กรณีผู้ใช้ TikTok @fangfang211 ออกมาเปิดเผยเรื่องราวของสาวรายหนึ่งที่ความรักมาสุดทาง จนต้องเลิกรากันกับสามี แต่กลับต้องพบเจอความแสบของเมียใหม่ หลังจากเผาทำลายทรัพย์สินของลูกติดฝ่ายชาย จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 20 ก.พ.65 น.ส.นุ่น เมียเก่า เปิดเผยว่า ตนเลิกกับพ่อของลูกมาประมาณ 3 ปี ตอนที่เลิกรากันก็ไม่ได้เอาใบสูติบัตรของลูกมาด้วย เพราะฝ่ายชายไม่ยอมให้ กระทั่งเมื่อปีที่แล้วฝ่ายชายก็ได้คบหากับแฟนใหม่ ตนก็ได้ใช้เฟซบุ๊กของแฟนใหม่ของตนทักไปหาฝายชายว่า จะขอเลขบัตรประชาชนของลูก ให้ไปดูในสูติบัตร
แต่ผ่านไป 2 ชั่วโมง น.ส.แพต ซึ่งแฟนใหม่ฝ่ายชาย ก็ส่งเลขบัตรประชาชนมาให้ และเมื่อ 2-3 สัปดาห์ก่อน น.ส.แพต ก็ทักมาถามว่าจะเอาใบสูติบัตรหรือไม่ จะส่งมาให้ ตนก็ปฏิเสธไปเพราะไม่อยากจะยุ่งเกี่ยว กระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เขาก็แอบนำสูติบัตรของเด็กไปเผาและถ่ายคลิปลงโซเชียลฯ
ทั้งนี้ ตนคิดว่าต้นเหตุเกิดเพราะก่อนหน้านี้ปู่และย่า ได้พูดคุยกันว่าจะมาเยี่ยมลูกของตนที่บ้าน และบอกว่าจะพาไปเที่ยวด้วย ซึ่งตนคิดว่า น.ส.แพต น่าจะเกิดอาการไม่พอใจ จึงได้นำเอาเอกสารของลูกตนไปเผาและถ่ายคลิปด่าตนดังกล่าว
นอกจากนี้ ทีมข่าวได้เข้าไปตรวจสอบเฟซบุ๊กของ น.ส.แพต แฟนใหม่ พบว่าเคยโพสต์ข้อความถึงใครบางคนเอาไว้ว่า “อะไรที่มึงลืมไว้ที่นี่กูเผาทิ้งหมด อะไรที่กูเกลียด กูก็ไม่ปล่อยให้มันรกหูรกตา”
ด้านทนายเกิดผล แก้วเกิด กล่าวว่า ลักษณะพฤติกรรมของฝั่งภรรยาใหม่ อาจเข้าข่ายความผิด “ทำให้เสียทรัพย์” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้ ยังเข้าข่ายความผิด “เอาไปเสียซึ่งเอกสาร” เป็นการทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหาย หรือไร้ประโยชน์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท
