เวลาประมาณ 02.00 น. ของวันที่ 3 ก.พ. 65 ร.ต.อ.ศุภสิทธิ์ พุ่มพะเนิน รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านโป่ง รับแจ้งเกิดเหตุยิงกันเสียชีวิตภายในบ้าน หมู่ 9 ต.หนองปลาหมอ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี
บริเวณห้องน้ำอยู่ด้านหลังนอกตัวบ้าน พบศพผู้เสียชีวิตทราบชื่อต่อมา นายเอก สมงาม อายุ 37 ปี สภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 11 มม. ยิงเข้าที่ชายโครงขวา 1 นัด นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่ในอ่างน้ำ และยังพบอาวุธปืนลูกซองสั้นเบอร์ 12 ของผู้ตาย ตกข้างลำตัวในอ่างน้ำ และประตูหลังบ้าน มีร่องรอยถูกงัดจนเสียหาย ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อ ร.ต.อ.ประยูร นุ่มถึก เป็นหลานของเจ้าของบ้าน ยืนรอมอบตัวในที่เกิดเหตุ
วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 ทีมข่าวได้เดินทางมาที่ร้านขายของชำแห่งหนึ่ง ในพื้นที่มู่ 9 ต.ห นองปลาหมอ อ.บ้านโป่ง ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุ 300 เมตร และเป็นบ้านของเจ้าของบ้านชื่อ นางคำวงศ์ กมสี อายุ 58 ปี ตามข้อมูลว่านายเอกมาดื่มเหล้ากับนายบอล ซึ่งเป็นลูกชายของตนเอง ก่อนจะเกิดเหตุ
นางคำวงศ์ กมสี อายุ 58 ปี เผยว่า ยอมรับว่าตนเองก็กลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะมีคนมาตายในห้องน้ำในบ้าน คาดว่าอีก 1-2 วันคงจะนิมนต์พระมาทำบุญ เชิญดวงวิญญาณของผู้ตายให้ไปสู่สุคติ เพราะตอนนี้ญาติผู้ตายก็ยังไม่ได้มาทำพิธีเชิญวิญญาณแต่อย่างใด โดยก่อนหน้านี้ลูกหลานไม่มีใครไปนอนที่บ้านหลังดังกล่าว เนื่องจากกลัวผีของบรรพบุรุษ ซึ่งตนเองก็เชื่อว่ามีผีบรรพบุรุษปกปักษ์คุ้มครองบ้านอยู่
ตนยืนยันว่า นายบอลลูกชายตนเอง ไม่ได้ไปร่วมดื่มเหล้ากับนายเอกก่อนเกิดเหตุ เพราะลูกชายตนเองไปหาลุง ก่อนจะกลับมาที่บ้านช่วงเย็นก่อนเกิดเหตุ พบกับนายเอก ผู้ตายจริง แต่ไม่ได้มีการร่วมดื่มเหล้าด้วยกันแต่อย่างใด นายเอกเพียงมาซื้อขนมที่ร้านแต่มีการเต้นไปมา ก่อนเดินออกไป แต่ไม่ทราบว่าไปไหน
บ้านหลังดังกล่าวที่เกิดเหตุ เป็นบ้านที่ตนเองเคยอยู่อาศัย แต่เนื่องจากอยู่ใกล้โรงสี และฝุ่นละอองของเศษฝุ่นที่ปลิวมายังบ้าน จึงย้ายออกจากบ้านมาอยู่ร้านขายของชำตั้งแต่ปี 2555 ขณะที่ตนเองยังอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว ไม่เคยเจอนายเอกมาหาลูกชายที่บ้านมาก่อน แต่หลังจากนั้น ตนเองไม่ทราบว่าขณะที่ลูกชายกลับบ้านนายเอกมาหาบ้างหรือไม่ เคยคิดว่าจะขายบ้านหลังดังกล่าว แต่ในบ้านมีอุปกรณ์ทำนาอยู่เยอะ จึงยังไม่ตัดสินใจขาย
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองเข้าใจในความสูญเสียของครอบครัวผู้เสียชีวิต แต่เหตุการณ์เกิดขึ้นไปแล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะแก้ไขอย่างไร ล่าสุดตนเองยังไม่เจอหลาน ซึ่งทราบว่าล่าสุดได้ประกันตัวออกไปแล้ว คงจะอยู่ในอาการเครียด และอยากได้กำลังใจจากครอบครัว
ข้อมูลที่ได้เพิ่มเติมจากชาวบ้านระบุว่า ก่อนที่นายเอกจะไปที่บ้านหลังเกิดเหตุ มีการไปที่บ้านหลังอื่นมาก่อน แล้วแต่ถูกไล่ให้ออกจากบ้าน หลักฐานยืนยันว่าผู้ตายเดินไปบ้านที่เกิดเหตุเพียงคนเดียว ภาพจากกล้องวงจรปิดที่ร้านค้าแห่งหนึ่ง ก่อนถึงจุดเกิดเหตุ ประมาณ 100 เมตร
ช่วงเวลาประมาณ 00.25 น. นายเอกผู้ตาย สภาพใส่กางเกงขาสั้นตัวเดียว ไม่สวมเสื้อ และรองเท้า เดินรำและเต้น จากเส้นทางในกล้องวงจรปิดเดินมาจากถนนที่มุ่งหน้ามาจากบ้าน ผ่านร้านค้าของนางคำวงศ์มาแล้ว ก่อนจะมาถึงจุดที่มีกล้องวงจรปิด หลังจากนั้นนายเอกนั่งบริเวณโต๊ะม้าหินอ่อนสักพัก จากสภาพคาดว่ามีความมึนเมา
ต่อมาเวลา 00.28 น. เห็นนายเอกลุกจากโต๊ะม้าหินอ่อน และเต้นอีกครั้ง ก่อนจะเดินมุ่งหน้าไปยังบ้านที่เกิดเหตุ โดยสังเกตว่าไม่มีสิ่งของใด ๆ ในมือ
พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ วงค์เกตุใจ ผกก.สภ.บ้านโป่ง เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาได้ขอประกันตัวออกไปตั้งแต่เมื่อวานนี้ โดยใช้สัญญาประกันตัว และตำแหน่ง ส่วนวันนี้พนักงานสอบสวนได้มีการเรียกมาสอบปากคำเพิ่มเติม รวมถึงจะสอบปากคำญาติผู้ตายเพิ่มเติมด้วย ถึงประเด็นที่ยังไม่ชัดเจน ส่วนอาวุธปืนลูกซองสั้น เบอร์ 12 ที่พบในอ่างน้ำใกล้ผู้ตาย เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานอยู่ระหว่างการตรวจสอบผู้ครอบครอง และผู้ที่ใช้งาน
นายละม้าย พะยอมหอม อายุ 53 ปี น้าของร.ต.อ.ประยูร ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ก่อนจะเกิดเหตุช่วงเย็นของวันที่ 2 ก.พ. 65 นายบอล และพ่อของนายบอลมาช่วยตนเองทำเพิงพักก่อนจะกลับไปพบกับนายเอกที่ร้านขายของชำ แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ต่อมาช่วงเช้า ทราบจากนางคำวงศ์ ว่าหลานชายยิงคนที่บุกมาในบ้านกลางดึกจนตาย ตนเองก็ตกใจ แต่มองว่ามีการบุกมากลางดึกแบบนี้ เป็นตนเองก็คงจะยิงเช่นกัน เพราะต้องป้องกันตัว
โดย ร.ต.อ.ประยูร เป็นคนที่ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร และไม่เคยระบายปัญหาอะไรให้ฟัง ทำงานเสร็จก็กลับบ้าน โดยที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหากับใคร มีภรรยาและลูกชาย 2 คน แต่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน หลังจากเกิดเหตุยังไม่เจอกับหลาน แต่คาดว่าคงจะมีความเครียดอยู่บ้าง เพราะมีภาระงานแล้วต้องมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้อีก
จากนั้นญาติรับศพมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านผู้ตาย เมื่อมาถึงป้าของผู้ตายจุดธูปเชิญดวงวิญญาณลงจากรถ มีญาติมาดูศพและร้องไห้ บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ศพของนายเอกไม่หลับตา ญาติจึงบอกให้ไปสบาย จากนั้นสัเหร่อจึงช่วยปิดตา และมัดตราสังข์ รอพิธีรดน้ำศพช่วงเย็น
ขณะที่นางสาวสมพร ชิวิลัย อายุ 37 ปี ลูกพี่ลูกน้องของผู้ตาย เปิดเผยว่า สุดตำรวจที่เป็นเจ้าของคดีติดต่อมาขอสอบปากคำเพิ่มเติม โดยจะเดินทางมาที่บ้านช่วงเย็น แต่ส่วนตำรวจที่ยิงน้องชายยังไม่ได้รับการติดต่อมา ส่วนตัวก็อยากให้มาขมาศพ มาดูมาถามไถ่ครอบครัวบ้าง ผู้ตายเป็นเสาหลัก เพราะส่งน้องส่งเรียนมาโดยตลอด หลังจากออกจากคุกมาก็ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีกเลย และไม่มีนิสัยลักเล็กขโมยน้อย ยอมรับว่าเมื่อนายเอกเมาก็มักจะขี่รถไปบ้านชาวบ้านแถวนี้ไปทั่ว แถมยังเคยเข้าไปอาบน้ำที่บ้านชาวบ้านแถวนี้มาแล้วหลายครั้ง ส่วนเรื่องอาวุธปืนก็ยังยืนยันว่านายเอกไม่เคยมีไว้ในครอบครอง และไม่ทราบว่าไปเจอได้อย่างไร
ตนเองทราบจากชาวบ้านมาว่าก่อนเกิดเหตุ นายเอกเดินเมาไปเพียงคนเดียว และไปส่งเสียงดัง และอาบน้ำที่หมู่บ้านตรงข้ามที่เกิดเหตุมาก่อนแล้ว ก่อนมาบ้านหลังที่เกิดเหตุ ก่อนตายอนายเอกเคยสั่งเสียคนในครอบครัว ถึงเรื่องฝากฝังน้องสาว และเรื่องทรัพย์สินที่มีอยู่ ตนเองมองว่าน้องไปอย่างไม่สบาย และยังมีห่วงอยู่ สัญญาจะทวงคืนความยุติธรรมให้
