หลังจาก "ชาย อานันท์ทวีป" ได้มีการร่วมแสดงความคิดเห็นพร้อมกับ "หนิง ปณิตา" เกี่ยวกับกระบวนการในการชันสูตรศพของแตงโม อยากจะให้มีการตรวจสอบทรายในปอด เพื่อเชื่อมโยงพิกัดตกเรือ เพื่อคลายข้อสงสัยประเด็นทางสังคม เพราะเนื่องจากจะได้ช่วยกันหาหลักฐานเพิ่มเติมโดยเฉพาะกล้องวงจรปิดบริเวณพิกัดตกนั้น
วันที่ 1 เม.ย. 65 "ชาย อานันท์ทวีป ชยางกูร ณ อยุธยา เจ้าตัวเปิดเผยว่า การโพสต์และแสดงความคิดเห็นดังกล่าว เป็นการพูดคุยกับหนิง ปณิตา ซึ่งได้มีการล่องเรือสำรวจบริเวณย่านพระราม7 ตามพิกัดที่คาดว่านางสาวแตงโมตกเรือ โดยต้องการที่จะหาพยานหลักฐานและเชื่อมโยงข้อมูลทั้งหมด ซึ่งทุกครั้งที่มีการตรวจชันสูตรศพ มีเพียงแค่ตรวจสภาพ แต่ไม่ได้มีการนำทรายหรือดินในปอดหรือในร่างกาย ไปทำการตรวจอย่างละเอียด ซึ่งเหตุผลที่ตนเองต้องการอยากให้ตรวจเป็นเพราะว่าจะเป็นการตรวจยืนยันจุดตกเรือที่แน่ชัด เนื่องจากจะได้เป็นการหากล้องวงจรปิด หรือพยานหลักฐานอื่นเพื่อที่จะทำให้คดีมีความสมบูรณ์ และคลายข้อสงสัยประเด็นทางสังคม
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ ในขณะที่มีการล่องเรือตรวจสอบข้อเท็จจริงบริเวณย่านสะพานพระราม 7 คนขับเรือได้ให้ข้อมูลสำคัญกับตนเองว่า บริเวณใกล้กับสะพานพระราม 7 จะเป็นจุดขึ้นลงของเรือโป๊ะทราย โดยทรายที่นำมาขึ้นลงบริเวณจุดนั้น ไม่ใช่ทรายจากแม่น้ำเจ้าพระยา แต่เป็นทรายที่นำมาจากภาคเหนือ
ดังนั้น หากมีการตรวจทรายที่อยู่ในปอดของนางสาวแตงโม ก็จะทำให้ยืนยันได้แน่ชัดว่านางสาวแตงโมตกเรือและจมน้ำบริเวณจุดดังกล่าวจริง เพราะตนเองเชื่อว่าทรายในแม่น้ำเจ้าพระยาจะมีความต่างจากทรายที่นำมาจากภาคเหนืออย่างแน่นอน
จากการลงพื้นที่ ตนเองได้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดหลายจุด แต่ที่ยังคาใจจนถึงทุกวันนี้ ก็คือมุมกล้องวงจรปิดฝั่งการไฟฟ้า ที่ค่อนข้างติดตั้งเอาไว้ในมุมสูง มีความคมชัดสูง ดังนั้นจึงอยากทราบและเห็นมุมกล้องจุดดังกล่าวว่าจะเห็นลักษณะการตกเรืออย่างไร
นอกจากนี้ ประเด็นที่ถูกตั้งคำถามว่าทำไมวงจรปิดบริเวณ กฟผ. จึงไม่มีการเปิดเผยภาพจากมุมต่าง ๆ ทั้งที่มีกล้องวงจรปิดจำนวนมาก จากการตรวจสอบทราบว่าเป็นเรื่องความมั่นคง เนื่องจากเป็นศูนย์บัญชาการทางการไฟฟ้า จึงไม่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณะได้ทั้งหมด
