กรณีตำรวจภูธรภาค 8 เข้าปิดล้อมรีสอร์ตแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ชะมวง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง เพื่อนำกำลังเข้าไปจับกุมตัวนายประดิษฐ์ มุสิกะสงค์ หรือ แกร็ก อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายศาลจังหวัดพัทลุง ตรัง และสงขลา รวมทั้งสิ้น 15 คดี พร้อมพวก 4 คน แต่คนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงต่อสู้ตำรวจ และหลบหนีไปได้
ล่าสุดวันที่ 27 ม.ค.65 พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.(สส.) ลงพื้นที่ภาคใต้ และไล่ล่าตัวคนร้ายด้วยตัวเอง โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฎิบัติการพิเศษ เข้าร่วมประมาณ 50 นาย กระทั่งเวลา 17.00 น. ตำรวจสามารถไล่ล่าหาตัวคนร้ายเจอที่บ้านพัก ต.รามแก้ว อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ก่อนจะวิ่งหนีจากบ้านพักไปกลางทุ่งนา โดยใช้อาวุธปืนสงครามยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงถูกยิงสวนเสียชีวิต ข้างกายพบอาวุธปืน M16 เสียชีวิตห่างจากบ้านพัก ประมาณ 50 เมตร ส่วนนางบุหลัน หมัดหัด ผู้เป็นภรรยา ถูกจับกุมได้ในบ้านเลขที่ 115/3 หมู่ที่ 1 ตำบลรามแก้ว อำเภอหัวไทร จ.นครศรีธรรมราช
สำหรับประวัตินายประดิษฐ์ ในระหว่าง พ.ศ. 2550 – 2565 ได้ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายศาลจังหวัดพัทลุง ตรัง และสงขลา รวมทั้งสิ้น 15 คดี ประกอบด้วย ฆ่าผู้อื่น 5 คดี พยายามฆ่าผู้อื่น 3 คดี ครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย 2 คดี ร่วมกันปล้นทรัพย์ 1 คดี พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน 1 คดี ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 อีก 1 คดี กระทั่งถูกหมายจับของศาลจังหวัดพัทลุง ในข้อหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ร่วมกันมีและใช้อาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนหรือวัตถุระเบิด และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้อนุญาต
นางบุหรัน หมัดหัด ภรรยาของนายแกร็ก กล่าวว่า ตนได้หลบหนีตำรวจมาตลอด ตั้งแต่วันที่ 19 ม.ค.65 หลังจากยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กระทั่ง 2 วันที่ผ่านมา นายแกร็กพาตนมาหลบอยู่ที่บ้านหลังนี้ ซึ่งเป็นบ้านของคนที่รู้จัก นายแกร็ก ก็ได้พกปืน M16 ไว้เพื่อป้องกันตัว
ที่ผ่านมา ตนพยายามเลิกกับนายแกร็กหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ถูกขู่จะฆ่าและตามไปจ่อยิงที่บ้าน ตนจึงรู้สึกกลัวและจำใจต้องกลับมาคบกับนายแกร็ก หากไม่กลับมาคบกัน นายแกร็กก็ขู่จะยิงตนให้ตาย ตนเชื่อมาตลอดการหลบหนีว่าสักวันจะต้องถูกจับ และท้ายที่สุดเจ้าหน้าที่ก็เข้ามาจับกุมและวิสามัญนายแกร็ก ตนจึงยอมรับว่าใจหนึ่งก็ดีใจที่นายแกร็ก ถูกจับดำเนินคดี เพราะตนจะได้ไม่ต้องหนีหัวซุกหัวซุนแบบนี้อีกต่อไป
นายภิรมณ์ สังขัม เจ้าของบ้านที่นายแกร็กเข้ามาหลบซ้อน เล่าให้ฟังว่า นายแกร็ก เข้ามาขอพักอาศัยผ่านญาติของตน อ้างว่ามีปัญหากับพี่เขยที่อยู่ในจังหวัดนครศรีธรรมราช จึงขอมาหลบซ่อนเพื่อป้องกันเหตุทะเลาะวิวาท โดยเข้ามาพักอาศัยได้ 2 วันแล้ว ตนเห็นว่ามีกระเป๋าเพียงใบเดียว กับรถ 1 คัน แล้วก็มากับภรรยา ท่าทางไม่มีพิรุธ และไม่เห็นว่ามีอาวุธปืนมาด้วย กระทั่งมาทราบจากเจ้าหน้าที่ก็รู้สึกตกใจ หากตนรู้ว่าเป็นคนร้ายก็คงจะไม่ให้เข้ามาพักอาศัย
ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ วิสามัญนายแกร็ก แต่ก็ยังไม่สามารถเข้าตรวจสอบศพได้ เนื่องจากเกรงว่าคนร้ายอาจจะพกระเบิดติดตัวไว้ จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตรวจสอบปรากฎว่าไม่พบระเบิด เจ้าหน้าตำรวจ ทีมแพทย์ และชุดพิสูจน์หลักฐาน จึงได้เข้าตรวจสอบสภาพศพ นอกจาก M16 ที่ตกอยู่ข้างศพแล้ว ยังพบปืนแม็กกาซีนภายในกระเป๋าหนังสีน้ำตาล โดยผู้ต้องหาถูกยิงเข้าที่ขาซ้ายตัดเส้นเลือดใหญ่ ที่แขน ที่ชายโครง และหลังกระสุนฝังใน ส่วนการตรวจโควิค-19 ไม่พบเชื้อแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวด้วยว่า จากการตรวจสอบภายในบ้านพักไม่พบวัตถุระเบิด เบื้องต้นอยู่ระหว่างการสอบปากคำภรรยาของผู้ต้องหา เพื่อสืบหาตัวผู้ร่วมขบวนการพาหลบหนี ส่วนพวกอีก 2 คน ที่ถูกออกหมายจับพร้อมกัน ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงติดตามตัว คาดว่ายังอยู่ในพื้นที่จังหวัดพัทลุง
