แมงมุม โอน 6 แสนใช้หนี้แทนแม่ แจงคืนเงินช้าเพราะเพิ่งตั้งตัวได้ 1 ปี

10 พ.ค. 65

"แมงมุม กิติพัฒน์" โอนเงิน 6 แสนใช้หนี้ ผอ.โรงเรียนแทนแม่แม้ไม่ได้เลี้ยงมา แจงสาเหตุคืนเงินช้าเพราะชีวิตลำบาก เพิ่งตั้งตัวได้แค่ 1 ปี 

จากกรณี อดีต ผอ.และครู ซึ่งเป็นสมาชิกกลุ่มย่อยกองทุนพัฒนาชีวิตครูอมก๋อย จ.เชียงใหม่ ได้ออกมาร้องเรียนว่าถูกนางวิชุดา หรือนางสินีภัชช์ พุทธชาติ ครูซึ่งเป็น 1 ในสมาชิกกลุ่มย่อยฯ กองทุนและแม่ของดาราหนุ่ม กู้เงิน 2 แสนบาทไปแล้วไม่ใช้คืน รวมถึงใช้ชื่อสมาชิกกองทุนย่อยฯ ไปค้ำประกันเงินกู้อีก 1.4 ล้านบาท ทำให้ธนาคารต้องมาตามทวงกับผู้ค้ำประกัน ส่งผลให้บางคนเครียดจนเส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิต หลายเป็นผู้พิการ รวมถึงให้หนี้แทนจนหมดตัว ต่อมาพบว่าดาราหนุ่มคนดังกล่าวคือ แมงมุม กิติพัฒน์ รัตนเศรณีนั้น

ล่าสุดวันที่ 9 พ.ค.65 แมงมุม กิติพัฒน์ ได้โพสต์ชี้แจงกรณีดังกล่าวลงในอินสตาแกรมส่วนตัว ระบุ เรื่องราวเป็นคดีที่เกิดกับแม่ของตน เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ตนพึ่งทราบเรื่องคดีนี้เมื่อ 3 ปีที่แล้ว จึงเป็นที่มาที่ได้ไปเคลียร์กับคู่กรณีของคุณแม่ที่รายการโหนกระแส ก็จบความที่ว่าตนในฐานะลูกจะชดใช้และผ่อนจ่ายให้ ซึ่งในตอนที่ตกลงนั้นยอมรับตรงๆ ว่า ไม่มีเงิน เพราะเป็นช่วงที่ตนล้มพอดี หนี้จากธุรกิจเก่าเยอะ ประกอบกับค่าตัวนักแสดงตอนนั้นก็ไม่ได้เยอะ จึงใช้เงินเดือนชนเดือนถึงติดลบมาโดยตลอด

แมงมุม กิติพัฒน์

ต่อมาตนก็ตั้งหน้าตั้งตาสร้างตัวเพื่อที่จะให้ตัวเองมีกำลังพอที่จะพัฒนาฐานะทางการเงินของตัวเอง เพื่อที่จะใช้หนี้ให้ตัวเองและของครอบครัว ย้ำว่าหนี้ไม่ได้มีแค่ก้อนนี้ ตนในฐานะหัวหน้าครอบครัว ก็พยายามที่จะเลี้ยงดูคุณแม่มาตลอดไม่ว่าตอนมีหรือตอนไม่มี ซึ่งระยะเวลาที่ตนสร้างตัวก็ราวๆ 2-3 ปี ซึ่งยอมรับว่าสาหัสมาก ทั้งเรื่องภาวะเศรษฐกิจและช่วงโควิด ทำให้ธุรกิจทั้งหมดพัง ถ่ายละครก็ถ่ายไม่ได้ ช่วงนั้นตนเป็นเทรนเนอร์ด้วยและยิมก็ปิด แต่ในที่สุดตนก็ผ่านมันมาได้

แมงมุม เล่าต่อว่า ตนพึ่งมาตั้งตัวได้ประมาณ เกือบ 1 ปี จึงได้เริ่มจัดสรรเงินดังนี้ 1.เก็บเงินเพื่อรองรับความเสี่ยงต่างๆ 2.ลงทุน 3.ทำบุญ 4.ดูแลครอบครัว 5.ใช้ชีวิต 6.ใช้หนี้ ตนได้ตั้งใจใช้หนี้ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นของตัวเองและครอบครัวมาตลอด ซึ่งโชคร้ายตรงที่คุณยายตนก็ป่วยพอดี เป็นโรคอัลไซเมอร์ โรคกระดูก และโรคพาร์กินสัน ใครที่มีผู้ป่วยอยู่ในบ้านจะรู้ได้เลยว่าค่าใช้จ่ายสูงมาก

ทำให้ตนต้องจัดสรรค่าใช้จ่ายในทุกๆ ด้านให้ลงตัว ให้ทุกคนรอบตัวไม่รู้สึกว่าขาดหรือรู้สึกว่าตนไม่มีหรือดูแลไม่ได้ ตนเองไม่เคยหนีหายหรือติดต่อไม่ได้แต่อย่างใด ทาง ผจก.ได้ยืนยันแล้วว่าไม่มีการติดต่อมาเพื่อทวงถามหนี้ตลอด 3 ปีนี้หลังจากจบรายการโหนกระแส แต่ตนเองไม่เคยนิ่งนอนใจในเรื่องหนี้ก้อนนี้ เพียงแต่ตนจัดลำดับการใช้หนี้ไว้แล้ว ซึ่งข้อนี้ยอมรับผิดที่จัดการได้ช้าไป

เงินที่ตนได้มาในส่วนของการจัดสรรใช้หนี้ ตนได้จัดสรรไว้เป็นลำดับจะไม่ได้หามาเพื่อใช้หนี้ให้หมดใน 1-2 เดือนเพราะยังมีภาระหน้าที่อื่นๆ ที่จะต้องรับผิดชอบด้วย 

ตลอดเวลาที่ตนเติบโตมา ได้แยกกันอยู่กับคุณแม่ตั้งแต่อนุบาล 2 โดยมียายกับตาและน้าเลี้ยงมา แต่เมื่อโตขึ้นและได้รับรู้ถึงความเดือดร้อนของคุณแม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินหรือเรื่องอะไร ตนรับจบให้หมดเพราะตนคือลูก ดังนั้นวันนี้ได้แสดงความรับผิดชอบในฐานะลูก โดยการชำระหนี้ทั้งหมดให้กับคุณแม่ เป็นจำนวนเงิน 600,000 บาท ครบตามจำนวนที่ท่าน ผอ.เรียกร้อง และได้แนบหลักฐานไว้แล้ว

สุดท้ายนี้ต้องขอโทษครอบครัว ขอโทษแฟน ขอโทษที่ปล่อยให้เรื่องราวบานปลายไม่ได้ชำระหนี้จนทำให้เกิดความเสื่อมเสียในวันนี้ แต่ยังยืนยันในวันนี้ว่าตนทำเต็มที่และรีบสุดในชีวิตแล้ว ขอโทษทุกท่านที่เกี่ยวข้องด้วย 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

อดีต ผอ.ร่ำไห้ ค้ำประกันเงินกู้ให้แม่ดารา ต้องใช้หนี้แทนจนหมดตัว
ล่าตัว สิบเอก โกงเงินสวัสดิการ พ่อขับเก๋งชิงตัวหนีจากค่ายทหาร
- สาวเต็นท์แสบหลอกจำนำรถลูกค้า อ้างหมุนเงินใช้หนี้ เหยื่อโผล่แฉโกงอีกพรึ่บ

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ