เวลาประมาณ 02.00 น. ของวันที่ 3 ก.พ. 65 ร.ต.อ.ศุภสิทธิ์ พุ่มพะเนิน รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านโป่ง รับแจ้งเกิดเหตุยิงกันเสียชีวิตภายในบ้าน หมู่ 9 ต.หนองปลาหมอ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี
บริเวณห้องน้ำอยู่ด้านหลังนอกตัวบ้าน พบศพผู้เสียชีวิตทราบชื่อต่อมา นายเอก สมงาม อายุ 37 ปี สภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 11 มม. ยิงเข้าที่ชายโครงขวา 1 นัด นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่ในอ่างน้ำ และยังพบอาวุธปืนลูกซองสั้นเบอร์ 12 ของผู้ตาย ตกข้างลำตัวในอ่างน้ำ และประตูหลังบ้าน มีร่องรอยถูกงัดจนเสียหาย ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อ ร.ต.อ.ประยูร นุ่มถึก เป็นหลานของเจ้าของบ้าน ยืนรอมอบตัวในที่เกิดเหตุ
ร.ต.อ.ประยูร ให้การว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นของ นายสุบิน กรมศิลป์ อายุ 71 ปี มีศักดิ์เป็นน้าเขย ไม่ได้พักอาศัยอยู่บ้านหลังเกิดเหตุ เนื่องจากเปิดร้านขายของชำอยู่อีกแห่งหนึ่ง แต่ในระยะหลังกลับพบว่ามักมีคนร้ายเข้ามาขโมยทรัพย์สินและเครื่องมืออุปกรณ์การเกษตรอยู่บ่อยครั้ง ตนจึงแจ้งว่าจะเข้ามานอนเฝ้าบ้านให้ โดยตนเลือกพักอยู่ในห้องนอนฝั่งตรงข้ามห้องน้ำ
กระทั่งเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ขณะที่ตนกำลังนอนหลับอยู่ ก็ได้ยินเสียงคนร้ายไม่ทราบจำนวนกำลังใช้อุปกรณ์งัดประตูบ้าน เพื่อจะเข้ามาขโมยของ จากนั้นเห็นว่ามีหนึ่งในคนร้ายเดินมาเปิดไฟแล้วเข้าไปในห้องน้ำ ตนจึงรีบตะโกนออกไปจากในห้องนอนว่า "เห้ย ใครวะ"
แล้วคนร้ายก็หันหน้ามา ยกปืนลูกซองหันปากกระบอกปืนมาทางตน ตนจึงจำเป็นต้องรีบชักปืนยิงสวนหน้าต่างออกไป วิถีกระสุนพุ่งเข้าชายโครงขวาของคนร้าย แล้วหงายท้องตกลงไปในอ่างน้ำ ส่วนคนร้ายอีกคนเป็นชายสวมเสื้อสีดำ ได้อาศัยช่วงเกิดเหตุวิ่งหลบหนีไปทางทุ่งนาหลังบ้าน จากนั้นจึงรีบโทรศัพท์แจ้ง 191 เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงจึงออกจากบ้านไปตรวจสอบ ก็พบว่าคนร้ายที่ถูกยิงเสียชีวิตแล้ว
ร.ต.อ.ประยูร กล่าวต่อว่า "เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเข้าใจว่าคนร้ายไม่ทราบว่ามีคนอยู่ภายในบ้าน ถึงเดินไปเปิดไฟเพื่อจะเข้าห้องน้ำ ซึ่งตอนแรกตนไม่คิดว่าคนร้ายจะถูกยิงเสียชีวิต แต่ในขณะเกิดเหตุ หากคนร้ายไม่มีปืนหรือไม่หันปืนจ่อมาจะยิง ตนก็คงจะไม่ยิงสวนออกไป หรือหากตัดสินใจช้าถูกคนร้ายยิงใส่ ก็อาจจะได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตอยู่คาห้องนอน ทั้งหมดที่ทำไปเพราะต้องการป้องกันตัวเอง"
ทีมข่าวเดินทางมาที่ร้านขายของชำ หมู่ 9 ต.หนองปลาหมอ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี อยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 300 เมตร และเป็นบ้านของเจ้าของบ้านชื่อ นางคำวงศ์ กมสี อายุ 58 ปี เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. เพื่อนบ้านได้โทรมาบอกว่าได้ยินเสียงปืนดังมาจากบ้านพักของตน ซึ่งบ้านหลังนั้นตนไม่ได้อยู่เอง และให้ ร.ต.อ.ประยูร หลานชายของตนมาพักอยู่
ตนเลยให้สามี และลูกชายเข้าไปดูในที่เกิดเหตุ จึงพบว่า ร.ต.อ.ประยูร ได้ก่อเหตุยิงลูกค้าที่เคยมาซื้อของที่ร้านจนเสียชีวิต เพราะเข้าใจว่าเป็นโจรมาบุกบ้าน หลังจากที่เกิดเรื่อง ร.ต.อ.ประยูร ก็ไม่ได้เปิดปากเล่าอะไรให้ตนฟัง เพราะยังตกใจอยู่ ส่วนผู้เสียชีวิตตนไม่ทราบว่าไปทำอะไรที่บ้านของตน และคาดว่าน่าจะเข้าไปเพราะเมา ทั้งนี้ ตนไม่ได้รู้จักกับผู้เสียชีวิตเป็นการส่วนตัว เพราะเขาเป็นเพียงลูกค้าที่มาซื้อของที่ร้าน เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 15.00 น. ก็เพิ่งจะมาซื้อขนมที่ร้าน แต่ไม่ได้พูดคุยอะไรกัน จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนไม่ได้รู้สึกติดใจ แต่รู้สึกเสียใจกับทางครอบครัวของผู้สูญเสีย เพราะไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเรื่องขึ้น
เวลา 13.00 น. พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย ผบก.ภ.จ.ราชบุรี ได้เดินทางมายัง สภ.บ้านโป่ง เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี กับ พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ วงค์เกตุใจ ผกก.สภ.บ้านโป่ง เปิดเผยว่า กรณี ร.ต.อ.ประยูร ใช้อาวุธปืนยิงผู้ที่เข้ามาลักทรัพย์ในบ้านจนเสียชีวิต โดยอ้างว่าป้องกันตัวนั้น ทางพนักงานสอบสวนจะต้องมีการรวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำก่อน เบื้องต้นแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่น
ส่วนทางด้านนายเอก ผู้เสียชีวิต จากการตรวจสอบประวัติ พบว่าเคยต้องโทษคดียาเสพติดอยู่หลายครั้ง และล่าสุดถูกจับเมื่อวันที่ 6 ส.ค. 64 เนื่องจากตรวจค้นพบอาวุธปืนปากกาขนาด .38 ไว้ในครอบครอง และเพิ่งพ้นโทษออกมาได้เพียง 5 เดือน นอกจากนั้น ยังได้สั่งการให้ชุดสืบสวนติดตามตัวคนร้ายอีก 1 คนที่หลบหนีไปได้ มาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเร่งด่วน ทั้งนี้คาดจะได้ตัวในไม่ช้า โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมที่จะให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย
ทีมข่าวเดินทางมาที่ หมู่ 11 ต.เขาขลุง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี บ้านพักของนายเอก สมงาม อายุ 37 ปี ผู้เสียชีวิต ญาติพี่น้องยังไม่ได้เข้าไปรับร่างของผู้เสียชีวิต เนื่องจากจะต้องรอทางโรงพยาบาลทำการชันสูตรก่อน วันนี้จึงอยู่ในระหว่างเตรียมจัดพิธีบำเพ็ญกุศล
นางสาวธัญยรัตน์ ชิดวิลัย อายุ 40 ปี พี่สาวของผู้ตาย เปิดเผยว่า ครั้งสุดท้ายที่ตนเจอผู้ตายคือ เวลาประมาณ 07.00 น. ของเมื่อวานนี้ ผู้ตายได้เดินออกไปจากบ้าน ส่วนตัวไม่ได้เอะใจ และคิดว่าผู้ตายอาจจะไปทำงานรับจ้าง จนเมื่อช่วงกลางดึกของวันนี้ ได้มีคนโทรมาบอกว่าผู้ตายถูกตำรวจยิงเสียชีวิต
โดยก่อนที่จะเกิดเรื่อง ผู้ตายได้ไปดื่มเหล้าที่บ้านเพื่อนซึ่งอยู่ในละแวกดังกล่าว และดื่มเหล้ากับนายบอล ลูกหลานของเจ้าของบ้านจุดที่เกิดเหตุ ระหว่างที่ดื่มเหล้ากันนั้น นายบอลได้หายตัวไป ผู้ตายก็เข้าใจว่ากลับไปที่บ้าน จึงเดินไปตามที่บ้านจุดเกิดเหตุโดยใส่เพียงกางเกงบ็อกเซอร์ แต่ก่อนที่จะเดินไปถึงบ้านหลังกล่าวได้แวะอาบน้ำที่โอ่งน้ำของบ้านที่อยู่ในละแวกนั้น ก่อนจะเดินเข้าไปตะโกนเรียกนายบอลที่บ้านจุดเกิดเหตุ แต่ไม่มีเสียงตอบรับ จึงไปงัดประตูด้านหลังบ้าน และเข้าไปแช่ตัวในอ่างใส่น้ำ ต่อมาเพื่อนที่นั่งอยู่ในวงเหล้าด้วยกันได้เข้ามาเรียก แต่ผู้ตายได้ตอบกลับว่าขออาบน้ำก่อน เพื่อนจึงเดินกลับไป แต่เดินไปได้เพียง 3 ก้าวก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นเสียก่อน
ทั้งนี้ ตนคิดว่าผู้ตายน่าจะเมาแล้วไปอาบน้ำที่บ้านหลังดังกล่าว เพราะรู้จักกับลูกหลานเจ้าของบ้าน และเคยมาที่บ้านหลังนี้เป็นประจำ แต่ผู้ตายเพิ่งจะออกมาเรือนจำ ในคดีครอบครองอาวุธปืนได้ประมาณ 5 เดือน เลยไม่ทราบว่าเพื่อนตัวเองย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว ส่วนเรื่องที่ผู้ก่อเหตุ อ้างว่ายิงเพราะผู้ตายจะคว้าปืนสู้ ตนยืนบันว่าผู้ตายไม่เคยมีปืน และเชื่อว่าผู้ตายไม่ได้ไปขโมยของ เพราะคงไม่มีโจรที่ไหนใส่บ็อกเซอร์ตัวเดียวไปขโมยของ
อย่างไรก็ตาม ตนอยากจะเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับผู้ตาย เพราะผู้ตายเป็นคนที่น่าสงสารมาก และเรื่องที่เกิดขึ้นผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นตำรวจทำเกินกว่าเหตุ ถ้าไม่ได้ตั้งใจ ก็น่าจะทำเพียงแค่ยิงขู่เฉย ๆ หากผู้ก่อเหตุจะมาขอขมาศพ ส่วนตัวยังไม่แน่ใจว่าจะพร้อมหรือเปล่า เพราะยังทำใจไม่ได้
นางสาวสมพร ชิวิลัย อายุ 37 ปี ลูกพี่ลูกน้องของผู้ตาย เปิดเผยว่า ผู้ตายเป็นคนนิสัยดี ไม่เคยมีเรื่องราวกับใครมาก่อน แม้แต่เรื่องลักเล็กขโมยน้อยก็ไม่เคยมี ส่วนตัวจึงไม่เชื่อว่าผู้ตายจะไปขโมยของ และยืนยันว่าผู้ตายรู้จักกับลูกหลานของเจ้าของบ้าน แต่กรณีที่ผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นตำรวจให้การณ์ว่าทำไปเพราะผู้ตายมีปืน ส่วนตัวไม่เชื่อว่าเป็นความจริง และมองว่าทำเกินไป
หลังจากเกิดเรื่องทางผู้ก่อเหตุยังไม่ได้เข้ามาคุยด้วย แม้แต่ตำรวจที่สอบปากคำตน ก็ไม่มีใครสอบถามเรื่องนิสัยใจคิด หรือที่มาที่ไป นอกจากจะถามเรื่องที่ผู้ตายเคยติดคุกในคดีมีปืนในครอบครองกับเรื่องการเสพยา อย่างไรก็ตาม ตนอยากจะขอความเป็นธรรมให้กับผู้ตาย เพราะผู้ตายเป็นคนที่น่าสงสารมาก ซึ่งพอเห็นข่าวเขียนว่าตำรวจยิงขโมย ตนก็รับไม่ได้ เพราะไม่ใช่ความจริง
