ปฏิบัติการล้อมจับ 11 ชม.สยบลูกคลั่งฆ่าพ่อ ญาติสวมเกราะเกลี้ยกล่อมเจอกำปืนขู่ (คลิป)

1 ก.พ. 65

เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. วันที่ 1 ก.พ. 65 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พุนพิน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานีรับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต 1 คน ที่บ้านหมู่ที่ 11 ต.บางงอน อ.พุนพิน โดยผู้เสียชีวิตชื่อ นายพล แสงสว่าง อายุ 70 ปี เป็นเจ้าของบ้าน ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายสุทัด แสงสว่าง เป็นลูกชายของผู้เสียชีวิต

104905

นายณัฐกิจ หนูแก้ว หลานของผู้เสียชีวิต ที่มานอนที่บ้านตอนเกิดเหตุด้วย เล่าให้ฟังว่า ตอนเกิดเหตุนอนอยู่ที่บ้านรวม 5 คน ตา ยาย ตน น้าชาย และผู้ก่อเหตุ เวลาประมาณ 03.00-04.00 น. ขณะที่ตัวเองนอนอยู่อีกห้อง น้าชายผู้ก่อเหตุเหมือนขุดอะไรบางอย่าง บริเวณข้างบ้านด้านซ้าย พ่อจึงออกมาดูพร้อมด้วยอาวุธที่พกไว้ป้องกันตนเอง เนื่องจากลูกอาการไม่ดี และมีปากเสียงกัน

805997

ก่อนที่นายสุริยะจะลงมือทำร้ายตา และแย่งปืนของตา และยิงตา หลังจากได้ยินเสียงปืน 3 นัดก็จะออกมาช่วย แต่น้าอีกคนห้ามไว้ เพราะผู้ก่อเหตุมีปืน ก่อนที่น้าจะพาตาไปโรงพยาบาล เพื่อยื้อชีวิต และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

cg

ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ พบเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฎิบัติการณ์พิเศษกว่า 50 คน ลงพื้นที่ปิดล้อมบ้านหลังดังกล่าว หลังจากผู้ก่อเหตุหมกตัวเงียบอยู่ภายในบ้าน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องระดมกำลังและใช้ยุทธวิธี ติดกล้องดูพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุ มีการเกลี้ยกล่อม นำน้ำแดงไปให้ดื่มและนำข้าวไปให้ผู้ก่อเหตุ แต่ผู้ก่อเหตุไม่ยอมกิน นั่งยอง ๆ หน้าประตูบ้าน มือถือปืนอยู่ระหว่างขา มีขวดน้ำดื่มตั้งอยู่ฝั่งขวา

664860898309

โดยเวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่หน่วยปฎิบัติการพิเศษกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ใช้กล้องส่องทางไกลจากรถตำรวจ พบว่าผู้ก่อเหตุยังนิ่งเฉยนั่งยอง มือถือปืนแน่น ไม่ยอมกินน้ำและข้าวที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำไปให้ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ใช้ความรุนแรง ใช้เวลาเพื่อให้ผู้ก่อเหตุคลายความตึงเครียด เพื่อยอมมอบตัวเอง

217839

เมื่อเวลา 15.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้น้องชายของผู้ก่อเหตุเข้าไปเจรจา น้องชายของผู้ก่อเหตุได้สวมเสื้อเกราะเข้าไปเจรจาพร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษคอยควบคุมดูแลอยู่ทางด้านหลัง น้องชายได้ใช้โล่กำบัง พูดคุยถึงเรื่องอดีตสมัยเคยเล่นน้ำ และเลี้ยงวัวด้วยกัน แต่ผู้ก่อเหตุไม่ตอบสนอง ยังอยู่ในท่าเดิม นิ่ง ไม่สบตา ไม่ตอบคำถามใด ๆ ทั้งสิ้น โดยมีทีมเจ้าหน้าที่ชุดหน่วยปฏิบัติการพิเศษคอยควบคุมดูแล บัญชาการเหตุการณ์อยู่ไม่ห่าง

664496390634448845452558

เวลา 16.00 น. น้องชายผู้ก่อเหตุเข้าไปยังจุดเกิดเหตุเพื่อเจรจาอีกครั้ง ผู้ก่อเหตุก็ยังไม่ตอบสนอง จากการสอบถามประวัติผู้ก่อเหตุ พบว่าเป็นผู้ป่วยจิตเวช เคยรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล มีอาการป่วยจิตเวชมาแล้วกว่า 4 ปี แต่ช่วงหลังไม่ยอมทานยาตามที่แพทย์สั่ง จนมีอาการคลั่งขึ้นเรื่อย ๆ จนก่อเหตุยิงพ่อเป็นเองเสียชีวิต สำหรับปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนของพ่อที่มีอยู่ที่บ้านมานานแล้ว จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าผู้ก่อเหตุไม่เคยมีคดีความ

409324306271

จ่าสิบตำรวจสุรศักดิ์ แสงสว่าง น้องชายผู้ก่อเหตุ อายุ 34 ปี น้องชายผู้ก่อเหตุ สวมเสื้อเกราะเข้าเจรจากับผู้ก่อเหตุเป็นครั้งที่ 3 โดยในครั้งที่ 3 ได้นำข้าวผัดพริกแกงหมูกับน้ำแดงไปวางไว้ให้พี่ชายที่หลังบ้าน โดยได้เข้าไปเจรจาเป็นเวลา 5 นาที หลังจากพี่ชายไม่ตอบสนอง จึงเดินกลับมา

224224

ตนได้มีการพูดคุยกับพี่ชายถึงรถจักรยานยนต์ที่พี่ชายรักที่สุด โดยบอกกับพี่ชายว่าจะนำรถจักรยานยนต์ไปซ่อมให้ จะจ่ายค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด รวมถึงยังพูดถึงเหตุการณ์ตอนเด็กที่ตนเองและพี่ชายเคยเลี้ยงวัวด้วยกัน เคยผูกพันกัน แต่ปรากฏว่าพี่ชายไม่มีการตอบสนองใด ๆ กับตน จนรู้สึกได้ว่าพี่ชายเหมือนขาดสติไปแล้ว ส่วนเรื่องพ่อยังไม่กล้าบอกกับพี่ชายว่าพ่อเสียชีวิตแล้ว กลัวว่าพี่ชายจะมีอาการคลุ้มคลั่งอีก โดยพี่ชายยังนั่งอยู่ในท่าเดิม นั่งยอง ๆ ถือปืนกำไว้แน่น แววตาเหม่อลอย มองออกมานอกประตูเหล็ก พอตนเรียกก็หันมา แต่ไม่พูด ไม่ตอบ

787800

เวลา 18.00 น. หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานีปิดพื้นที่บริเวณหน้าบ้านที่เกิดเหตุ เพื่อเริ่มปฏิบัติการ โดยการยิงแก๊สน้ำตาเข้าไปภายในบ้าน จนผู้ก่อเหตุมีอาการแสบตา แพ้แก๊สน้ำตา หลังจากนั้นหน่วยปฏิบัติการพิเศษประมาณ 10 คน ตัดโซ่บุกเข้าไปภายในบ้าน นำตัวชายผู้ก่อเหตุออกมาจากบ้าน พร้อมกับอาวุธปืนลูกโม่ .38 ที่ผู้ก่อเหตุถืออยู่ แล้วนำผู้ก่อเหตุขึ้นรถพยาบาล ผู้ก่อเหตุมีอาการแสบตาร้องอยู่ตลอดเวลาขณะที่พาขึ้นรถพยาบาล

433410

โดยมีทีมแพทย์ชุด MCAT จากโรงพยาบาลท่าโรงช้าง และสสอ.พุนพิน ลงพื้นที่ดูแลผู้ก่อเหตุและดูแลสภาพจิตใจครอบครัวผู้เสียชีวิต

473940

พลตำรวจโทอำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภาค 8 ได้ลงพื้นที่มายังจุดเกิดเหตุ กล่าวว่าปฏิบัติการครั้งนี้มีการวางแผนว่าจะใช้ ยุทธวิธีแก๊สน้ำตา ไม่ให้ผู้ก่อเหตุได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นผู้ป่วยจิตเวช จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ติดกล้องดูพฤติกรรม ตอนแรกคาดว่าผู้ก่อเหตุจะมอบตัว

104185

แต่ดูจากพฤติการณ์โดยให้ทีมแพทย์มาคอยสังเกตการณ์ ผู้ก่อเหตุยังมีอาการคลั่งไม่ยอมมอบตัว จึงตัดสินใจสั่งการให้เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษใช้แก๊สน้ำตา เพื่อนำผู้ก่อเหตุออกมาจากพื้นที่ ไม่ให้เป็นอันตรายกับประชาชนในพื้นที่และตัวผู้ก่อเหตุเอง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ก็สามารถปฏิบัติการได้เป็นที่เรียบร้อย ยืนยันว่าผู้ก่อเหตุปลอดภัยไม่ได้รับบาดเจ็บ เพราะไม่มีการต่อสู้

204072

นายประเทือง บุญอารีย์ น้องเขยผู้ตาย อายุ 63 ปี บอกว่า ตนสนิทกับคนตาย โดยคนตายมีลูกและมีเมียหลายคน คนที่ก่อเหตุเป็นลูกที่อยู่กับผู้ตาย เป็นลูกคนที่ 11 เป็นคนคล้ายสติไม่ค่อยดี มีนิสัยดื้อรั้น เวลามีคนฝากของมาให้พ่อก็มักจะนำข้าวของต่าง ๆ ไปขาย จึงถูกผู้ตายหรือพ่อดุด่าอยู่บ่อยครั้ง

ล่าสุด ทราบว่าผู้ก่อเหตุไปขุดดินข้างบ้าน ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดที่วางท่อประปา จึงทำให้ผู้ตายดุด่า และเป็นเหตุให้ลูกชายใช้ปืนยิงพ่อ ด้วยความโมโหบันดาลโทสะ ส่วนพี่น้องของผู้ก่อเหตุไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน เนื่องจากอยู่ในสภาพจิตใจย่ำแย่

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส