คืบหน้ากรณี "แตงโม-นิดา" นักแสดงชื่อดังพลัดตกจากเรือสปีดโบ๊ต กลางแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงใต้สะพานพระราม 7 ท่าเรือพิบูลสงคราม เขตจังหวัดนนทบุรี กระทั่งพบว่าร่างลอยน้ำขึ้นมาในช่วงบ่ายของวันที่ 26 ก.พ.65 ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก "แหม่มโพธิ์ดำ" ได้มีการลงภาพนิ่งเห็นลักษณะคนกำลังจับรองเท้าเพื่อทำความสะอาดหรือกำลังจะสวมใส่รองเท้า พร้อมระบุข้อความว่า "ก็แปลกดีนะ เรื่องเกิดบนเรือ แต่มีทรายในรองเท้ากันเกือบทุกคน"
วันที่ 4 เม.ย. 65 นายวีรยุทธ เพ็ชรแกมทอง อาสากู้ภัยร่วมกตัญญู อาสากู้ภัยทีมแรกที่ไปถึงบริเวณที่เกิดเหตุ และได้ร่วมพูดคุยกับกลุ่มคนบนเรือเพื่อสอบถามเกี่ยวกับพิกัดตกเรือของแตงโมในวันเกิดเหตุ เปิดเผยว่า จากกรณีที่โลกออนไลน์ได้มีการจับผิดเกี่ยวกับคนบนเรือมีการทำความสะอาดรองเท้า คล้ายกับมีเศษทรายหรือดินติดอยู่นั้น ส่วนตัวเห็นตั้งแต่เรือสปีดโบ๊ตของนายปอเริ่มเข้ามาเทียบที่โป๊ะท่าเรือพิบูลสงคราม ตอนนั้นเมื่อเรือเทียบแล้ว ปรากฏว่าคนที่ออกมาจากเรือคนแรกคือแซน ตามด้วยผู้ชายใส่เสื้อสีเทา ซึ่งทราบภายหลังว่าคือนายจ๊อบ แซนก้าวลงจากเรือ ก็สวมใส่รองเท้าตามปกติไม่ได้มีการจับรองเท้า แต่หันไปจับมือพยุงเพื่อให้จ๊อบก้าวออกจากเรือได้
หลังจากที่จ๊อบพ้นจากเรือแล้ว คนอื่นก็นั่งอยู่ในเรือตามปกติ ไม่ได้มีใครขึ้นจากเรือ สังเกตเห็นว่าในมือของนายจ๊อบมีการถือรองเท้าคล้ายกับเขย่าเอาสิ่งของที่อยู่ในรองเท้าหรือใต้รองเท้าออก แต่ก็ไม่ได้สังเกตว่ามีอะไรร่วงหล่นมาจากรองเท้าหรือไม่ ประกอบกับโฟกัสเรื่องพิกัดตกมากกว่า โดยแซนได้ขึ้นไปนั่งบนศาลา มื่อนายจ๊อบสวมใส่รองเท้าแล้วก็เดินอยู่บริเวณแถวโป๊ะเรือท่าน้ำ แซนอยู่ให้การกับตำรวจสายตรวจชุดแรกที่เข้ามา เล่าให้กับทีมกู้ภัยฟังอยู่บนศาลาประมาณ 10 นาที จากนั้นแซนและจ๊อบก็เดินลงไปที่เรือ
ขณะที่ช่วงจังหวะเดียวกัน เป็นช่วงที่กระติกและนายโรเบิร์ต เดินย้อนขึ้นมาจากโป๊ะเรือท่าน้ำ ได้ไปทำธุระส่วนตัวตามที่ปรากฏเป็นข่าว และเดินสวนกับกลุ่มอาสากู้ภัย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีตนเองที่ยืนอยู่ด้วย ส่วนเรือก็ออกไปลันตามหาวนหาบริเวณสะพานพระราม 7 ในฐานะที่ตนเองเป็นทีมอาสากู้ภัยที่ไปถึงบริเวณท่าเรือริมน้ำก่อนทีมอื่น ยืนยันว่าในวันนั้นเท่าที่จำความได้มีเพียงแค่นายจ๊อบเพียงคนเดียวที่ถือรองเท้า ส่วนคนอื่นก็เดินขึ้นลงตามปกติ ไม่ได้เห็นความผิดปกติแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม บริเวณท่าเรือริมน้ำโดยเฉพาะท่าเรือพิบูลสงคราม ส่วนใหญ่หลังจากที่เทียบเรือแล้วจะต้องเดินเหยียบโป๊ะท่าน้ำที่ทำด้วยเหล็ก จุดดังกล่าวไม่ได้มีดินหรือทรายอยู่บนโป๊ะ เมื่อเดินขึ้นมาได้แล้ว ก็จะเดินขึ้นมาที่ศาลาริมน้ำ ซึ่งพื้นก็จะเป็นพื้นปูน ไม่ได้มีความผิดปกติหรือกองดินทราย จึงเชื่อว่าบริเวณโป๊ะท่าเรือพิบูลสงครามไม่ได้มีดินหรือทรายเปื้อนรองเท้าใครบนเรืออย่างแน่นอน ส่วนท่าเรือบริเวณสะพานพระราม 8 มาจนถึงกระทั่งท่าสะพานพระราม 7 ที่เกิดเหตุ ส่วนใหญ่โป๊ะเรือสองริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาก็ทำลักษณะคล้ายกันโดยเป็นเหล็ก จึงเป็นไปไม่ได้ว่าถ้าเป็นโป๊ะเรือในละแวกนี้จะมีดินหรือทรายติดเท้า ยกเว้นตอนที่ขึ้นลงบริเวณร้านอาหารที่ครัวตานิต จุดนั้นตนเองไม่ทราบ เพราะตนไม่ได้อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว
