สาวร้อง ผู้คุมเรียกเงิน อ้างเป็นค่าดูแลแม่ในคุก ยธ.สั่งออกจากราชการแล้ว

21 เม.ย. 65

ลูกสาวร้อง ถูกผู้คุมหญิง ในทัณฑสถานหญิงธนบุรี เรียกรับเงินหลายครั้งอ้างเป็นค่าดูแลแม่ที่อยู่ในคุก มีทั้งค่าเค้ก ค่าส้มตำ รวมกว่า 6,200 บาท ยธ.ตั้งกรรมการสอบ พร้อมให้ออกจากราชการไว้ก่อน 

วันนี้(21 เม.ย.) เวลา 9.30 น. ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) ทนายรณณรงค์ แก้วเพชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พา น.ส.พรพิมล สวนสำราญ หรือบุ้งกี๋ อายุ 31 ปี ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมจากนายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กรณีผู้คุมหญิงในทัณฑสถานหญิงธนบุรี เรียกรับเงินจากครอบครัวอ้างว่าเป็นค่าดูแลคุณแม่ โดยขณะนี้ไม่สามารถติดต่อแม่ที่อยู่ในเรือนจำได้เลย เกรงว่าจะเป็นอันตราย อีกทั้งผู้คุมหญิงรายนี้มีผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง ถูกร้องเรียนหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่มีใครสามารถทำอะไรได้

ทนายรณณรงค์ เผยว่า วันนี้พาผู้เสียหายรายแรกเป็นลูกสาวผู้ต้องหา ซึ่งแม่ถูกกักขังอยู่ในเรือนจำ พร้อมนำหลักฐานเป็นคลิปเสียง สลิปโอนเงิน ค่าดูแลต่างๆ อาทิ ค่าส้มตำ, ค่าเค้ก , ค่าปลาเผา ฯลฯ ครั้งละ 300-1,000 บาท รวม 9 ครั้ง ทั้งหมด 6,200 บาท โดยพ่อผู้เสียหายนำเงินไปให้ผู้คุมหญิงถึงบ้านพักข้างเรือนจำดังกล่าว และที่น่าเป็นห่วงคือหลอกญาติผู้เสียหายว่าห้ามเยี่ยม ทั้งๆ ที่สามารถติดต่อคุยผ่านวิดีโอคอลได้ตามระเบียบราชทัณฑ์  

ผู้คุมรีดเงิน

น.ส.พรพิมล กล่าวว่า แม่ของตนถูกจับข้อหาสนับสนุนกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เข้าเรือนจำเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.64 กระทั่งช่วงเดือน พ.ย.64 ผู้คุมหญิงติดต่อมาหาคุณพ่อขอเงินครั้งแรก 1,000 บาท นำเงินไปให้ที่บ้านพักเพื่อแลกกับหางานเบาๆ ให้คุณแม่ในเรือนจำ แต่พบว่าก็ทำงานปกติทั่วไป ทราบจากคุณพ่อว่าโทรมาขอเงินหลายครั้งมากและน่าจะทำมานานแล้ว ครั้งหนึ่งโทรมาขอเสื้อแขนยาวจะเอาไปให้คุณแม่ และพบว่าแม่ไม่ได้รับเสื้อดังกล่าว ได้รับแค่ของหลวงเท่านั้น

น.ส.พรพิมล กล่าวอีกว่า ผู้คุมหญิงเคยโดนสอบเรียกรับผลประโยชน์หลายครั้งแต่ไม่สามารถเอาผิดได้ ทุกครั้งโทรเข้าเบอร์เรือนจำผู้หญิงคนนี้จะรับสายตลอด จึงห่วงความปลอดภัยคุณแม่ รวมถึงล่าสุดมีผู้ชายติดต่อตนเองให้ไปคุยด้วย แต่พ่อไม่ให้ไปกลัวตนได้รับอันตราย วันนี้เลยมากระทรวงยุติธรรมเพื่อขอความเป็นธรรม อย่างไรก็ตาม มีผู้พ้นโทษรายหนึ่งได้มาหาที่บ้านตนบอกว่าอย่าให้เงินผู้คุมหญิงคนดังกล่าวอีกและพร้อมเป็นพยาน

ผู้คุมรีดเงิน

นายวัลลภ เผยว่า กระทรวงยุติธรรมให้ความสำคัญกับการเรียกรับผลประโยชน์โดยเฉพาะจากญาติผู้ต้องขัง เบื้องต้นสั่งให้ผู้คุมหญิงออกจากราชการไว้ก่อนเพื่อตรวจสอบรายละเอียดจากพยานหลักฐาน ทั้งคลิปเสียงและสลิปการโอนเงิน โดยตรวจสอบ 2 ประเด็นคือ  1. ตั้งคณะกรรรมการสอบสวนวินัยและอาญา 2.ผู้เสียหายห่วงความปลอดภัยของคุณแม่ในเรือนจำ ก็จะช่วยดูแลเรื่องสุขภาพความเป็นอยู่ว่าเป็นอย่างไร หากกังวลใจก็สามารถขอย้ายผู้ต้องหาไปเรือนจำอื่นเพื่อความสบายใจ โดยคาดอาจไม่ใช่รายแรก ทั้งนี้ ประชาชนสามารถร้องเรียนผู้บัญชาการเรือนจำได้ทั่วประเทศหากไม่ได้รับความยุติธรรม

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไล่ออก 10 ผู้คุม เรือนจำกลางชลบุรี เรียกเงินแลกเลื่อนชั้นนักโทษ-ทำผิดวินัย
กลาโหม สั่งปลด นาวาเอก เมากร่างข่มขู่ตำรวจ ให้ออกจากราชการ ฐานประพฤติชั่วร้ายแรง
เอาจริง พักใบประกอบวิชาชีพ ครูถูกสอบล่วงละเมิดทางเพศ ทุจริต ยาเสพติด

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส