ซ้ำซาก! ลุงชนคนข้ามทางม้าลายเจ็บ รับผิดอ้างถนนมืด ชาวบ้านช้ำน้องเคยถูกชนตายจุดเดียวกัน (คลิป)

กรณีตำรวจสน.บางเขน รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนคนเดินเท้า ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบนทางม้าลายบริเวณหน้าตลาดยิ่งเจริญ ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. จึงรุดไปที่เกิดเหตุพบเป็นถนน 3 เลน ฝั่งมุ่งหน้าขาออก บริเวณริมฟุตพาทบริเวณช่องเดินรถซ้ายสุดพบชายชาวเมียนมา ทราบชื่อต่อมาคือนายโด้ อายุ 35 ปี ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณศีรษะแตก นอนแน่นิ่งข้างถนน 

ทั้งนี้ ห่างออกไปประมาณ 5 เมตร พบรถจักรยานยนต์สีเหลือง ทะเบียน 5 กฆ 5487 กรุงเทพมหานคร ล้มคว่ำอยู่ สภาพบังโคลนด้านหน้าแตก ใกล้กันพบผู้ขับขี่ทราบชื่อ นายวาริท มาแก อายุ 48 ปี ได้รับบาดเจ็บมีแผลถลอกตามร่างกายเล็กน้อย เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงเร่งช่วยกันปฐมพยาบาล ก่อนนำตัวนายโด้ ส่งไปรักษาที่ โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช และคนขี่รถจักรยานยนต์ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเปาโล เกษตร เพื่อรักษาอาการอย่างเร่งด่วน

ล่าสุดวันที่ 13 ก.พ.65 ทีมข่าวอมรนิทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ ที่หน้าตลาดยิ่งเจริญ แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. พบว่าเป็นถนนฝั่งละ 3 เลน มีเกาะกลางถนน โดยจุดที่มีทางม้าลายมีป้ายสัญญาณจราจรบอกชัดเจน ขณะทีมข่าวลงพื้นที่ พบว่ามีประชาชนที่ใช้ทางม้าลายอยู่ตลอดเวลา โดยรถยนต์และรถจักรยานยนต์ขับขี่ด้วยความรวดเร็ว ส่วนใหญ่จะชะลอรถต่อเมื่อมีประชาชนข้าม ทีมข่าวทดสอบข้ามทางม้าลาย จากหน้าตลาดยิ่งเจริญไปฝั่งตรงข้าม รถส่วนใหญ่ไม่จอดให้ข้าม โดยใช้เวลาทั้งหมด 1.17 นาที

นางบุญยิ่ง ทับทิบทอง อายุ 70 ปี แม่ค้าตรงข้ามตลาด เล่าให้ฟังว่า เหตุการณ์เมื่อคืนนี้ (12 ก.พ.65) ตนไม่อยู่ในเหตุการณ์ เนื่องจากกลับบ้านไปตั้งแต่ช่วงเย็น แต่เห็นคลิปจากกล้องวงจรปิดยอมรับว่าค่อนข้างน่ากลัวและหวาดเสียวเป็นอย่างมาก ๆ เนื่องจากเห็นว่ารถจักรยานยนต์ขี่ค่อนข้างเร็ว และเหมือนจะมีการเบรกแล้วแต่เบรกไม่ทัน ทำให้ชนคนข้ามบาดเจ็บสาหัส ส่วนตัวไม่รู้จักกับทั้งผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ และผู้บาดเจ็บ ทราบเพียงว่าผู้บาดเจ็บเป็นลูกจ้างร้านขายหมูในตลาดยิ่งเจริญ

อย่างไรก็ตาม บริเวณนี้เกิดอุบัติเหตุค่อนข้างบ่อยครั้ง เกือบจะทุกวันก็ว่าได้ เพราะรถส่วนใหญ่ขับเร็ว และเป็นหน้าตลาด จะมีคนข้ามถนนจำนวนมาก เมื่อช่วงเช้าก็มีรถเฉี่ยวชนกัน ขณะที่เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว นางสาวบุญตา ทับทิบทอง ซึ่งเป็นน้องสาวของตน กำลังจะข้ามไปซื้อของที่ตลาดยิ่งเจริญช่วงเที่ยงคืน ก็ถูกรถกระบะชนเข้าอย่างจัง บริเวณจุดเดียวกับที่เกิดอุบัติเหตุ และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล โดยคู่กรณีก็ชดใช้ และคดีความก็จบสิ้นไปแล้ว ตนมองว่าอยากให้หน่วยงานมาทำสัญญาณไฟจราจร และแก้ปัญหาอย่างจริงจังจะได้ไม่เกิดเหตุซ้ำซากเช่นนี้ 

ขณะที่วงจรปิด จับภาพวินาทีเกิดเหตุได้ชัดเจน ในภาพจะเห็นขณะนายโด้ ผู้บาดเจ็บ กำลังเดินข้ามทางม้าลาย ในระหว่างที่เดินถึงช่วงกลางถนน มีรถจักรยานยนต์ซึ่งขี่มาด้วยความเร็ว จำนวนก่อนหน้า 3 คัน นายโด้ จึงวิ่งข้ามทางม้าลาย โดยจักรยานยนต์คู่กรณีได้บีบแตร ก่อนที่นายโด้จะถูกชนร่างกระเด็น ศีรษะกระแทกกับขอบถนน

ทีมข่าวเดินทางไปด้านในตลาดยิ่งเจริญ ซึ่งเป็นร้านที่นายโด้ ทำงานอยู่ โดยมีกระเป๋าเดินทาง และเสื้อผ้า แขวนอยู่ในแผง เนื่องจากก่อนเกิดเหตุอาศัยหลับนอนอยู่ที่ตลาด ทีมข่าวได้รับภาพวงจรปิดที่เขียงหมู เป็นช่วงที่นายโด้ ผู้บาดเจ็บ มานอนที่เขียงหมู เวลาประมาณเวลา 20.24 น. ต่อมาเวลา 21.31 น. นายซอ ตื่นและค่อย ๆ ลุกไปใส่รองเท้า ก่อนเดินออกจากตลาดไป

นางสาวกฤษณา นิลพฤกษ์ อายุ 30 ปี นายจ้างผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า ผู้บาดเจ็บไม่มีญาติ มีแต่ภรรยาและลูก ซึ่งแยกทางกันไปนานมากแล้ว เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ลูกสาวของผู้บาดเจ็บยังเดินทางมาสอบถามตนถึงอาการของพ่ออยู่เลย แต่ตนยังไม่ทราบเนื่องจากยังไม่ได้ไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล โดยช่วงกลางดึกมีคนโทรศัพท์มาแจ้งว่านายโด้ ถูกรถจักรยานยนต์ชนได้รับบาดเจ็บ ตนยังตกใจและรู้สึกสงสาร

โดยนายโด้ทำงานอยู่ที่ตลาดแห่งนี้มานานกว่า 20 ปีแล้ว เขาจะทำงานที่แผงในตลาดหลายร้าน แต่มักจะมีนิสัยชอบดื่มสุรา จึงทำให้ร้านอื่น ๆ ไม่รับทำงาน กระทั่งมาทำงานอยู่กับตนได้หลายปีแล้ว หากนายโด้ ไม่เมาก็จะเป็นคนขยันมาก ๆ แต่นายโด้มีอาการพิษสุราเรื้อรัง หากไม่ดื่มก็จะมือสั่น และที่ผ่านมาตนก็ออกค่าเช่าห้องพักให้ตลอด แต่นายโด้เมา และไปมีปากเสียงกับเจ้าของหอพัก จึงต้องย้ายออกมาอาศัยที่ร้านของตน

"พี่ไม่แน่ใจว่าเขาได้ดื่มสุรามาก่อนหรือไม่ ดูจากคลิปวงจรปิดแล้ว คาดว่าน่าจะตกใจหลังจากรถจักรยานยนต์บีบแตร จึงพยายามวิ่งข้ามแต่ไม่พ้นทาง พี่มองว่ารถจักรยานยนต์คันดังกล่าว ควรจะเบรกให้คนข้ามก่อน ส่วนผู้บาดเจ็บถึงแม้จะไม่ใช่ญาติ พี่ก็สงสารและเป็นห่วง เนื่องจากเป็นลูกจ้างที่ทำงานมานาน" นายจ้างผู้บาดเจ็บ กล่าว 

นายวาริท มาแจ อายุ 48 ปี ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ที่ได้รับบาดเจ็บขาขวาหัก ญาตินำตัวมาพักฟื้นที่บ้าน ย่านอำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี โดยนายวาริท ทำอาชีพขายไก่ทอดหาดใหญ่ อยู่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านสะพานใหม่ 

นายวาริท เปิดเผยว่า ช่วงที่เกิดเหตุเป็นช่วงที่ตนขายของเสร็จแล้ว และกำลังจะเดินทางกลับบ้านด้วยการขี่รถจักรยานยนต์ มีกระติกข้าวเหนียวอยู่บริเวณด้านหลังรถจักรยานยนต์ และมีไก่ทอดอยู่บริเวณด้านหน้ารถ ในระหว่างที่ขับมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุ ความเร็วอยู่ที่ประมาณ 30-40 กม./ชม. ตนมองเห็นผู้บาดเจ็บแล้วทางก็มืด ๆ แต่เห็นว่าก่อนหน้านี้มีรถจักรยานยนต์ที่ขี่ผ่านหน้าไป 3 คัน ตนจึงคิดว่าผู้บาดเจ็บจะเห็นรถของตนและยังไม่ข้ามทางม้าลาย

แต่เมื่อไปใกล้ทางม้าลาย เห็นว่าผู้บาดเจ็บรีบวิ่งตัดหน้า ตนจึงบีบแตรเตือนแต่หลบไม่ทัน หลังจากนั้นก็กระเด็นไปคนละทิศคนละทาง โดยยังไม่ได้พูดคุยกับผู้บาดเจ็บแต่อย่างใด เนื่องจากตอนนั้นอาการของผู้บาดเจ็บคือนอนนิ่งไปเลย ตนยอมรับผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น และยินดีชดใช้ค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด และต้องขอโทษครอบครัวของผู้บาดเจ็บ แต่อยากให้สังคมเข้าใจว่าเวลาใช้ทางม้าลาย คนข้ามก็ควรจะมองรถด้วย

ทั้งนี้ ตนรู้สึกน้อยใจในโชคชะตา เพราะที่ผ่านมาใช้ถนนเส้นนี้มา 6 ปี ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุเลย ทำไมอุบัติเหตุครั้งนี้ต้องมาเกิดกับตน แล้วตอนนี้ขาหักต้องพักฟื้นอีก 2 เดือน ตนเป็นเสาหลักของครอบครัว ยังไม่รู้ว่าภรรยาและลูกจะต้องทำอย่างไรต่อไป 

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเขน ให้ข้อมูลว่า เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อหาขับขี่รถโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ โดยหลังจากนี้ต้องรอสอบสวนเพิ่มเติม และตรวจสอบปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดของผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ฝ่าย หากพบว่ามีการกระทำความผิดเพิ่มเติม ก็เตรียมแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป โดยแพทย์แจ้งว่านายโด้ ตรวจเจอเชื้อโควิด-19 อีกด้วย