กราบเท้าขมา! เมียเหี้ยมลวงผัวให้ลูกฆ่าอ้างนึกว่าสลบ ใช้ทางหมาผ่านหิ้วศพทิ้ง (คลิป)

30 มี.ค. 65

กรณี พ.ต.ท.บวรศักดิ์ คำรังษีรอง ผกก.สส.สภ.วารินชำราบ นำเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจาก กก.สส.ภ.จว.อุบลราชธานี ติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุที่ฆ่านายสุเทน ทาระบุตร อายุ 36 ปี และนำศพไปอำพรางทิ้งไว้โรงงานร้าง ในพื้นที่ ต.โพธิ์ไทร อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี โดยตำรวจสามารถจับกุมได้ทั้งหมด 2 คน ได้แก่ นายจุลเดช ใกล้ฝน อายุ 20 ปี หรือ โบ๊ท และนายเรืองศักดิ์ ทองจัตตุ หรือ สายฟ้า อายุ 22 ปี ทหารเกณฑ์

161839

ในเบื้องต้นทั้งคู่ ให้การสารภาพว่าก่อเหตุจริง แต่มีผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด 4 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ออกหมายจับผู้ก่อเหตุทั้งหมด 4 คน ในข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันซ่อนเร้นอำพรางศพ และร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน” 

ล่าสุดวันที่ 30 มี.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี รายงานว่า เวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาตามหมายจับอีกทั้ง 2 คน ได้แก่ นางสาวจริยา หารสาร อายุ 39 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต และนายธิติสรร อายุ 20 ปี หรือ ยูฟ่า ลูกเลี้ยงผู้เสียชีวิต เดินทางมายัง สภ.วารินชำราบ เตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในพื้นที่เกิดเหตุ

473327

จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ ระบุว่า สามารถควบคุมตัวจับได้ตั้งแต่วันที่ 29 มี.ค.65 ช่วงค่ำ ๆ เนื่องจากผู้ต้องหาทั้ง 2 มีพฤติกรรมหลบหนี และตรวจตามสังเกตการณ์จนทราบพิกัด จากนั้นควบคุมตัวได้ที่บริเวณหาดจอมเทียน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ขณะนี้จึงสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คนได้ทั้งหมดแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณถนนดินแดงภายในซอยก่อนถึงวัดป่าจังกาจิตต์ ตำบลธาตุ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี โดยจะต้องขับรถเข้ามาภายในซอยประมาณ 1.5 กิโลเมตร เพราะที่เกิดเหตุอยู่ใกล้กับโกดังร้างแห่งหนึ่ง รอบข้างมีเพียงป่าหญ้ารกทึบ

520039

อีกทั้งบริเวณพุ่มไม้นั้น จะมีผู้ที่แอบดักซ่อนอยู่ 3 คน ได้แก่ นายธิติสรร อายุ 20 ปี หรือ ยูฟ่า ลูกเลี้ยง, นายจุลเดช ใกล้ฝน อายุ 20 ปี หรือ โบ๊ท และนายเรืองศักดิ์ ทองจัตตุ หรือ สายฟ้า อายุ 22 ปี แอบซ่อนอยู่ใกล้พุ่มไม้บริเวณ 3 แยกที่นางสาว จริยา นัดแนะให้มายังจุดดังกล่าว กระทั่งนายสุเทน มาถึงพร้อมอาวุธมีด นายธิติสรร ก็เดินเข้าไปพร้อมมีด และจ้วงฟันนายสุเทน หลายครั้งตนได้รับบาดเจ็บล้มลง

769599822536

ด้านนายจุลเดช และนายเรืองศักดิ์ รีบวิ่งออกมาจากพุ่มไม้ พร้อมถือไม้ออกมาทุบตีเข้าที่ร่างกายของนายสุเทน โดยนายเรืองศักดิ์ ตีที่ขา และนายจุลเดช รุมทำร้ายทุบตีซ้ำตามขา หลัง เอว และแขน ต่อมานายสุเทน พยายามลุกขึ้นและวิ่งหนีในระยะประมาณ 50 เมตรก็ล้มลงอีกครั้ง เพราะมีอาการบาดเจ็บจากการถูกแทงและถูกทำร้าย กระทั่งทั้ง 3 คน วิ่งตามเข้ามา ทำร้ายต่อ และมีการต่อสู้กันอีกครู่หนึ่ง จนนายเรืองศักดิ์ ใช้ไม้ฟาดที่ศีรษะของนายสุเทน จนล้มลงและตะเกียกตะกาย วิ่งไปอีก 5 เมตรถึงสามแยกทางเข้าวัดป่าเกษตร ผู้ก่อเหตุทั้ง 3 คนก็เลยวิ่งกลับไปที่รถกระบะ ซึ่งมีน.ส.จริยา นั่งคอยอยู่บนรถ

cg-3

ต่อมานายธิติสรร กลับขึ้นไปที่รถ และคุยกับน.สจริยา โดยน.ส.จริยา บอกว่าให้กลับออกมาดู นายสุเทน จึงให้ขับรถออกมาดูว่าเป็นอย่างไร โดยทั้ง 3 คนก็ขึ้นรถและขับรถกระบะมาดูจุดที่นายสุเทน ล้มลง แต่เมื่อมาถึงก็เห็นว่าเสียชีวิตแล้ว จึงแบกร่างขึ้นรถ โดยมีนายจุลเดช และนายธิติสรร เป็นผู้นำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นรถ และขับรถไปยังโรงงานร้างดังกล่าว 

253915

ทีมข่าวเดินทางมายังจุดทิ้งศพ บริเวณหลังโรงงานร้าง ในพื้นที่ ต.โพธิ์ไทร อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุ ประมาณ 60 กิโลเมตร เมื่อถึงบริเวณหลังกำแพงโรงงานร้าง นายธิติสรร เป็นผู้ขับขี่รถมาถึงจุดทิ้งศพ ต่อมานายธิติสรร และนายจุลเดช ช่วยกันนำศพลงจากรถกระบะ ก่อนที่นายจุลเดช จะเป็นผู้คลานเข้าไปในช่องว่างด้านหลังของโกดังร้าง เป็นคนแรก และได้นำร่างของผู้เสียชีวิตลอดผ่านเข้าไป โดยนำศีรษะเข้าไปเป็นอันดับแรก และนายธิติสรร ก็คลานตามเข้ามา และลากศพทิ้งเอาไว้ตรงบริเวณพุ่มไม้ใกล้ร่องน้ำ ห่างจากกำแพงไม่เกิน 5 เมตร เมื่อนำมาทิ้งก็ลอดกลับออกมา โดยที่น.ส.จริยา ไม่ได้ลงรถแต่อย่างใด และนายเรืองศักดิ์ ก็ยืนรอเฝ้าอยู่นอกกำแพง และก็ได้ขับรถออกจากพื้นที่ทันที

125641

ขณะเดียวกัน ในระหว่างที่ทำแผนประกอบคำรับสารภาพนั้น น.ส.จริยา ยืนอยู่ห่างจากจุดที่ทิ้งศพ โดยร.ต.ต.เอกณรงค์ ทาระบุตร อายุ 56 ปี พี่ชายผู้เสียชีวิต เดินทางเข้ามายังที่เกิดเหตุ ขณะที่ น.ส.จริยา เห็นพี่ชายผู้เสียชีวิต ได้คุกเข่าก้มลงกราบเท้าร.ต.ต. เอกณรงค์ ก็ได้พูดให้กับ น.ส.จริยา ระบุว่า "อาหารการกินก็ดูแลให้อยู่ตลอด ทำไมถึงทำแบบนี้ได้"

โดยน.ส.จริยา ตอบกลับพี่ชายผู้เสียชีวิตว่า ตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ตนอยู่ในรถ อีกทั้งลูกชายก็ห้ามว่าไม่ให้ตนเข้ามาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ทำร้ายร่างกาย เมื่อตนถามลูกชายก็ตอบตนว่า "แค่สลบ" ตนจึงบอกว่าให้พาไปโรงพยาบาล ซึ่งตนไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น แต่พี่ชายของผู้เสียชีวิตก็โต้กลับว่า “พาไปโรงพยาบาลอะไร ตีจนเละไม้หักแผลฟันกว่า 10 แผล เสื้อขาดหลุดลุ่ย น.ส.จริยา ก็ตอบกลับอีกว่า "พอรู้ว่าไม่หายใจแล้ว ก็กลัวลูกจะได้รับโทษติดคุก จึงให้เอาร่างขึ้นรถ แล้วพามาหลังโรงงานร้าง และหลบหนี"

199892

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี จึงได้พูดคุยกับ น.ส.จริยา หารสาร ภรรยาผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนไม่ทราบเหตุการณ์อะไรทั้งนั้น เพราะตนอยู่บนรถ อีกทั้งไม่ได้เป็นคนสั่งอะไรใด ๆ แต่สาเหตุหลัก ๆ นายสุเทน เคยทำร้ายร่างกายตนมาโดยตลอด หลังจากเสพยาเสพติด และอาละวาดบ่อยครั้ง

ทั้งนี้ ตนยอมรับตนก็เสพยาบ้างเป็นบางครั้ง ในระหว่างที่หนีไปนั้น ไปโดยไม่มีจุดหมายปลายทาง ค่ำไหนก็นอนที่นั่น และก็ไปหยุดแถว ๆ หาดจอมเทียน จ.ชลบุรี ไปหางานทำแถวพัทยาได้ 1-2 วัน เนื่องจากเงินหมด ตนกลัวลูกชายจะติดคุกได้รับโทษ จึงรู้สึกเป็นกังวลทุกวันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตามมารวบตัว 

593756

อย่างไรก็ตาม ตนรู้สึกสำนึกผิดมาก ๆ ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ตนก็อยู่กับเขามานาน ไม่ใช่ไม่รัก แต่เหตุนี้ถือว่าเป็นอารมณ์ชั่ววูบจากแรงสะสมที่ตนถูกทำร้ายมาโดยตลอด ส่วนลูกชายนั้นก็จะเห็นเหตุการณ์ทุกครั้ง ทำให้มีเก็บกดสะสมเช่นกัน ลูกชายมักจะเห็นนายสุเทน มึนเมาสารเสพติดอีกด้วย

271215

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ ร.ต.ต.เอกณรงค์ ทาระบุตร อายุ 56 ปี รอง สว.(สืบสวน) ตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี พี่ชายผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ขณะนี้จับคนร้ายได้ทั้งหมดแล้ว ตนก็รู้สึกไม่มีอะไรคาใจ ปล่อยให้เป็นกระบวนการของเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป แต่ตนไม่เชื่อในคำพูดของ น.ส.จริยา เพราะตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ อีกทั้งเขาจะพูดอะไรก็ถือว่าเป็นคำกล่าวอ้างของเขา

"ผมก็เป็นพี่ชาย ที่คอยดูแล หาข้าว หาน้ำ ให้เขากินตลอด หาก น.ส.จริยา ไม่มีเงินใช้ ผมก็ให้เงินช่วยเหลือใช้จ่ายอยู่ตลอดเป็นประจำ ส่วนที่เขาพาลูกหนี อาจจะเพราะความตกใจก็พอเข้าใจ เรื่องที่ว่าน้องชายเสพยาเสพติด ผมยอมรับว่าเคยทราบมาเมื่อนานมาแล้ว แต่ไม่ทรทบรายละเอียด รู้ว่าทั้ง 2 คนนั้นเสพยาเสพติดแน่นอน" ร.ต.ต.เอกณรงค์ กล่าว

301997

ทั้งนี้ ตนบ้านอยู่หลังติดกันไม่เคยได้ยินเสียงทะเลาะตบตีกัน เพียงแต่ในวันที่ 5 มี.ค.65 เป็นวันแรกที่ได้ยินเสียงทะเลาะกัน ปกติไม่เคยได้ยินเสียงทะเลาะ หรือเห็นน้องชายทำร้ายร่างกาย น.ส.จริยา ส่วนเรื่องการชันสูตรพลิกศพนั้น จะนำส่งศพไปยังโรงพยาบาลตำรวจในวันนี้ (30 มี.ค.65) อีกทั้งผู้ต้องหาทั้ง 4 ก็เป็นบุคคลตามที่ตนคิดเอาไว้ทั้งหมด ส่วน 2 คนที่เป็นพยานนั้น ก็จะต้องมาให้ปากคำเพิ่มเติมต่อไป

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส