ช่างภาพผวา แชตถามสินค้าแต่ไม่เอา เจอคนขายกร่างอ้างเป็นข้าราชการ - โชว์ปืนขู่ยิงทิ้ง

จากกรณีสมาชิกเฟซบุ๊กท่านหนึ่ง โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ปปส.ขอนแก่นเอาปืนมาขู่น้องในทีม เหตุผลเพราะถามราคากล้องแล้วไม่ซื้อ เราควรทำไงดี ?" พร้อมเปิดเผยข้อความการพูดคุยระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขายในแชตข้อความทั้งต่อว่าและโชว์ภาพปืนข่มขู่จะยิง

วันที่ 7 ม.ค. 62 นายนนทวัฒน์ จันทร์โฮง อายุ 30 ปี เจ้าของโพสต์ดังกล่าว เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 5 ม.ค. ที่ผ่านมา  ซึ่ง น้องเอ็ม อายุ 26 ปี ทีมงานช่างภาพที่ทำงานร่วมกัน พบโพสต์ขายกล้องถ่ายรูป แบบกล้องฟิล์ม ในตลาดออนไลน์ของเฟซบุ๊ก โดยคนขายได้โพสต์ขายระบุราคา และรายละเอียดของกล้อง ว่า “กล้องถ่ายรูปใช้ฟิล์มแคนนอล ใช้การได้สองตัว ในราคา 1,000 บาท”

ต่อมาน้องเอ็ม จึงสนทนาสอบถามผู้ขายผ่านทางแชต เพื่อสอบถามรายละเอียดปลีกย่อยต่าง ๆ ซึ่งคนขายยืนยันว่ามีของและขายราคาดังกล่าวจริง แต่กล้องดังกล่าวยังไม่สามารถใช้งานได้ ต้องซ่อมก่อน น้องเอ็มจึงตอบว่า ขอผ่าน จากนั้นปรากฏว่า คนขายมีการพูดที่ใช้วาจาในลักษณะข่มขู่ พร้อมส่งภาพที่ถืออาวุธปืนมาให้ดู

ในภายหลัง น้องเอ็มจึงนำข้อความในแชตมาให้ตนอ่าน ซึ่งขณะนั้นพวกตนปรึกษากันว่า ชายคนดังกล่าวนี้ตัวตนจริงหรือไม่ จึงเข้าไปดูเฟซบุ๊กส่วนตัวของชายคนดังกล่าว พบว่ามีภาพของชายคนดังกล่าวแต่งชุดข้าราชการ และพบภาพถ่ายถือระเบิด ถืออาวุธปืน และสวมใส่เสื้อ ป.ป.ส. แต่ไม่ทราบว่า เป็นเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.จริงหรือไม่ นายนนทวัฒน์ กล่าวอีกว่า หลังเกิดเรื่อง ผู้เสียหายก็รู้สึกไม่สบายใจ กลัวว่าอาจมีเหตุร้ายเกิดขึ้นได้ เพราะหากอีกฝ่ายเป็นเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.หรือเจ้าหน้าที่รัฐจริง หน่วยงานต้นสังกัดควรที่จะพิจารณาว่าการกระทำดังกล่าวนั้นเหมาะสมหรือไม่ ขณะนี้น้องเอ็มจึงนำเอกสารหลักฐานต่าง ๆ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 4 หรือ ป.ป.ส.ภาค 4 ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น เพื่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับคนขายกล้องออนไลน์ดังกล่าว จากการตรวจสอบพบว่า คนขายรายนี้เป็นพนักงานขับรถในสำนักงาน ปปส.ภาค4 ซึ่งในวันนี้ ผอ.ป.ป.ส. เดินทางเข้าพบเลขาธิการป.ป.ส. ที่กทม. เพื่อให้รายละเอียดเกี่ยวกับคนขับรถรายนี้แล้ว และหลังจากนี้ ป.ป.ส.ส่วนกลาง จะตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริง และจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป