ความคืบหน้ากรณี เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 23 เม.ย.65 เกิดเหตุยิงกันเสียชีวิต บริเวณป้ายรอรถโดยสาร ทางเข้าบ้านเอื้อทรบางกะดี ผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อ เด็กชายกิตติพันธ์ เปลื้องศรี อายุ 15 ปี สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่กลางหน้าอก 1 นัด
และพบประทัดไข่ก๊องอยู่ในตัว 4 ลูก ห่างกันประมาณ 10 เมตร พบปลอกกระสุนปืนไม่ทราบขนาดตกอยู่บนฟุตพาท ริมถนน 1 ปลอก และยังพบระเบิดทำเองวางอยู่บนที่นั่งที่รถโดยสารจำนวน 1 ลูก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ภาพวงจรปิดจากจุดเกิดเหตุ บริเวณทางเข้าบ้านเอื้อทรบางกะดี หมู่ 5 ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี บันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้อย่างชัดเจน ในเวลา 23.36 น. เห็นกลุ่มวัยรุ่นหลายคนวิ่งไล่ขว้างระเบิดใส่กันอยู่ริมถนน สวมใส่หมวกกันน็อกเต็มใบ ซึ่งหลังจากเริ่มมีการปาระเบิดใส่กัน มีกลุ่มวัยรุ่นอีกหลายคนวิ่งออกจากชุมชนไปริมถนน คาดว่าเป็นกลุ่มเพื่อนของผู้ตาย ก็มีการขว้างระเบิดใส่กันอีกครู่หนึ่ง
จนกระทั่งเวลา 23.40 น. เห็นกลุ่มเพื่อนได้ช่วยกันอุ้มผู้ตาย คาดว่าถูกยิงมาจากริมถนนข้างนอก พื่อนได้อุ้มมาไว้ที่ป้ายรถเมล์ ซึ่งผู้ตายนอนแน่นิ่งไป ขณะที่เพื่อน ๆ อยู่ในอาการกระวนกระวาย ต่อมาเวลา 23.48 น. มีเจ้าหน้าที่กู้ชีพเข้ามาช่วยเหลือปั๊มหัวใจ ก่อนที่รถพยาบาลจะมาถึงที่เกิดเหตุในเวลา 23.49 น. พยายามช่วยเหลือยื้อชีวิต
ช่วงเวลาที่กำลังชุลมุน กล้องวงจรปิดอีกมุมจะเห็นกลุ่มเพื่อนของผู้ตาย ไม่ต่ำกว่า 20 คนได้วิ่งออกจากชุมชนบ้านเอื้ออาทร ไปยังจุดเกิดเหตุ เพื่อต่อสู้กับคู่อริ โดยหลายคนสวมหมวกกันน็อก ถือวาวุธมีดไว้ในมือ บางคนก็ขี่รถจักรยานยนต์
วันที่ 24 เม.ย. 65 นายต๊ะ เพื่อนผู้เสียชีวิต อายุ 16 ปี มีบาดเเผลถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณต้นขาข้างซ้าย เปิดเผยว่า ผู้ตายมีการเขม่นกันกับคู่กรณีมาหลายวันแล้ว มีการท้าทายกันผ่านทางเฟซบุ๊ก ก่อนจะนัดตีกันรอบแรกในวันที่ 23 เม.ย. 65 เวลา 00.30 น. บริเวณหน้าวัดบางกะดี ฝั่งตนไปกัน 3 คน ฝั่งคู่กรณีมากันไม่ต่ำกว่า 30 คน ฝั่งตนต้องล่าถอยออกมา เพราะสู้ไม่ไหว โดยตนได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดด้วย
จากนั้น ตนกับผู้ตายได้นัดคู่กรณีอีกครั้งเพื่อจะขอเเก้มือ ในวันที่ 23 เม.ย. 65 เวลา 23.30 น. คราวนี้ไปตีกันที่จุดเกิดเหตุ คู่กรณีมากัน 4 คน ขี่รถจักรยานยนต์มา 2 คัน แต่มีอาวุธปืนด้วย ขณะที่ฝั่งตนถึงแม้ว่าจะมีคนมากกว่า แต่ก็มีเพียงมีดกับระเบิดเท่านั้น โดยขณะที่กำลังขว้างระเบิดใส่กัน คู่กรณีได้ขับรถผ่านไป แล้วย้อนกลับมา โดยคนซ้อนได้ใช้อาวุธปืนยิง ทำให้กระสุนโดนเข้ากลางหน้าอกผู้ตายจนล้มลง ตนเห็นเพื่อนโดนยิงเกิดความโมโห จึงวิ่งถือมีดไปฟันแขนคนยิงได้ 1 ครั้ง ก่อนที่คู่กรณีจะขี่รถหนีไป
สำหรับความรู้สึกตอนนี้เสียใจมากที่เห็นเพื่อนตายไปต่อหน้า รู้สึกแค้นคู่กรณีมาก หากถามว่าจะเอาคืนหรือไม่ ขึ้นอยู่กับคู่กรณี หากคู่กรณีจบ ก็ปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมาย แต่หากคู่กรณียังไม่จบ ตนก็พร้อมบวกอีก พร้อมแลกด้วยชีวิตด้วย
พ่อของผู้เสียชีวิตคือ นายสวัสดิ์ เปลื้องศรี อายุ 65 ปี อยู่ในอาการเสียใจ ร้องไห้ตลอดเวลา เปิดเผยว่าตนเองมีลูก 4 คน ผู้ตายเป็นคนลูกคนเล็ก ตนเลี้ยงลูกคนเดียว เพราะภรรยาเสียชีวิตไปหลายปีเเล้ว ที่ผ่านมายอมรับว่าลูกคนเล็กดื้อมาก ชอบออกไปเที่ยวกับเพื่อน ไม่ค่อยอยู่บ้าน เวลาออกไปเที่ยวก็จะไปครั้งละหลายวัน
นอกจากนี้ ลูกชายยังไม่ยอมไปเรียน จนตอนนี้ต้องออกจากโรงเรียนแล้ว ส่วนเรื่องทะเลาะวิวาท ตนเองก็พอทราบมาบ้างว่าลูกชอบตามเพื่อน ก็ได้ตักเตือนไปหลายครั้งว่าให้อยู่บ้าน แต่ลูกชายก็ไม่ฟัง ซึ่งจากพฤติกรรมดังกล่าว ทำให้ตนเองรู้สึกเสียใจมาโดยตลอด คิดมาเสมอว่าลูกอาจจะต้องเจอจุดจบเเบบนี้ แต่ก็ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้ เมื่อคืนหลังจากทราบข่าวว่าลูกถูกยิงเสียชีวิต ตนเสียใจมาก กินไม่ได้ นอนไม่หลับ หากลูกฟังคำเตือนพ่อสักนิด ก็คงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้
