จากกรณีวัดสว่างโสภณ อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ประกาศเชิญชวนประชาชนมาร่วมกันทำบุญด้วยปล่อยชีวิตงูเห่าและงูจงอาง คืนสู่ธรรมชาติเพื่อเสริมดวงบารมี ทำให้ชาวบ้านเกรงว่างูที่ปล่อยจะหลุดรอดออกไปฉกชาวบ้าน โดยพระครูปิยะณัฐ ขันติโก ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสว่างโสภณ กล่าวยืนยันว่า วัดได้ให้หมองู ทำการจับงูทั้งหมด ไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติแล้วและไม่มีงูพิษภายในพื้นที่บริเวณวัดแล้วนั้น (อ่าน :
คนหมู่บ้านผวา ฉะวัดปล่อยงูสะเดาะเคราะห์ แฉเห็นจงอางอาละวาด เร่งทำตาข่ายล้อมบ้าน)
คลิปเหตุการณ์ขณะจับงูเห่า
วันที่ 17 ม.ค. 62 ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์คลิปความยาวประมาณ 12 นาที โดยภายในคลิปวีดีโอเป็นภาพงูเห่า ความยาวประมาณ 2 เมตร ซึ่งส่วนหัวของงูเห่า ติดอยู่กับดักหนูที่ชาวบ้านวางกับดักไว้ข้างกำแพงวัดสว่างโสภณ ตำบลตานี อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เพื่อป้องกันไม่ให้งูพิษเลื้อยเข้ามาภายในบริเวณบ้าน โดยในคลิประบุว่าเป็น งูเห่าเผือก และมีงูเลื้อยมาติดแล้ว 2 รอบ
พระปิยะณัฐ ขันติโก ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสว่างโสภณ (แฟ้มภาพ)
โดย
พระปิยะณัฐ ขันติโก ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสว่างโสภณ เปิดเผยผ่านการให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบงูเห่าติดบ่วงดักหนูอยู่ติดข้างกำแพงวัด ซึ่งติดกับบ้านของนายชัยวัฒน์ รัตกร นั้น ได้ให้หลวงพี่ฮวง พระลูกวัดวัดสว่างโสภณ ไปจับและนำไปปล่อยสู่ธรรมชาติเรียบร้อยแล้ว โดยเชื่อว่าเป็นงูตัวนี้ เป็นตัวสุดท้ายในจำนวน 3 ตัว จาก 15 ตัว ที่หลุดไปจากการทำพิธีดังกล่าว
นายชัยวัฒน์ รัตกร อายุ 54 ปี ชาวบ้านคุ้มโคกโรงเรียน (แฟ้มภาพ)
ขณะที่
นายชัยวัฒน์ รัตกร อายุ 54 ปี ชาวบ้านคุ้มโคกโรงเรียน เปิดเผยว่า หลังพบงูเห่าเผือกเลื้อยมาติดกับดักหนูในพื้นที่บริเวณบ้าน ตนจึงแจ้งไปที่วัดให้มาจับ ซึ่งเป็นครั้งที่ 3 แล้วที่พบงูพิษ โดยครั้งแรกและครั้งที่ 2 เป็นงูจงอาง
บริเวณข้างกำแพงวัด จุดพบงูเห่าตัวดังกล่าว
ทั้งนี้มีรายงานว่า งูเห่าและงูจงอาง ที่วัดสว่างโสภณที่นำมาใช้ในพิธีสะเดาะเคราห์เสริมดวงบารมี โดยพระครูสมุห์โบรี ธีรมุนี หรือพระอาจารย์โบรี ธีรมุนี รักษาการเจ้าอาวาสวัดสว่างโสภณ เป็นงูที่นำเข้ามาจากฝั่งกัมพูชา และพระครูสมุห์โบรี ได้เดินทางออกจากวัดกลับไปประเทศกัมพูชาแล้วตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม ที่ผ่านมา
