ระทึก! จับมือสังหารรอดักฆ่าเสี่ย คนจ้างสุดเหี้ยมโทรเช็กงานต่อหน้าตำรวจ

จากกรณี พ.ต.อ.วิวัฒน์ พิสิษฐ์ศักดิ์ ผกก.สภ.ศรีมหาโพธิ ได้รับการร้องขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก นายรณภศ หรือ เสี่ยโต วิสุทธิเหม นักธุรกิจเจ้าของบริษัท ในพื้นที่ ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ว่าจะมีคนปองร้าย เนื่องจากการขัดแย้งเรื่องธุรกิจจากเพื่อนรุ่นร้องที่เจ้าตัวเป็นคนสนับสนุนให้มาร่วมทำธุรกิจ ชื่อย่อ ป. แต่นาย ป. กลับโลภ พยายามฮุบธุรกิจและบริษัท จนมีเรื่องฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาล

โดยที่วันที่ 11 ก.พ. 2565 ศาลนัด และเป็นวันที่นายสิฐิโชค มือปืนรับจ้างจะลงมือเข้ามาก่อเหตุยิงนายรณภศ วิสุทธิเหม หรือ เสี่ยโตนั้น

พ.ต.อ.วิวัฒน์ พิสิษฐ์ศักดิ์ ผกก.สภ.ศรีมหาโพธิ พ.ต.ท.โสภณ พรามณี รอง ผกก.สส.สภ.ศรีมหาโพธิ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ลงพื้นที่จนทราบว่า นายสิฐิโชค มือปืนรับจ้าง ได้ไปพักอาศัยอยู่ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่ง หมู่ 4 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี งเจ้าหน้าที่จึงได้นำกำลังเข้าทำการจับกุมตัวได้พร้อมของกลาง เป็นอาวุธปืนลูกซองยาวพร้อมกระสุน 3 นัด ปืนพกสั้นรีวอลเว่อร์ ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก กระสุน 6 นัด และรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า คลิก สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน

การจากสอบสวนนานหลายชั่วโมง นายสิฐิโชค จันทร์นิล หรือ หมู อายุ 44 ปี รับว่าเป็นมือปืนรับจ้างที่เคยก่อเหตุฆ่าคนตายมาแล้ว 2 ราย เคยติดคุกมา 9 ปี ส่วนคดีหลังศาลยกฟ้อง มีความชำนาญในการใช้อาวุธปืนลูกโม่ หรือ รีวอลเวอร์ ในการสังหารเหยื่อ

ผู้ต้องหารให้การรับสารภาพว่า ตนเองได้รับการติดต่อให้มาทำงานนี้ จากนายน้อย และนายมาตร ในราคา 100,000 บาท และได้รับเป็นค่าล่วงหน้ามา 20,000 บาท โดยผู้ว่าจ้าง คือ นาย ป. มีความขัดแย้งกับ นายรณภศ หรือ เสี่ยโต เป้าหมาย

ต่อมาเมื่อ 18 ม.ค. 65 นายเสือได้ขับรถยนต์เก๋ง โตโยต้า ซิตี้ สีดำ ไปรับมาจากจังหวัดพิจิตร และไปจอดรถรอนายมาตรที่ลานจอดรถในห้างฯ เมื่อนายมาตรมาถึง จึงได้รับตนเองไปดูบ้านและดูภาพนายรณภศ หรือ เสี่ยโต รวมทั้งที่พักที่นายเสือเช่าให้ตนเองไว้นอนก่อนวันลงมือ เมื่อดูรายละเอียดเรียบร้อยแล้ว ได้เดินทางกลับจังหวัดพิจิตร

กระทั่งเมื่อวันที่ 11 ก.พ. 65 นายเสือก็ได้ขับรถยนต์คันดังล่าวมารับตนเองจากจังหวัดพิจิตร เข้าไปพักที่บ้านพักแห่งหนึ่ง หมู่ 4 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี นายเสือได้ให้ปืนลูกซองพร้อมกระสุนไว้ใช้ ส่วนตนเองมีอาวุธปืนพกสั้น ขนาด .38 จำนวน 1  กระบอก กระสุน 6 นัด แต่ยังไม่ได้ลงมือก็ถูกเจ้าหน้าที่ตามจับตัวได้

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แจ้งข้อหามีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนและเครื่องกระไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณระโดยไม่มีเหตุอันควร

นายสิฐิโชค เปิดเผยว่า ตนไม่รู้จักเสี่ย ป. แค่รับงานจากนายมาตร กับนายน้อย ที่เอารูปมาให้ดู โดยที่ความจริงตนไม่อยากทำงานนี้แต่โดนบังคับ จึงจำเป็นต้องรับ ทั้งที่พยายามปฏิเสธมาหลายครั้ง ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. นายมาตรซึ่งเป็นคนติดต่อได้โทรเข้ามาหา โดยไม่รู้ว่านายสิฐิโชคโดนตำรวจจับแล้ว เพื่อสอบถามว่างานที่ทำเป็นอย่างไร นายสิฐิโชคตอบกลับไปว่างานสำเร็จแล้วขอเบิกเงินที่เหลือ แต่นายมาตรวางสายไป แล้วไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย

ในเช้าวันนี้ 12 ก.พ. 65 พ.ต.ต.จักรพล ใจเชื่อม พนักงานสอบสวน พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัวนายสิฐิโชค จันทร์นิล  หรือ หมู อายุ 44 ปี ไปจัดทำแผนประกอบคำรับสารภาพตามจุดต่าง ๆ ส่วนผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ตั้งแต่ผู้จ้างวาน ผู้ประสานงาน และผู้เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่กำลังขออนุมัติหมายศาลจังหวัดปราจีนบุรี เพื่อทำการจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป