โป๊ะแตกสาวอ้างแก๊งป้ายยารูดทรัพย์ 4 แสน เจอพยานแฉโลภถอดทองจริงแลกเก๊ (คลิป)

4 ก.พ. 65

กรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Nitmon Noo Niza” โพสต์ข้อความระบุว่า “เรามีเรื่องมาเตือนผู้ซื้อของในนัดช่องพราน #เมื่อวานเราโดนป้ายยาเอาทองไปเกือบ 3 บาท #เงินอีก5000 ที่สำคัณพระเหลี่ยมทององค์นั่น #มีมูลค่า300000บาท 😭😭😭 เราไปแจ้งความมาดูที่เกิดเหตุจะดูกล้องวงจร #สรุปกล้องเสียตำรวจถามพูดได้คำเดียวกล้องเสีย เราไปซื้อของตลาดนัด เราเป็นลูกค้ามาแทบทุกนัด ก็หน้าจะให้ความสำคัญกับลูกค้าบ้าง เราไม่ได้ให้มาชดใช้ให้เรา แต่น่าจะทำกล้องให้ดีเพื่อที่จะได้ช่วยลูกค้าที่มาจับจ่ายในตลาดนัดได้อีกส่วนหนึ่ง 😭😭”

594818

ล่าสุดวันที่ 4 ก.พ.65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังบ้านของน.ส.นิรมล กินลา อายุ 35 ปี ผู้เสียหาย ในพื้นที่หมู่ 5 ต.ชำแระ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี พบเป็นลักษณะบ้านปูนชั้นเดียว โดยน.ส.นิรมล กล่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 1 ก.พ.65 เวลา 16.00 น. ตนไปเดินตลาดนัดเพียงลำพัง ระหว่างที่จะเดินไปซื้อกุ้ง ก็มีผู้หญิงคนหนึ่ง อายุประมาณ 30-40 ปี ตัวเล็ก ๆ สวมใส่เสื้อยืดสีขาวเดินเข้ามาหาตน สอบถามตนว่าเห็นกระเป๋าเงินของเขาตกหรือไม่ ตนก็ตอบกลับว่า ไม่เห็น ก่อนที่จะมีหญิงวัยกลางอีกคน ผิวเหลือง รูปร่างท้วม เดินเข้ามาหาพร้อมกับพูดว่า "น้องคนนี้ไม่ได้เก็บกระเป๋าไป แต่เป็นอีกคนหนึ่ง เป็นผู้หญิงสะพายกระเป๋าที่หัวไหล่ คนนั้นเป็นคนเก็บได้"

756715652522

จากนั้นผู้หญิงคนแรกก็เดินจากไป ขณะเดียวกันผู้หญิงคนที่ 2 ได้เข้ามาเกาะแขนตน พร้อมโอบไหล่ทำให้ตนรู้สึกมึนงง พร้อมกับพูดว่า "พี่จำหน้าคนที่เก็บกระเป๋าได้" จึงชักชวนให้ตนไปช่วยตามหา กระทั่งเขาเอ่ยปากว่า "นี่ไงคนนี้ที่เก็บได้" ก่อนจะชี้ไปที่ผู้หญิงคนที่ 3 รูปร่างอ้วน ตนจึงบอกไปว่าให้นำกระเป๋าไปประกาศตามหาเจ้าของที่ประชาสัมพันธ์ แต่คนร้ายทั้ง 2 ปฏิเสธอ้างว่ากลัวตลาดนัดจะเก็บเอาไว้เอง

653134

ทั้งนี้ ตนรู้สึกว่าอึดอัดจะเดินหนีออกมา คนร้ายคนที่ 2 พยายามดึงแขนของตนเอาไว้ ทั้งคู่อ้างว่าในกระเป๋าไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรแสดงตัวตน ก่อนจะวางแผนกันว่า "เรานำเงินในกระเป๋ามาแบ่งกัน หาร 3" ตนก็ได้ตอบปฏิเสธทันที พร้อมเดินหนีออกมา จากนั้นผู้หญิง 2 คนดังกล่าวก็ได้นำถุงเท้าสีดำมายัดใส่มือของตน จากนั้นประมาณ 15 นาที เมื่อได้สติก็พบว่าสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท พระเลี่ยมทอง กรอบทองหนัก 1 สลึง สร้อยข้อมือ 1 บาท แหวน 1 สลึง 1 วง และเงินสด 5,000 บาท ได้หายไปแล้ว แต่คาดว่าน่าจะอยู่ในถุงเท้า พอเปิดออกมาพบว่าเป็นเหรียญบาท

753294

"พอรู้ว่าถูกตกทอง หนูก็รีบปรี่ไปที่ประชาสัมพันธ์ เพื่อประกาศตามหา แต่ตลาดนัดอ้างว่ากล้องวงจรปิดเสีย จึงเดินทางไปแจ้วความ หนูยอมรับว่าขณะนี้ตัดใจแล้ว อาจจะไม่ได้สิ่งของคืน แต่หนูเสียดายพระ เนื่องพระองค์นี้เป็นเหรียญหล่อโบราณ หลวงปู่รอด วัดบางน้ำวน สมุทรสาคร ปี 2477 รวมมูลค่าทรัพย์สินกว่า 400,000 บาท ปกติแล้วหนูจะไม่ได้นำทองสวมใส่ แต่วันที่เกิดเหตุเป็นวันจ่าย จึงนำออกมาสวมใส่" น.ส.นิรมล กล่าาว 

 

872262

ทีมข่าวได้เดินทางไปยังตลาดนัดวัดเขาช่องพราน พบว่าเป็นพื้นที่โล่งกว้างบนเนื้อที่ 3 ไร่ รวมสระน้ำ โดย 1 ไร่ จะเป็นพื้นที่ขายของ ส่วนอีก 2 ไร่ รวมสระน้ำ จะเป็นที่พื้นที่จอดรถของลูกค้าที่มาใช้บริการและของพ่อค้าแม่ค้า นอกจากนี้ พบว่าเสาไฟฟ้ามีกล้องวงจรปิด 5 ตัว ที่สาดส่องไปยังจุดจอดรถและร้านค้า จากการสอบถามผู้ดูแลตลาด พบว่ากล้องวงจรปิดเสีย ส่วนบริเวณภายในวัดหรือภายนอกวัดไม่มีกล้องวงจรปิด

 

889743

นางอทิตวรรณ นุตโร อายุ 53 ปี แม่ค้า ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันที่ที่เกิดเหตุ (1 ก.พ.65) ตนยอมรับว่าลูกค้ามาเดินตลาดนัดอย่างเนืองแน่น ตนจึงไม่ได้สังเกตว่าเกิดอะไรขึ้น กระทั่งประชาสัมพันธ์ของตลาดได้ประกาศบอกให้พ่อค้าแม่ค้า หรือลูกค้าที่มาจับจ่ายใช้สอยให้ระมัดระวังมิจฉาชีพ ส่วนตัวแล้วมาขายผักที่ตลาดนัดแห่งนี้นานมาแล้ว ไม่เคยเจอแก๊งมิจฉาชีพ แต่ยอมรับว่าหลายปีแล้ว มีลูกค้าถูกแก๊งตบทรัพย์ไป และเมื่อ 3 เดือนก็มีสร้อยคอทองคำหาย 5 บาท ไม่ทราบว่ามีคนเจอหรือไม่ แต่หากมีใครพบเจอส่วนมากจะนำไปฝากไว้ที่ประชาสัมพันธ์ เจ้าหน้าที่ก็จะประกาศตามหาเจ้าของ

300438

นางสาวมุฑิตา นกสวน อายุ 43 ปี ผู้ดูแลตลาดนัดคลองถม เปิดเผยว่า ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์ ผู้เสียหายได้เดินมาขอความช่วยเหลือที่จุดประชาสัมพันธ์ อ้างว่าสร้อยคอหายไป จึงได้สอบถามว่าเกิดจากอะไร ผู้เสียหายอ้างว่าแก๊งตกทอง เป็นผู้หญิงทั้งหมด 3 คน ทำทีมาตีสนิทเพราะเจอสร้อยทอง

648284

ผู้เสียหายจึงเสนอให้เอาทองคำของเขาไปรวมขายด้วย เพื่อจะได้ครบ 5 บาท และจะส่วนแบ่ง จากนั้นได้ถอดทองคำที่มีทั้งหมดให้กับคนร้าย โดยที่ผู้เสียหายจะรออยู่ที่ตลาดนัด ผ่านไปสักพักคนร้ายก็ไม่มีใครกลับมา กระทั่งเปิดถุงที่คนร้ายฝากไว้เป็นหลักประกัน พบว่าเป็นทองคำปลอม ผู้เสียหายจึงรีบวิ่งมาขอความช่วยเหลือ ตนได้แนะนำให้รีบไปแจ้งความกับตำรวจ และได้ประการเสียงตามสาย

449241

ในวันที่เกิดเหตุ (1 ก.พ.65) ตนยอมรับว่ามีลูกค้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก ส่วนตัวแล้วไม่ได้สังเกตใคร เพราะเป็นช่วงชุลมุน และได้สอบถามผู้ประกอบการซึ่งก็ไม่มีใครเห็นคนร้าย เพราะต่างฝ่ายต่างขายของ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเชื่อว่าไม่ได้เป็นการป้ายยาแต่อย่างใด ตนทำงานที่โรงพยาบาล สอบถามคุณหมอก็พบว่าไม่มียาป้าย ตนมองว่าป็นความโลภของผู้เสียหายเองมากกว่า หวังจะได้ทรัพย์ที่มูลค่ามากขึ้น

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส