กระชากหน้ากากแก๊งขายรถถูกสุด แสบใช้สัญญาณสั่งรถหยุด ล่อให้โดนจับ จี้สอบคนมีสีเอี่ยว (คลิป)

15 ก.พ. 65

กรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก "อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 2" โพสต์คลิประบุข้อความว่า "นำเรียนไปยัง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี ตรวจสอบข้อเท็จจริงทางคดีด้วย เปิดคลิปเสียงการสนทนา ของขบวนการซื้อขายรถเถื่อนค้างไฟแนนซ์ส่งข้ามชาติหักหลังกันเอง โดยมีนายตำรวจประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมขบวนการด้วย (จริงไหม) และยิ่งไปกว่านั้นยังมีการอ้างถึงนายตำรวจระดับรอง ผกก.ร่วมเอี่ยวด้วย ซึ่งขณะนี้มีการแจ้งความลง บันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 10 ก.พ.65"

439673

โดยคดีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตรวจยึดรถยี่ห้อโตโยต้ารีโว้ สีขาว สี่ประตู ทะเบียนป้ายแดง ษ-1819 กทม. เอาไว้ และมีรายงานว่าทั้งคนบันทึกคลิป และนายตำรวจคนดังกล่าว จะนัดเคลียร์กันที่สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี 

550298

ล่าสุดวันที่ 15 ก.พ.65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปติดตามความคืบหน้าสภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี โดยพลตำรวจตรีไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี เปิดเผยว่า ในวันที่ 10 ก.พ.65 พ.ต.ท.ประทีป ชูศรี รอง ผกก.กก.3 บก.ปทส.บช.ก. ปฏิบัติหน้าที่ชุดศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ (ศป.จร.ตร.) พร้อมพวกได้ตรวจยึดรถยนต์คันดังกล่าวมาลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.บางใหญ่

498036

จากนั้นวันที่ 14 ก.พ.65 เวลา 10.00 น. นายวัยวัฒน์ เเละนายพงษ์พล มาเเสดงตัวเป็นผู้ครอบครองรถยนต์ เเละให้ปากคำกับตำรวจงานสืบสวน สภ.บางใหญ่ ว่าก่อนถูกตำรวจยึดรถยนต์ได้ติดต่อซื้อขายรถยนต์กับ น.ส.กรรณิกา ในราคา 1,040,000 บาท นัดซื้อขายกันใกล้กับตลาดเเสงจันทร์ หมู่ 5 ต.บางเเม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ในวันที่ 10 ก.พ.65 เมื่อตกลงซื้อขายเเละโอนจ่ายเงินผ่านชื่อบัญชีปลายทางที่รับโอน "นายจามร" จากนั้นจึงขับรถยนต์คันดังกล่าวออกจากจุดนัดหมาย ประมาณ 200 เมตร รถยนต์ก็ดับโดยไม่ทราบสาเหตุ เเละมีตำรวจเข้ามาตรวจยึดรถยนต์มาที่ สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี 

622533

ต่อมานายพงษ์พล โทรติดต่อหาบุคคลที่เรียกว่า "รองชาติ" เพื่อให้ตรวจสอบว่าเจ้าหน้าที่ที่มาตรวจยึดเป็นตำรวจจริงหรือไม่ จากนั้นมีการพูดคุยกับรองชาติไกล่เกลี่ยเรื่องเงิน สำหรับคนที่ชื่อรองชาติ ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็นใคร เป็นตำรวจจริงหรือไม่ เนื่องจากนายพงษ์พล เเละนายวัยวัฒน์ ให้การว่าไม่ได้รู้จักโดยตรง เเต่มีคนที่รู้จักเเนะนำให้ติดต่อไป

324150

เวลา 14.20 น. ในวันเดียวกัน นายวิษณุ ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช เข้ามาเเสดงตัวเป็นเจ้าของรถยนต์ พร้อมนำหลักฐานการเช่าซื้อครอบครอง โดยเเจ้งว่าได้ซื้อรถยนต์คันดังกล่าวมาจากบริษัทโตโยต้า นครปฐม จำกัด ในวันที่ 8 ก.พ.65 โดยได้โอนเงินดาวน์ จำนวน 132,800 บาท ต่อมาวันที่ 10 ก.พ.65 เวลา 12.00 น. เพื่อนชื่อนายอาทิตย์ หรือ ชัย มาขอยืมรถยนต์ ที่ปั๊มน้ำมันบางจาก ถนนกาญจนาภิเษกขาออก หมู่ 10 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี อ้างว่าจะนำไปรับเเฟน นายวิษณุจึงส่งมอบรถยนต์ให้กับนายอาทิตย์ หลังจากนั้นไม่สามารถติดต่อนายอาทิตย์ได้ กระทั่งมาทราบว่ารถยนต์ถูกตรวจยึดไว้ที่ สภ.บางใหญ่

337958

สำหรับความคืบหน้าทางคดี ขณะนี้มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อทำคดีนี้โดยเฉพาะ โดยมีพ.ต.อ.ภูมิธัช โฆษิตวนิชพงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ผลของการสืบสวนทราบว่าหลังจากนายอาทิตย์ ยืมรถจากนายวิษณุ จากนั้นรถไปอยู่ในมือของ น.ส.กรรณิกา ก่อนที่น.ส.กรรณิกา จะปลอมหนังสือการครอบครอง เเล้วนำรถมาขายให้กับนายวัยวัฒน์ เเละนายพงษ์พล โดยคดีนี้มีผู้ร่วมก่อเหตุมากกว่า 2 คนขึ้นไป ส่วนจะมีตำรวจร่วมด้วยหรือไม่อยู่ระหว่างตรวจสอบ

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้รับข้อมูลว่านายจามร อายุ 35 ปี มีความเชื่อมโยงกับคดีดังกล่าว เพราะเป็นเจ้าของบัญชีที่มีการโอนเงินเข้ามา ทีมข่าวจึงลงพื้นที่บ้านของนายจามร อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี พบว่าสภาพบ้านเป็นบ้านชั้นเดียว แต่ไม่เจอตัวนายจามร

254011

นางอำพร เทียมเจริญ แม่ของนายจามร เปิดเผยว่า บ้านตนฐานะยากจนมาก ๆ แทบไม่มีจะกิน ลูกชายมีอาชีพเลี้ยงวัว 2-3 ตัว แต่เขาออกจากบ้านไปหลายวันแล้ว ตนไม่รู้ว่าเขาไปไหน และตนไม่ทราบว่าลูกชายจะไปเกี่ยวข้องกับขบวนการซื้อรถเถื่อนหรือไม่

348621

ทีมข่าวเดินทางมายังบ้านพักหลังหนึ่ง อ.สะเดา จ.สงขลา พบว่าเป็นที่มีชื่อของ น.ส.กรรณิกา อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นผู้ซื้อรถยนต์คันดังกล่าวมาขายต่ออีกทอดหนึ่ง ทีมข่าวจึงได้พูดคุยกับ นางปิมะ หวังเร๊ะ อายุ 67 ปี เจ้าของบ้าน ให้สัมภาษณ์ว่า บ้านหลังนี้เป็นบ้านของตน อาศัยมานานแล้วตั้งแต่เกิด ส่วนชื่อของนางสาวกรรณิกา เขาเป็นคนที่มาขออาศัยอยู่ในทะเบียนบ้าน

602752

เนื่องจากปี พ.ศ.2562 ลูกสาวของตนไปทำงานเป็นแม่บ้านให้กับบ้านเช่าของ น.ส.กรรณิกา ได้ประมาณ 4 เดือน หลังจากนั้น น.ส.กรรณิกา ได้ขอย้ายเข้ามาอยู่ในทะเบียนบ้านอ้างว่า จะมาซื้อบ้านในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา ตนก็เมตตาให้ย้ายชื่อเข้ามาอยู่โดยไม่ได้คิดอะไร ซึ่งย้ายชื่อเข้ามาตั้งแต่วันที่ 12 ก.พ.63 เจอกันครั้งเดียวและตนไม่รู้ว่าเขาไปทำอะไรที่ไหน

"ตอนนี้ยอมรับว่าตกใจมากว่า เขาเป็นผู้ที่เกี่ยวของกับเหตุการณ์การซื้อขายรถที่ผิดกฎหมายเกิดขึ้น ยังงง ๆ และสับสน ไม่รู้จะต้องทำเช่นไร แต่ยืนยันว่าครอบครัวเราไม่เกี่ยวข้องอย่างแน่นอน เขาเพียงแค่เคยเป็นนายจ้างของลูกสาวเท่านั้น" นางปิมะ กล่าวยืนยัน

  

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส