลังสวน เพื่อทำการตรวจหา DNA และจะได้ตามน้องชายของนายตะวัน มาทำการสอบสวน หาข้อเท็จจริงในสาเหตุการตายของนางสมวันต่อไป
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความสะเทือนขวัญแก่ชาวบ้านในหมู่ที่ 1 ตำบลบางน้ำจืดและตำบลปากน้ำหลังสวนอย่างมาก เนื่องจากไม่เคยเกิดเหตุร้ายเช่นนี้ในพื้นที่กับคนสูงอายุมาก่อน และสวนปาล์มดังกล่าวเป็นจุดที่มีชาวบ้านใช้ในการเดินทางสัญจรไปมา รวมถึงมีแรงงานต่างด้าวเข้ามาประกอบอาชีพและใช้ชีวิตอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ยังเคราะห์ดีที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยในการก่อเหตุฆ่าข่มขืนในครั้งนี้ได้อย่างทันควัน แต่ที่น่าสลดใจคือ ครอบครัวดังกล่าว มีความยากจนมาก ไม่มีกระทั่งเงินที่จะใช้ในการทำศพนางสมวัน เพราะเป็นครอบครัวที่หาเช้ากินค่ำกันเท่านั้น
ติดตามข่าวสารเรื่องราวที่น่าสนใจอื่น ๆ ได้ที่
อมรินทร์ทีวี เอชดี ช่อง 34
