กรณีโลกออนไลน์ตั้งข้อสังเกต เกี่ยวกับประเด็นทรายในรองเท้าของคนบนเรือ ตามพฤติกรรมที่เห็นว่ามีการทำรวามสะอาดและจับรองเท้ากัน พลังโชเชียลจึงพากันตรวจสอบโรงแรมหรูระดับ 3 ดาวขึ้นไป ที่ติดกับแม่น้ำเข้าพระยาละแวกใกล้เกิดเหตุว่าโรงแรมใดมีโป๊ะเทียบเรือ และมีลานทราย ปรากฏว่าโรงแรมย่านสะพานพระราม 5 ซึ่งมีหากทรายติดกับโรงแรมนั้น
วันที่ 4 เม.ย. 65 ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังโรงแรมพิกัดเป้าหมาย ตรวจสอบความเป็นไปได้ หาโรงแรมที่มีลานทรายใกล้กับทางขึ้นลงของโรงแรมริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ทีมข่าวได้ทำการสำรวจ 2 แบบ คือ ทางบกและทางเรือ
การลงพื้นที่สำรวจทางบก สามารถที่จะขับรถจากถนนสายหลักนนทบุรี-พระราม 5 ขับเข้าไปจนกระทั่งถึงตัวโรงแรมได้ โรงแรมแห่งนี้สามารถใช้ทางถนนเชื่อมต่อกับโรงแรมได้แบบสะดวกสบาย ไม่จำเป็นต้องขึ้นเฉพาะทางน้ำเท่านั้น และในขณะที่ทีมข่าวได้ทดสอบลองขับรถเข้าไปภายในตัวโรงแรม บรรยากาศเป็นไปอย่างร่มรื่น มีพนักงานรักษาความปลอดภัยอยู่บริเวณทางเข้า-ออก
ส่วนการสำรวจทางน้ำ ทีมข่าวได้ลงเรือมุ่งหน้าไปที่ลานหาดทราย ตามการสังเกตของกลุ่มโซเชียล ที่มีการดูจาก Google Maps ระบุว่าโรงแรมดังกล่าวเป็นเส้นทางผ่านของเรือสปีดโบ๊ต และยังมีหาดทรายติดกับโรงแรม เมื่อทีมข่าวมีการล่องเรือเข้าไปที่บริเวณจุดดังกล่าว ปรากฏว่าข้างโรงแรมมีหาดทรายจริง แต่เป็นลักษณะพื้นที่ส่วนบุคคล ซึ่งยังไม่ได้มีการก่อสร้าง จึงทำให้บริเวณชายฝั่งจึงมีคลื่นน้ำกระทบเป็นระยะ และทำให้เห็นเป็นลักษณะหาดทรายยาวประมาณ 2 เมตร แต่ก็ค่อนข้างรกเพราะมีต้นหญ้าปกคลุม หากมีการตั้งข้อสังเกตว่ามีการเทียบเรือบริเวณหาดทรายใกล้กับโรงแรมดังกล่าว เดินเชื่อมเพื่อจะเข้าไปที่ตัวของโรงแรม จากการสังเกตของทีมข่าวพบว่าด้านข้างจะมีรั้วสูง ถ้าหากจะมีการเข้าโรงแรมผ่านหาดทราย คาดว่าจะไม่สามารถข้าไปได้
ลุงพันธ์ (นามสมมติ) ชาวบ้านในละแวกใกล้กับโรงแรม เปิดเผยว่า ปกติแล้วหาดทรายดังกล่าวไม่ได้มีเรือหรือคนใช้ขึ้นลง เพราะเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล ยังไม่ได้มีการก่อสร้างหรือทำเขื่อนกันคลื่นเท่านั้น ที่สำคัญหากจะนำเรือสปีดโบ๊ต หรือนำเรือไปเทียบ ส่วนใหญ่จะไม่นิยมทำกัน เนื่องจากจุดดังกล่าวมีการฝังเสาเข็มเรียงเป็นหน้ากระดาน หากมีความจำเป็นต้องนำเรือเข้าไปเทียบ ก็จะต้องสังเกตวันน้ำขึ้นน้ำลง เพราะถ้าหากนำเรือเข้าไปเทียบตอนเข้าอาจจะเข้าได้ แต่พอขาออกน้ำลดลงก็จะทำให้เรือเกยเสาเข็ม และนำเรือออกมาจากหาดทรายไม่ได้
หากย้อนกลับไปในคืนวันเกิดเหตุ เป็นช่วงวันน้ำลง และลักษณะเป็นน้ำนิ่ง หากมองว่าจะมีการนำเรือสปีดโบ๊ทเข้าไปเทียบบริเวณหาดทรายดังกล่าว ส่วนตัวมองว่าสามารถนำเข้าไปได้แต่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ แต่ตอนออกก็อาจจะเกยเสาเข็มเพราะระดับน้ำลดลง ดังนั้นก็เชื่อว่าคนใช้เรือก็คงจะรู้กันดีเรื่องวันน้ำขึ้นน้ำลง คงไม่กล้านำเรือเข้าไปเสี่ยง โดยการขับเข้าไปแล้วติดเสาเข็มออกไม่ได้
ตนยืนยันว่าหากจะมีการขึ้นลงที่โรงแรมดังกล่าว ก็ไม่จำเป็นต้องไปจอดที่หาดทราย สามารถจอดที่ถ้าเทียบเรือของโรงแรมได้ เพราะมีพนักงานรักษาความปลอดภัยอยู่ประจำตลอด และหากจะขึ้นไปก็เพียงแค่แจ้งว่ามาทำธุระอะไรเท่านั้น ทางโรงแรมไม่ได้มีการปิดกั้นหรือห้ามไม่ให้เทียบเรือ ถ้าหากจะเทียบเรือบริเวณหาดทรายใกล้โรงแรม ก็จะต้องเดินขึ้นไปที่ถนนใหญ่ ไม่ใช่สามารถที่จะเดินตัดเข้าไปที่รู้ว่าของโรงแรมได้โดยตรง ส่วนเรื่องของเส้นทางการสัญจร มักจะใช้เส้นทางถนนเพราะมีความสะดวกกว่า ส่วนเส้นทางทางน้ำ ที่จะมีการนำเรือไปเทียบที่โป๊ะของโรงแรมจะมีคนใช้สัญจรน้อย ยกเว้นกลุ่มนักเรียนที่จะลงเรือข้ามฟากหรือใช้เรือด่วนเท่านั้น
