ทนายเอ็มจ่อเอาผิดคนปากพล่อย ลั่นไม่เป็นกุนซือปอ “แซน” ทำซวย “ภีม” ถูกจับเพราะหวังดี (คลิป)

9 เม.ย. 65

จากคดีของแตงโม หลังจากนายอนุชา เพชรศิริ หรือ ทนายเอ็ม อายุ 32 ปี ทนายความ ที่ถูกโยงก่อนหน้านี้ว่าเป็นกุนซือ "นายเอ็ม 2" ในการแต่งสคริปต์ให้กับบุคคลบนเรือสปีดโบ๊ตในคดีแตงโม ตัดสินใจเปิดเผยตัวตนพร้อมกับออกมาชี้แจง รวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแล้วนั้น

397594

ด้านนายอนุชา เนติบัณฑิต มีการโพสต์ข้อความระบุว่า "🔴 เรียน…พี่ๆสำนักข่าวทุกช่อง และประชาชนที่สนใจครับ …เนื่องจากเมื่อวานนี้ (8 เมษายน65) เวลา 13.45 ผมได้ให้สัมภาษณ์ข่าว(สำนักข่าวอัมรินทร์ ทีวี) พร้อมได้ชี้แจงพยานหลักฐานต่างๆ แล้วว่าผมไม่ได้เป็นกุนซือให้กับทีมเรือสปีดโบ๊ทแต่อย่างใด ดังนั้น ตามที่พี่ๆ สำนักข่าว ได้ติดต่อผมมาหลายสำนักข่าว ผมเองมีงานเยอะมากที่ต้องจัดการ และผมกลัวว่าจะมีคนหาว่าผมสร้างกระแส(หิวแสง)

…ดังนั้น ผมจึงขอสรุปคำชี้แจงของผมไว้ในประกาศนี้ เพื่อให้สำนักข่าวใช้เป็นข้อมูลโดยที่ไม่ต้องมาสัมภาษณ์ผมอีกนะครับ

871265

1) เหตุผลที่ผมไม่เคยโต้แย้งว่าเป็นกุนซือฯ ตั้งแต่แรกและไม่เคยนำเสนอตัวเองในข่าวมาก่อน ก็เพราะผมไม่คิดว่าการให้ความเห็นทางกฎหมายจะเป็นเรื่องที่ผิดอะไร เพราะผมมีอาชีพเป็นทนายความ ดังนั้น ที่ผมให้ความเห็นฯ ไป จึงเป็นการทำงานในวิชาชีพของผมในรูปแบบปกติดังเช่นทุกๆงานอยู่แล้ว ประกอบกับผมไม่ชอบออกสื่อ ผมชอบทำงานเงียบๆ ผมจึงไม่มีหน้าที่ที่จะต้องไปขอออกข่าวหรือแถลงข่าวให้ผู้อื่นทราบแต่อย่างใด

155162

2) เหตุการณ์ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 เวลาประมาณ 14.00-15.30 น. ซึ่งเป็นวันที่ผมได้ไปพบเจอกับกลุ่มคนในเรือ ( ปอ-กระติก-แซน ) เพียง 3 คนเท่านั้น ส่วนเบิร์ด และจ๊อบ ผมไม่เคยเจอเลย โดยเหตุการณ์ดังกล่าวทั้งหมด ตลอดจนพฤติกรรมต่างๆ ผมได้ไปให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนในคดีนี้แล้วตั้งแต่ วันที่ 7 มีนาคม 2565 โดยให้การอย่างละเอียดพร้อมกับแนบพยานหลักฐานให้แก่พนักงานสอบสวนแล้ว ดังนั้น ด้วยความบริสุทธิ์ใจของผมและน้องๆในทีมที่ไปรับฟังข้อเท็จจริงในวันนั้น เราได้ให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเต็มที่แล้ว ซึ่งผมไม่เคยถูกออกหมายเรียกหรือหมายจับแต่อย่างใด

115254

3) ผมไม่ได้เป็นกุนซือ ด้วยเหตุผลสำคัญๆ ดังนี้
….1.เรื่องนี้ ผมไม่เคยรับเงินจากใครแม้แต่บาทเดียว
….2.ผมยังไม่เคยตกลงรับเป็นทนายความให้ใครในเรือเลยแม้แต่คนเดียว
….3.ผมได้คุยกับคนทั้งสามต่อหน้าที่ร้านอาหารทองหล่อ แค่ 1 ชั่วโมงกว่าเท่านั้น ถ้าตำรวจจะเอาเบอร์โทรศัพท์ผม ไปหาข้อมูลโดยใช้เครื่องเซลเลไบร์ทเพื่อดูว่าสายที่โทรเข้าโทรออกจากเบอร์ผม ผมก็ยินดีเป็นอย่างยิ่ง
….4.ผมไม่เคยคุยโทรศัพท์กับคนบนเรือเลยแม้แต่ครั้งเดียว
….5.ให้ทุกๆท่าน มาตรวจสอบTimeline ในเฟสบุ๊กของผมได้ว่า หลังวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 65 ผมทำงานคดีอื่น และตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 65 - 6 มีนาคม 65 ผมอยู่ต่างจังหวัด( จ.ร้อยเอ็ด และ จ.นครพนม ) ถ้าคิดว่าจะติดต่อกันวิธีอื่น ก็มาตรวจสอบโทรศัพท์ของผม หรือของภรรยา หรือตรวจอีเมล์ ไลน์ เฟสบุ๊ก ก็มาตรวจได้เลย
…6.เรื่องอื่นๆ ท่านสามารถไปสอบถามข้อมูลได้ที่สำนักข่าวอัมรินทร์ เพราะผมอธิบายให้นักข่าวไปเป็นชั่วโมงเลย
….ปล. ผมไม่อยากนำเสนอตัวในข่าว เพราะผมรับกับความคิดอคติของคนบางคนไม่ได้ เช่น ถ้าออกข่าว ก็ว่าหิวแสง ถ้าไม่ออกข่าว ก็ว่าปกปิด มีพฤติการณ์น่าสงสัย ..พูดอะไรไป ก็ไม่เชื่อ ว่าโกหก ทั้งๆที่เอาหลักฐานมากางให้ดู…ขอให้พี่ๆนักข่าวเข้าใจผมบ้างครับ
….หมายเหตุ ผมได้ออกข่าวและนำเสนอชื่อนามสกุลจริงของผมต่อสาธารณชนแล้ว ผู้ใดที่กล่าวหาผม ไม่ว่าจะโพสต์หรือคอมเม้นท์ในทางที่เสียหาย ผมยืนยันว่าจะดำเนินคดีแพ่งและอาญาอย่างถึงที่สุด
“…ถ้าทนายความ ปกป้องตัวเองยังไม่ได้ อย่าคิดที่จะไปปกป้องคนอื่น”
ถือว่าผมเตือนแล้วนะ …และในศาล ผมไม่ใช่คนใจดีนะครับ
ทนายเอ็ม
9 เมษายน 65

673672

และอีกข้อความ ระบุว่า "**ไม่ว่าทนายความ สำนักข่าวหรือผู้ใด ออกข่าวหรือแสดงความเห็นใดๆที่ทำให้ผมเสื่อมเสียหรือเสียหายฯ ผมจะยื่นฟ้องต่อศาลดำเนินคดีทันที ..อย่าลืมนะว่า ผมเป็นเจ้าของสำนักงานทนายความและผมมีความจำเป็นต้องปกป้องศักดิ์ศรีของผมและครอบครัว"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดใจ "ภีม" ถูกจับเป็นกุนซือ ที่แท้รับหน้าแทน "แซน" จนซวย ลั่นไม่ได้ให้กระติกทิ้งไวน์ (คลิป)

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 65 ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายภีม หรือ นายเอ็ม 1 โดยเจ้าตัวต้องการที่จะขอชี้แจงผ่าน อมรินทร์ ทีวี แต่ไม่สะดวกที่จะเปิดเผยตัวตน ชี้แจงผ่านการพูดคุยทางโทรศัพท์ว่า ย้อนกลับไปในวันที่ 24 ก.พ. 65 ช่วงเวลา 23.36 น. ตนเองนั่งทานข้าวอยู่กับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง เป็นการนั่งดื่มแอลกอฮอล์ แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคดีการตกเรือของแตงโม จากนั้นปรากฏว่านายโรเบิร์ต ซึ่งอยู่บนเรือลำที่เกิดเหตุโทรศัพท์เข้ามาหาเพื่อนสนิทที่นั่งดื่มอยู่ด้วยกัน เพราะทั้งคู่รู้จักกัน แต่เพื่อนสนิทไม่สามารถที่จะหาช่องทางการช่วยเหลือหรือติดต่อกู้ภัยและตำรวจได้ จึงได้ขอให้ตนเองช่วยเหลือ

722007

กระทั่ง วันที่ 25 ก.พ. 65 ตนเองก็ได้ติดต่อไปหาทนายเอ็ม เพราะเป็นทีมงานทนายความที่โดยปกติหากมีลูกความหรือคดีความก็จะช่วยส่งต่อให้กับทนายเอ็ม ตนเองจึงได้โทรไปปรึกษา ขอให้ทนายเอ็มส่งคนมาร่วมรับฟังข้อมูลข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นที่ร้านอาหารในตอนเช้า จากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกับใครอีก ถึงเวลานัดหมายก็เดินทางไปที่ร้านอาหารทองหล่อ ย่านสุขุมวิท เมื่อไปถึงได้พบกับคนบนเรือทั้ง 5 คน และมีคนอื่น ซึ่งเป็นคนรู้จักของแต่ละคนติดตามมาด้วย แต่ตนเองก็ย้ำว่ายังไม่ต้องพูดคุยอะไรเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น เอาไว้ค่อยเล่าทีเดียวตอนที่ทนายความมา จะได้ไม่ต้องเป็นการเล่าซ้ำ เพราะรอทนายเอ็มพร้อมกับทีมทนายก็จะเดินทางมาที่ร้านอาหาร กลุ่มของตนเองจึงนั่งทานข้าวและคุยกันเรื่องอื่น แต่ถึงช่วงระยะหนึ่ง นายปอได้พูดขึ้นมาว่า "ติดต่อเรือเพิ่มเติมได้แล้ว" ทำให้นายโรเบิร์ตและนายจ๊อบลุกออกไปจากร้านอาหาร เพราะทุกคนประสานเรือเอาไว้ เพื่อที่จะไปขับช่วยตามหาแตงโม หลังจากที่ติดต่อได้เรือแล้ว จึงมีคนบนเรือ 2 คน ลุกออกจากห้องอาหารเพื่อไปตามหา ฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกหลังจากที่ทนายเอ็มมาถึง จะเหลือคนบนเรือเพียงแค่ 3 คนคือ กระติก ปอ และแซน

248855

มีช่วงหนึ่งในระหว่างที่นั่งพูดคุยกันอยู่ในร้านอาหารที่สุขุมวิท แซนได้พูดขึ้นมากลางวงว่ามีตำรวจโทรมาหา 2 สาย ตนเองจึงได้ขอเบอร์โทรศัพท์ดังกล่าวเพื่อติดต่อกลับไป จนทราบว่าเบอร์นั้นคือเบอร์ของผู้กำกับ สภ.เมืองนนทบุรี ตนเองจึงได้สอบถามทางด้านของผู้กำกับก็เลยทราบว่าให้มีการพาตัวคนบนเรือมาเจอที่โรงพัก ตนเองก็ยืนยันว่าไม่ได้รู้จักกับผู้กำกับเป็นการส่วนตัว รู้จักกันในตอนที่ได้เบอร์มาจากแซน และเป็นคนติดต่อเพื่อให้คนบนเรือไปเจอกับตำรวจเท่านั้น แต่ในช่วงที่ทุกคนนัดหมายว่าจะไปเจอกับตำรวจเวลา 17.00 น. ปรากฏว่าคนบนเรือซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นใครได้ไปติดต่อกับทนายดังคนหนึ่งให้เข้ามาช่วยดูคดี

259258

แต่ในทางกลับกัน ตนเองได้มีการติดต่อทนายเอ็มให้แล้ว ทำให้ทางทนายเอ็มจึงตัดสินใจที่จะถอนตัวไป แต่เมื่อทนายดังไม่รับเป็นทนายความ ตนเองก็ยังช่วยโทรไปหาทนายเอ็มเพื่อขอให้กลับมา แต่ทางด้านเจ้าตัวก็ปฏิเสธ เพราะถือว่าตัดสินใจไปแล้ว ทำให้ในวันดังกล่าวย้อนกลับไปดูการให้สัมภาษณ์ของผู้กำกับนนทบุรี จะรู้ว่าท่านบอกว่า "กลุ่มคนบนเรือยังหาทนายความไม่ได้ จึงขอเลื่อน" ซึ่งก็เป็นตรงตามข้อเท็จจริงว่าวันนั้นคนบนเรือยังหาทนายความไม่ได้ จึงไม่ได้เดินทางไปที่โรงพัก

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม