เพิ่งเห็นครั้งแรก! เจอจริงเรือปริศนาขับตามแตงโมทั้งไปและกลับ พยานยันไม่ใช่ชาวบ้าน (คลิป)

กรณี "แตงโม-นิดา" ดารา-นักแสดงชื่อดังพลัดตกจากเรือสปีดโบ๊ต กลางแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงใต้สะพานพระราม 7 ท่าเรือพิบูลสงคราม เขตจังหวัดนนทบุรี ขณะกำลังล่องเรือกับเพื่อน ๆ รวม 6 คน

วันที่ 11 มี.ค. 65 ทีมข่าวลงพื้นที่ บริเวณสะพานพระราม 7 ตามคำให้การของกลุ่มคนตกปลา ช่วงเวลากลางคืน ที่ให้เบาะแสกับทีมข่าวว่าช่วงเวลาก่อนและหลังเกิดเหตุ ที่มีเรือสปีดโบ๊ตของนางสาวแตงโมขับผ่าน เวลาประมาณ 21.38 น. จะเห็นเรือต้องสงสัยขับตามหลัง และเวลาประมาณ 22.29 น. จะเห็นเรือต้องสงสัยลอยลำอยู่ใต้สะพานพระราม 7 ก่อนที่จะเห็นด้วยสปีดโบ๊ตของแตงโมขับผ่าน จากนั้นเรือต้องสงสัยก็จะมีการขับย้อนกลับพร้อมกับเปิดไฟ และขับตามหลังลงไป

จากคำให้การของพยานที่เป็นคนตกปลา ทีมข่าวจึงได้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใต้สะพานพระราม 7 ปรากฏว่าเป็นไปตามเบาะแส ช่วงเวลาประมาณ 21.25 น. เวลาช้ากว่าปกติ 13 นาที (เวลาจริง 21.38 น.) จะเห็นเรือสปีดโบ๊ตของแตงโมแล่นผ่านใต้สะพานพระราม 7 ก่อนที่จะมีเรือต้องสงสัย ซึ่งคาดว่าเป็นเรือพาณิชย์ของชาวบ้าน เพราะเป็นลักษณะเรือไม้มีสปอตไลต์อยู่หัวเรือ ขับทิ้งห่างตามหลังมา

จากนั้น กล้องวงจรปิดตัวเดิม จับภาพเวลาประมาณ 22.16 น. ของกล้อง (เวลาจริง 22.29 น.) จะเห็นเรือสปีดโบ๊ตของแตงโมแล่นผ่านสะพานพระราม 7 กลับจากถ่ายรูปเล่นกับกลุ่มเพื่อนที่สะพานพระราม 8 และกล้องตัวดังกล่าวจะเห็นว่าเรือลักษณะใกล้เคียงกับลำที่ขับตามตอนแรก มีลักษณะจอดลอยลำอยู่ใต้สะพาน เมื่อเห็นเรือของแตงโมแล่นผ่าน จึงได้มีการขับย้อนกลับพร้อมกับเปิดไฟ

จากนั้น ทีมข่าวตรวจสอบกล้องวงจรปิดซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามจุดแรกที่ทีมข่าวได้ภาพกล้องวงจรปิด บริเวณใต้สะพานพระราม 7 ซึ่งเป็นภาพมุมกว้างเห็นแม่น้ำเจ้าพระยากับสะพาน กล้องฝั่งตรงข้ามก็จะสังเกตเห็นเรือสปีดโบ๊ตของแตงโมแล่นผ่าน ช่วงเวลาจริงประมาณ 21.38 น. จากนั้นก็จะมีเรือต้องสงสัยตามที่ชาวบ้านตั้งข้อสังเกตขับตามหลัง

ต่อมาช่วงเวลาประมาณ 22.29 น. ก่อนถึงพิกัดตกเรือของเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณท่าเรือพิบูลสงคราม หลังจากที่เห็นสปีดโบ๊ตของแตงโมลอดผ่านสะพานพระราม 7 เรือลำดังกล่าวก็ตามหลังลงไปเช่นกัน แต่กล้องไม่สามารถจับภาพได้ต่อว่าเรือไปถึงบริเวณจุดไหน

ทีมข่าวลงพื้นที่ไปตรวจสอบบริเวณใต้สะพานพระราม 7 บริเวณจุดดังกล่าวมีลักษณะเป็นเขื่อนปูน ชาวบ้านมักจะแวะเวียนกันมาตกปลา

นายเขียว (นามสมมติ) ชาวบ้านที่ให้เบาะแส เปิดเผยว่า ช่วงเวลาดังกล่าวตนเองทราบจากกลุ่มเพื่อนที่ไปตกปลาในตอนกลางคืน ในช่วงวันที่ 24 ก.พ. 65 วันเกิดเหตุ มีเรือสปีดโบ๊ตของแตงโมแล่นผ่าน จากนั้นก็เห็นเรือต้องสงสัยลักษณะขับตาม ไม่มีใครเชื่อว่าเป็นเหตุบังเอิญ เพราะในตอนที่ลองขึ้นไปเพื่อจะถ่ายรูปกับสะพานพระราม 8 ก็เหมือนขับขึ้นไปตามหลัง ทิ้งห่างไม่มาก แต่เมื่อช่วงเวลาที่เห็นเรือของแตงโมขับกลับมาเพื่อจะมุดใต้สะพานพระราม 7 กลับไปที่จุดตกเรือ กลับปรากฏว่ามีการขับตามหลังลงไปอีก

ซึ่งถ้าหากบังเอิญก็คงจะเป็นไปยาก เนื่องจากเห็นมีการจอดเรือลอยลำรออะไรบางอย่าง จนกระทั่งเห็นเรือสปีดโบ๊ตของแตงโมผ่านก็มีการติดไฟ และเร่งเครื่องตามหลัง จึงอยากให้ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ช่วยตรวจสอบกล้องวงจรปิด และตรวจสอบเรือลำดังกล่าวว่าเกี่ยวข้องหรือไม่ ส่วนเรือที่ปรากฏอยู่ในกล้องวงจรปิด หลังจากที่ทีมข่าวมีการตรวจสอบแล้วตนเองก็ไม่ชี้ชัดว่าเป็นเรือที่อยู่ในละแวกนี้หรือไม่ แต่มีลักษณะคล้ายเรือไม้ แต่ไม่ใช่เรือข้ามฟากหรือรับลูกค้า ดังนั้นจึงไม่สามารถยืนยันได้ชัดเจนว่าจะเป็นเรือชาวบ้าน เรือประมง หรือเรือพาณิชย์

ทีมข่าวได้ล่องเรือตรวจสอบเรือต้องสงสัย ตามภาพกล้องวงจรปิดที่ชาวบ้านให้เบาะแส พบหรือลักษณะใกล้เคียงกับภาพที่ปรากฏอยู่ในกล้องวงจรปิด โดยเป็นเรือไม้ซึ่งใช้สำหรับเป็นเรือลาก ขนส่งทรายและสินค้าทางน้ำ มีการจอดเทียบถ้าอยู่ห่างจากสะพานพระราม 7 ไม่ไกล โดยการลงเรือตรวจสอบ พบเรือลักษณะใกล้เคียงกับภาพที่อยู่ในกล้องวงจรปิด ชาวเรือเรียกกันว่า ”เรือกำปั่น” เป็นลักษณะเรือไม้หัวแบน ใช้ขนส่งสินค้า

โดยเจ้าของเรือที่มีเรือคล้ายกับที่ปรากฏอยู่ในกล้องวงจรปิดให้ข้อมูลว่า แม้เรือของตนเองจะมีลักษณะใกล้เคียงกับภาพที่ปรากฏอยู่ในกล้องวงจรปิด หัวเรือเป็นแบบกำปั่น และท้ายเรือมีสิ่งของคล้ายกับที่อยู่ในกล้องวงจร แต่เป็นเรือคนละลำกัน เพราะในคืนวันเกิดเหตุตนเองออกวิ่งเรืออยู่แถวพระนครศรีอยุธยา เข้ามาเทียบหรือผ่านบริเวณสะพานพระราม 7 หลังคืนวันเกิดเหตุแล้ว ดังนั้นจึงยืนยันว่าเรือลำดังกล่าวแม้จะใกล้เคียง แต่ไม่ใช่เรือของตนเองแน่นอน และจากภาพกล้องวงจรปิด ซึ่งเห็นไม่ชัดว่าเป็นเรือชื่ออะไร จึงไม่สามารถที่จะยืนยันคนขับเรือได้

ทีมข่าวสำรวจเรือไม้ เรือลากขนทรายและสินค้าทางน้ำ ที่มีการจอดเทียบถ้าอยู่ไม่ไกลจากเรือลำแรกที่ใกล้เคียงกับภาพกล้องวงจรปิด แต่เรือลำที่ 2 ที่ทีมข่าวไปเจอเป็นลักษณะเรือเมล์ หัวเรือจะเป็นทรงแหลม ต่างจากภาพกล้องวงจรปิด

นายนาวี อำพันธ์ อายุ 42 ปี คนขับเรือเมล์ เปิดเผยว่า ในคืนนั้นตนเองก็อยู่ในละแวกใกล้ที่เกิดเหตุ แต่เรือของตนเองไม่ได้แล่นผ่านไปปรากฏอยู่ในกล้องวงจรปิด ฉะนั้นจึงไม่รู้ว่าเป็นเรือของใคร ซึ่งเรือที่เห็นในกล้องวงจรปิดยืนยันชัดเจนว่าเป็นเรือกำปั่น ลักษณะหัวเรือแบน ทำจากไม้ และมีสปอตไลต์อยู่หัวเรือ ส่วนใหญ่จะเป็นสำหรับลากจูง ตนเองก็ไม่รู้ว่าเรือที่ปรากฏอยู่ในกล้องวงจรปิดตามที่ชาวบ้านสงสัยจะเกี่ยวข้องกับคดีหรือไม่ แต่ในมุมมองส่วนตัวอาจเป็นเรื่องของความบังเอิญที่ขับตามหลังและขับตามลงมา

จากข้อมูลของกลุ่มที่เดินเรือลากจูง ไม่ได้มีใครแจ้งว่ามีการเช่าเรือเหมาลำ หรือใช้เรือแบบดังกล่าวสำหรับเพื่อการอื่น ยกเว้นช่วงเทศกาลลอยกระทง หรือช่วงท่องเที่ยวก็อาจจะเปลี่ยนรูปแบบเรือไปใช้ในการพาณิชย์เพื่อพาล่องแม่น้ำเท่านั้น แต่เท่าที่ทราบจากกลุ่มพรรคพวกที่อยู่ในละแวกนี้ไม่มีใครแปลกปลอมหรือบุคคลนอกมาเช่าเรือเพื่อขับตามเรือของใคร ดังนั้นจึงยืนยันไม่ได้ว่าเรือที่เห็นในกล้องวงจรปิด มีวัตถุประสงค์เพื่ออะไรกันแน่ หรืออาจจะเป็นไปตามที่ตนเองมองตั้งแต่แรกว่าอาจเกิดจากความบังเอิญก็ได้

ตนในฐานะกลุ่มคนขับเรือที่อยู่บริเวณช่วงรอยต่อที่กล้องวงจรปิดที่มีหลักฐานของตำรวจจับภาพเอาไว้ได้ เป็นฝั่งเดียวกันกับที่ยืนยันว่าแตงโมตกน้ำจากเรือสปีดโบ๊ต คืนนั้นกลุ่มคนขับเรือที่อยู่บริเวณริมน้ำ ไม่มีใครได้ยินเสียงคนตกน้ำ เพราะคาดว่าทุกคนอาจเข้านอนไปแล้ว แต่จะได้ยินเสียงวิทยุสื่อสารพูดคุยเกี่ยวกับว่ามีคนตกน้ำในละแวกใกล้กับจุดจอดเรือ เพราะเป็นวิทยุสำหรับสื่อสารทางเรือและช่วยกันตามหาเบาะแสเท่านั้น แต่แม้ว่าตนเองจะอยู่ช่วงรอยต่อที่ตำรวจแจ้งว่ามีคนตก ก็ไม่พบเห็นความผิดปกติแต่อย่างใด เห็นแต่ช่วงหลังเที่ยงคืนมีเรือขับวน และมีเรือของเจ้าหน้าที่เริ่มที่จะเข้ามาช่วยค้นหาเท่านั้น

นายวรุศรี ไทยรักษา อายุ 30 ปี พนักงานเรือโป๊ะ ซึ่งเป็นพ่วงท้ายของเรือยนต์หรือหัวเรือลาก เปิดเผยว่า กรณีปรากฏภาพตามกล้องวงจรปิดที่มีเรือลาก คล้ายกับมีการขับตามเรือสปีดโบ๊ตของแตงโม ทั้งตอนขับผ่านไปถ่ายรูปและหลังกลับลงมาจากถ่ายรูปนั้น ส่วนตัวมองว่าอาจเป็นความบังเอิญ เพราะปกติเรือลากแม้จะมีเครื่องที่แรงกว่าแต่ใช้สำหรับลากจูง และดันเรือโป๊ะ ไม่นิยมขับเร็วถึงขั้นนำไปขับตามหลังเรือสปีดโบ๊ตแน่นอน เนื่องจากหากเรือลากใช้ความเร็วท้ายจะจมหัวจะลอยยกสูง อีกทั้งเรือในภาพวงจรปิดเป็นเรือกำปั่น ทำจากไม้ หากขับเร็วจะทำให้เรือแตก เพราะเรือลากทำหน้าที่ลากจูงและผลักดันได้เท่านั้น ไม่นิยมสำหรับพาณิชย์

และความเป็นได้ที่เรือลากไม่มีพ่วงท้าย หรือเรือโป๊ะพ่วงท้าย สามารถนำออกไปจอดลอยลำได้ กรณีนำออกไปจอดลอยลำจะเป็นไปได้ 2 แบบ คือ 1.รอซ่อมเครื่องหรือเครื่องยนต์ขัดข้อง และ 2.นำไปจอดหลบคลื่นน้ำที่ทำให้เรือโครงเครง หรืออาจมากระทบเรือทำให้ได้รับความเสียหาย ดังนั้นหากพบเรือลากไปจอดลอยลำที่ใต้สะพาน ตนเองจึงมองว่าอาจเป็นของการหลบคลื่นกันเรือเสียหาย มากกว่าไปลอยลำเพื่อวัตถุประสงค์อื่น และจะเป็นไปยากที่คนขับเรือยนต์หรือเรืออยากจะนำออกไปตกปลาหรือขับตามใครแน่นอน

อย่างไรก็ตาม การที่ตนเองตอบในประเด็นดังกล่าวไม่ได้เป็นการปกป้องคนขับเรือลาก แต่ตอบด้วยเหตุผลและข้อเท็จจริงจากภาพกล้องวงจรปิด ที่สำคัญตนเองก็ไม่สามารถที่จะชี้ได้ว่าในกล้องวงจรปิดเป็นเรือของใคร เพราะจากภาพค่อนข้างไกลประกอบกับมืด แต่มีภาพจากวงจรปิดบันทึกไว้ได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

- กระติก โพสต์ไอจีอาลัย แตงโม สัญญาแลลูกดีที่สุด จะดุให้น้อยลงตามที่มี้บอก
- เอมมี่ มรกต โพสต์อาลัย แตงโม หลังร่วมงานไว้อาลัย แค่อยากจะบอกว่า..ขอโทษ ที่ใช้คำว่า.. “จะ” มากเกินไป
- แม่แตงโม ส่งทนายอายัดศพลูกสาว ขอชันสูตรซ้ำ ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์