กรณีลูกสาวประกาศตามหานายนิรุตน์ บุญชู อายุ 41 ปี, นางสาวนฤมล เพ็ชรบุญมี อายุ 41 ปี,ด.ช.นฤเบศก์ อายุ 12 ปี และ ด.ญ.หริญดา อายุ 7 ปี ชาวต.บ้านไร่ อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย ซึ่งทั้ง 4 คน หายออกจากบ้านใน อ.ทุ่งเสลี่ยม พร้อมรถกระบะยี่ห้อโตโยต้าสีเทา ทะเบียน บพ 3053 สุโขทัย เป็นพาหนะในการเดินทาง ตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.65 จนถึงวันนี้ (21 เม.ย.65) รวมแล้ว 11 วันแต่ยังไร้วี่แวว
ล่าสุดวันที่ 21 เม.ย. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี จึงได้พูดคุยกับนางสาวแจง (นามสมมติ) อายุ 30 ปี เพื่อนบ้าน เปิดเผยว่า ครอบครัวผู้สูญหายย้ายมาอยู่อยู่ช่วงเดือนพฤษภาคม 64 เข้ามาทีหลังตน แต่จากการสังเกตเป็นคนมีเงิน เพราะตั้งแต่ย้ายมาอยู่ใหม่ ๆ ซื้อของเข้าบ้าน แต่งบ้านทุกวันจนสมบูรณ์ อีกทั้งเป็นคนที่เก็บตัว ไม่สุงสิงกับเพื่อนบ้าน แต่จากการสังเกตฝ่ายหญิงส่วนใหญ่จะอยู่แต่บ้าน มีแต่ฝ่ายชายที่ออกข้างนอก ขณะที่บ้างครั้งทั้งคู่ไม่อยู่ก็จะมีปู่กับย่าสลับกันมาดูแลเด็ก ๆ
ขณะที่ภายในบ้านมีทรัพย์สินที่เห็น คือ รถยนต์กระบะ 1 คัน, รถจักรยานยนต์คันใหญ่ 150 cc, รถจักรยานยนต์ยี่ห้อเวฟ และรถ 3 ล้อไฟฟ้า 1 คัน ซึ่งปัจจุบันตนไม่เห็นทรัพย์สินเหล่านี้อยู่ในบ้าน อีกทั้งตนได้สังเกตหลังบ้านก็ไม่พบไม่โครเวฟ และเครื่องซักผ้าด้วยเช่นกัน
สำหรับตนไม่ทราบจริง ๆ ว่าทั้งคู่ทำอาชีพอะไร ส่วนเรื่องแชร์ 10 ล้านบาท ก็ไม่เคยถูกชักชวนเล่น เคยทั้งทายครั้งเดียว จึงทราบว่าฝ่ายหญิงเป็นคน จ.อุตรดิตถ์ และไม่เคยคุยกันอีกเลย กระทั่งก่อนวันที่ 10 เมษายน 65 ตนเห็นเสื้อผ้าบ้านผู้สูญหายตากอยู่ แต่กลับเข้าบ้านมาช่วงเย็นก็ไม่พบเสื้อผ้าตากอยู่แล้ว หลังจากนั้นก็ไม่พบใครเข้ามาในบ้านอีกเลย สังเกตหลังบ้านเครื่องซักผ้ากับไมโครเวฟหายไปด้วย อย่างไรก็ตามเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา มีบริษัทไฟแนนซ์เข้ามา แต่ตนแจ้งว่าเจ้าของบ้านไม่อยู่ ซึ่งไฟแนนซ์ให้ข้อมูลว่ามาสืบหาตามข่าว เพราะกลัวไม่ได้ค่างวด
ทีมข่าวได้พูดคุยนายวัชระ เกิดทอง อายุ 47 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ซึ่งเป็นเครือญาติห่าง ๆ กับผู้สูญหาย เปิดเผยว่า ตนไม่รู้สาเหตุจริง ๆ ว่าทั้งครอบครัวไปไหน มีปัญหาอะไรกันแน่ และตนก็รู้ข้อมูลเท่ากับสื่อมวลชน ตนจึงมองว่าหากมีปัญหาหรือมีเรื่องร้อนใจก็ขอให้นายนิรุตน์ ติดต่อเข้ามา เพราะญาติ ๆ เป็นห่วงมาก พร้อมให้ความช่วยเหลือจะได้หาทางออกร่วมกัน สำหรับนายนิรุตน์ เป็นคนอัธยาศัยดีมาก เคยอาศัยอยู่ในหมู่บ้านของตน แต่หลังจาก 2 ปีที่ผ่านมา ได้ย้ายไปอยู่ที่อำเภอทุ่งเสลี่ยม ไปซื้อบ้านอยู่ใหม่ นาน ๆ ถึงจะเจอกัน ซึ่งทุกครั้งที่นายนิรุตน์ ผ่านหน้าบ้านจะแวะทักทายเสมอ ๆ
ส่วนนางสาวนฤมล เป็นสะใภ้มาจากจ.อุตรดิตถ์ ทั้งคู่เจอกันสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ซึ่งก็อยู่กินกันมานานกว่า 20 ปี และมีอาชีพเป็นนักบัญชี รับทำบัญชีให้หลายอำเภอ แต่ไม่เคยทำให้หมู่บ้าน เพราะหมู่บ้านตนทำกันเอง ดังนั้น ตนจึงไม่ทราบรายละเอียดและเส้นทางการทำงาน อีกทั้ง กระแสที่มีการระดมกู้เงินจากชาวบ้านไป 10 ล้านบาท ตนก็ยังไม่ทราบรายละเอียด และยังไม่มีเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้าน เช่นเดียวกับเรื่องขายหมูยกเล้า ตนยอมรับว่า นายนิรุตน์ ขายหมูจริง แต่ไม่ได้ยกเล้าอย่างที่เป็นข่าว เพียงแต่ทยอยขายมาตั้งแต่ช่วงราคาหมูเริ่มสูง ก็เป็นปกติที่คนเลี้ยงจะต้องรีบขาย
นอกจากนี้ ผู้ใช้เฟซบุ๊กปริศนาแชตคุยกับ ด.ช.นฤเบศก์ อายุ 12 ปี ซึ่งแชตดังกล่าวมีบทสนทนาคุยกันว่า "กลับบ้านเถอะ มึงออกข่าว" จากนั้นด.ช.นฤเบศก์ ตอบว่า "กูออกข่าวเลยเหรอ มึงมั่วละ คนที่เขาหายตัวไป เขาไม่ได้หายไปไหนหรอก เขาอาจจะอยู่ที่ไหนสักแห่งบนโลกนี้ก็ได้"
