พ่อ “เซนติเมตร” พร้อมอภัยเก๋งคู่กรณี - “เจนนี่ - พิชญ์” เผยลางทิ้งตั๋วขอเที่ยวต่อก่อนตาย (คลิป)

จากกรณี วันที่ 2 ม.ค. 62 เกิดอุบัติเหตุรถเก๋งวีออสของนางสาววิจิตรา ปุกบุญเรือง ขับชนกับรถยนต์ CR-V ของนายจตุรภัทร เข็มนาค หรือ เซนติเมตร อายุ 29 ปี สไตลิสต์ชื่อดัง และพิธีกร กับนายศุภกิจ เกิดซ้ำ หรือ โจ้ อายุ 30 ปี เพื่อนสนิท กระทั่งรถยนต์ CR-V ตกคลองชลประทานเชียงใหม่ เป็นเหตุให้เซนติเมตรและโจ้เสียชีวิต

ล่าสุด วันที่ 4 ธ.ค. 62 เจ้าหน้าที่เตรียมแจ้งข้อกล่าวหาแก่ นางสาววิจิตรา คนขับรถเก๋งวีออส 2 ข้อกล่าวหา ได้แก่ ขับรถประมาททำให้เกิดอุบัติเหตุจนทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และทรัพย์สินเสียหาย และข้อหาขับขี่ยานพาหนะฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจร ขณะที่ นางสาววิจิตรา ปุกบุญเรือง อายุ 26 ปี พนักงานบริษัทเอกชน คนขับรถเก๋งคู่กรณี มาให้ปากคำเพิ่มเติม แต่ได้รับการแจ้งจากฝ่ายนางสาววิจิตราว่า เจ้าตัวอยู่ในอาการเครียดอย่างมาก กระทั่งล้มป่วยเข้าโรงพยาบาล จึงต้องขอเลื่อนการเข้าให้ปากคำออกไป (อ่าน : สาววีออสเครียด เข้ารพ. เลื่อนให้ปากคำหลังชน "เซนติเมตร" ตร.จ่อแจ้ง 2 ข้อหา )

ขณะที่ นายเศรษฐวุฒิ ลำไย อายุ 29 ปี เจ้าหน้าที่สื่อสารมูลนิธิรวมใจ อปพร. อำเภอเมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในวันที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือเซนติเมตรออกมาได้เป็นคนแรก โดยใช้เวลาไม่นานนัก เนื่องจากเมื่อลงไปในน้ำ ประตูรถเปิดพอดี เจ้าหน้าที่จึงสามารถดึงตัวออกมาได้ง่าย ส่วนนายโจ้ติดอยู่ที่เบาะนั่งด้านหน้า ไม่สามารถดึงออกมาได้ เนื่องจากรถจมอยู่ในน้ำค่อนข้างลึก ไหลเชี่ยว และเย็นจัด จึงต้องประสานให้ชุดประดาน้ำพร้อมอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ เข้าให้การช่วยเหลือ ซึ่งเจ้าหน้าที่พยายามอย่างเต็มที่ที่สุดแล้ว การทำงานกู้ภัยในสถานการณ์จริงไม่ได้ง่ายอย่างที่หลายคนคิด เนื่องจากมีปัจจัยหลายอย่างเป็นอุปสรรค

ด้าน นายกาญจนชัย ธนถาวรวงศ์ อายุ 32 ปี เจ้าหน้าที่มูลนิธิรวมใจ อปพร. อำเภอเมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตนอยู่ในทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่เดินทางไปถึงที่เกิดเหตุเป็นทีมแรก โดยผู้ประสบเหตุคนแรก คือเซนติเมตร ได้รับการช่วยเหลือออกมาในสภาพหมดสติต้องปั๊มหัวใจ และรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล จากนั้น ตนซึ่งอยู่ในน้ำพยายามให้การช่วยเหลือนายโจ้ โดยสามารถยื่นมือเข้าไปจับขาของผู้ประสบเหตุได้แล้ว ผ่านประตูรถด้านหลังขวาที่พอแง้มเปิดได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ตนไม่สามารถดึงตัวนายโจ้ออกมาได้ เพราะร่างของอีกฝ่ายติดอยู่เบาะด้านหน้าของรถที่จมน้ำ กระทั่งสุดท้ายต้องประสานให้เจ้าหน้าที่ประดาน้ำที่มีความเชี่ยวชาญโดยตรงเข้าให้การช่วยเหลือ โดยช่วยออกมาได้ หลังจากช่วยคนแรกได้ประมาณ 20 นาที ในสภาพหมดสติ นายกาญจนชัย กล่าวต่อว่า ยอมรับว่าการทำงานให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในครั้งนี้ เป็นไปด้วยความยากลำบาก และกดดันมาก อีกทั้งระดับน้ำที่ค่อนข้างลึกไหลเชี่ยวและเย็นจัด ต้องแข่งกับเวลา แต่ยืนยันว่าทุกคนพยายามอย่างเต็มที่แล้ว และรู้สึกเสียใจที่สุดท้ายผู้ประสบเหตุต้องเสียชีวิตทั้งคู่

ด้านบรรยากาศ ที่ศาลาสามัคคี ศาลาริมน้ำ วัดรังษีโสภณ ต.บ้านใหญ่ อ.เมือง จ.นครนายก พิธีรดน้ำศพของเซนติเมตร เมื่อเวลา 16.00 น. เพื่อนสนิท เจนนี่ ปาหนัน และพิชญ์ กาไชย พิธีกรร่วมรายการ เดินทางมาร่วมไว้อาลัย รวมไปถึงเพื่อนในวงการสไตลิสต์เดินทางมาร่วมงานแน่นศาลา และบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า พ่อแม่และพี่ชายน้องสาว ยังอยู่ในอาการเสียใจ

เจนนี่ ปาหนัน และพิชญ์ กาไชย เพื่อนสนิทของเซนติเมตร เปิดเผยว่า ได้ทำงานเป็นพิธีกรร่วมกันในรายการล้นตู้ มากว่าครึ่งปี ก่อนหน้านี้เป็นเพื่อนสนิทกันมานานกว่า 7 ปีแล้ว ที่ผ่านมาไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด อีกทั้งยังรู้จักกันในฐานะที่เซนติเมตร เป็นสไตลิสต์ คอยหาชุดให้ จึงทำให้ยิ่งสนิทกันมาก ยอมรับว่าช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าจะจากไปเร็วขนาดนี้ คุณพิชญ์ เล่าว่า คุณโจ้ เพื่อนอีกคนที่เสียชีวิตพร้อมกับเซนติเมตรก็สนิทกับตน ตอนแรกคุณโจ้จะกลับพร้อมตนเพราะจองตั๋วไว้แล้ว แต่กลับยอมทิ้งตั๋ว เพราะอยากจะอยู่ต่ออีก 2 - 3 วัน เช่นเดียวกับคุณเซนติเมตร ซึ่งตนมีลางสังหรณ์แปลก ๆ ในวันที่พาคุณเซนติเมตรไปไหว้พระ วันที่ 1 ม.ค. 62 ก่อนเกิดอุบัติเหตุ 1 วัน อยู่ ๆ พระก็ทักคุณเซนติเมตรว่าสวยจังเลย ทั้งที่ไม่ได้แต่งหน้ามา เจนนี่ และพิชญ์ กล่าวว่า สำหรับนิสัยใจคอของคุณเซนติเมตร เป็นคนสนุกสนาน เฮฮา และยังเป็นคนไม่เหมือนใคร ใครที่ได้รู้จักถือว่าโชคดีมาก แต่หากดูผิวเผินหลายคนอาจจะไม่ชอบ ที่ผ่านมามีคนด่าเขาค่อนข้างเยอะ คิดว่าต้องมีคนเกลียดเยอะแน่ ๆ แต่พอมางานวันนี้ ก็รู้ว่าคนรักเยอะมาก

สำหรับพิธีสวดพระอภิธรรมเริ่มขึ้นในเวลา 20.00 น. โดยวันนี้มี โหน่ง ชะชะช่า เป็นเจ้าภาพ และจากนี้จะมีการสวดพระอภิธรรม ไปจนถึงวันที่ 9 ม.ค. 62 ก่อนที่จะทำพิธีฌาปนกิจ ในวันที่ 10 ม.ค. 62 เวลา 16.30 น.

ขณะที่ นายศิริรัตน เข็มนาค พ่อของเซนติเมตร เล่าย้อนว่า วันที่เกิดเหตุ ทีมแพทย์จังหวัดเชียงใหม่โทรศัพท์มาแจ้ง ขณะที่ได้ยินครั้งแรก ตนจึงรีบจองตั๋วเครื่องบินที่เร็วที่สุด โดยไปถึงเชียงใหม่ใหม่ 06.00 เช้า แต่ก็ไม่ทันได้ดูใจเป็นครั้งสุดท้าย เพราะลูกเสียชีวิตในเวลาประมาณ 05.00 น. ซึ่งตนเป็นคนบอกแพทย์ให้ช่วยปั๊มหัวใจรอครอบครัวก่อน ไม่เช่นนั้นก็อาจจะเสียชีวิตไปนานแล้ว โดยระหว่างสัมภาษณ์ นายศิริรัตนได้ปล่อยโฮพร้อมกล่าวว่า ตอนนั้นตนบอกลูกไปว่า "มึงเก่ง แต่เก่งไม่จริง ถึงได้เสียชีวิตเร็วขนาดนี้" ส่วนทางคดี ขณะนี้เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า คู่กรณีผิดจริง แต่ลูกตนเสียชีวิตไปแล้ว และคงไม่ได้กลับคืนมาแล้ว ครอบครัวก็คงไม่ไปเรียกร้องอะไร ซึ่งในเรื่องกฎหมายก็ให้ตำรวจดำเนินการ โดยตนยังไม่รับคำขอโทษจากคู่กรณี และต้องการให้คู่กรณีเข้ามาขอขมาและขอโทษลูกของตน