ผัวอำมหิตฆ่าทุบหัวเมีย ญาติแฉมีดกรีดขาจนพิการ บีบทำประกันหวังฮุบสมบัติ (คลิป)

16 ม.ค. 65

กรณีตำรวจ สภ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุว่ามีหญิงถูกทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย ภายในบ้านบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ภายในบ้านมีที่นอนของผู้ป่วยติดเตียง มีรถวีลแชร์ และร่างของหญิงสาวคนดังกล่าวนอนจมกองเลือด สภาพใบหน้าฝั่งขวายุบเลือดนองเต็มพื้น ใกล้เคียงกันพบกรอบรูปแตกเสียหาย และยังมีอุปกรณ์ออกกำลังกายซึ่งทำด้วยไม้ตกอยู่อีกหนึ่งชิ้น

199427638222

ทั้งนี้ ทราบภายหลังว่าสามีเป็นผู้ก่อเหตุทำร้ายภรรยา ก่อนที่จะหลบหนีไป และลูกชายมาเจอในเวลา 08.30 น. จึงแจ้งให้เพื่อนบ้านมาช่วยเหลือ แต่พบว่าหญิงสาวคนดังกล่าวไม่มีสัญญาณชีพแล้ว ต่อมาทราบชื่อผู้ตาย นางหนูเยี่ยม นุ้ยสวี อายุ 70 ปี เป็นผู้ป่วยติดเตียง ขณะที่คนก่อเหตุทราบชื่อ นายสวาท อักษรสม หรือ อ๊อด อายุ 68 ปี เจ้าหน้าที่จึงเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตออกจากบ้าน ก่อนนำส่งไปยังนิติเวชโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี เพื่อชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง

515421

นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้รตรวจสอบกล้องวงจรปิด บริเวณซอยทางเข้าบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นช่วงเวลาประมาณ 01.02 น. เป็นช่วงเวลาหลังเกิดเหตุ หลังจากที่นายสวาท ทำร้ายเมียถึงแก่ความตายแล้ว ได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์หลบหนี ซึ่งผ่านกล้องวงจรปิดตัวดังกล่าวด้วยความเร็วและมีท่าทีเร่งรีบ

883780

ล่าสุดวันที่ 16 ม.ค.65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางลงพื้นที่ไปยัง ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี พบว่าบ้านหลังดังกล่าว โดยปกติแล้วนางหนูเยี่ยม ซึ่งป่วยติดเตียงมานานกว่า 1 ปี อาศัยอยู่กับนายสวาท ในฐานะสามี และยังอาศัยอยู่กับนายโอ อายุ 40 ปี ลูกชาย แต่ในวันเกิดเหตุลูกชายได้ออกไปทำงานรับจ้างกรีดยาง และลักษณะภายในบ้านจะเป็นห้องเปิดโล่งไม่มีการแบ่งกั้นห้องนอน ซึ่งเมื่อเดินผ่านประตูเข้าไปฝั่งขวาจะเป็นที่นอนของนางหนูเยี่ยม ส่วนตรงกลางบ้านจะเป็นที่นอนของนายสวาท ถัดไปด้านในสุดริมหน้าต่างเป็นที่นอนของลูกชาย แต่กองเลือดและจุดที่พบศพของนางหนูเยี่ยม กลับอยู่บริเวณหน้าตู้เสื้อผ้า ทำด้วยกระจก มีลักษณะแตกเสียหาย แต่ยังมีเลือดของคนตายติดอยู่บนพื้น แม้ว่าครอบครัวจะมีการทำความสะอาดไปแล้วบางส่วนก็ตาม

122093

ส่วนกรอบรูปที่ใช้ก่อเหตุ รวมถึงอุปกรณ์ออกกำลังกายที่ทำด้วยไม้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บออกจากที่เกิดเหตุไปแล้ว แต่ความผิดปกติก็คือ นางหนูเยี่ยม ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ หากจะเคลื่อนไหวหรือลุกออกจากเตียงจะต้องใช้วีลแชร์ แต่ร่างของนางหนูเยี่ยม ห่างจากเตียงนอนออกไปประมาณเกือบ 4 เมตร จึงคาดว่าในขณะเกิดเหตุนายสวาท ลากฝ่ายหญิงออกไปจากเตียงนอนและลงมือทำร้ายร่างกายบริเวณจุดดังกล่าว จนกระทั่งถึงแก่ความตาย

752973

นางยุพา จันทระ อายุ 60 ปี รุ่นน้องคนสนิทของคนตาย ในฐานะเพื่อนบ้าน เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (15 ม.ค.65) ก่อนเกิดเหตุตนยังเดินทางไปเยี่ยมและพูดคุยกับนางหนูเยี่ยม เพราะสามีออกไปดื่มเหล้านอกบ้าน ส่วนลูกชายออกไปรับจ้างกรีดยาง จึงทำให้นางหนูเยี่ยม อยู่บ้านเพียงลำพัง ขณะนั้นตนก็พูดคุยหยอกล้อกันตามปกติ ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ขึ้นเหมือนกัน

แต่ที่ผ่านมา นายสวาท สามีของนางหนูเยี่ยม ปกติเป็นคนที่ชอบทำร้ายเมียมาโดยตลอด แต่ก็ไม่เคยรุนแรงถึงขั้นฆ่ากันแบบนี้ เพราะทุกครั้งที่ตนมาเยี่ยมและพูดคุยด้วย ตามร่างกายของนางหนูเยี่ยม ก็จะมีบาดแผล และรอยพกช้ำเขียวตามตัว ซึ่งก็เข้าใจว่าเป็นพฤติกรรมที่นายสวาท และก็มักจะทำร้ายภรรยาในช่วงกลางคืนหรือช่วงที่ลูกชายไม่อยู่บ้าน

cg_3

"เหตุการณ์เมื่อคืนนี้ ช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืน ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงต่างได้ยินเสียงคนทะเลาะกัน และทุกคนก็เข้าใจว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่นายสวาทมักจะทำร้ายภรรยาเป็นเรื่องปกติ จึงไม่ได้มีใครเอะใจ เมื่อมาทราบอีกทีตอนเช้าก็ปรากฏว่านางหนูเยี่ยม กลายเป็นศพนอนอยู่ในบ้านแล้ว ส่วนสามีหนีหายออกจากบ้านหลังก่อเหตุ ซึ่งหลังจากที่มีการทำร้ายภรรยาได้หลบหนีไปนอนอยู่กับคนอื่นข้างนอก จากนั้นช่วงเวลาประมาณ 04.00-05.00 น. คาดว่าน่าจะหายจากอาการมึนเมา ย้อนกลับเข้ามาเพื่อมาดูภรรยา แต่หลังจากทราบว่าภรรยาเสียชีวิตแล้ว จึงได้หลบหนีออกจากบ้าน และขี่รถสวนทางกับลูกชายระหว่างทาง แต่ก็ไม่ยอมพูดอะไร หรือยอมรับว่าไปทำอะไรมา กระทั่งลูกชายของนางหนูเยี่ยม เข้ามาหาแม่ที่บ้านตอนเช้า ปรากฏว่าเจอร่างของแม่นอนเสียชีวิตอยู่กลางบ้านแล้ว" นางยุพา กล่าว 

911714

สำหรับนางหนูเยี่ยม แต่ก่อนเขาเป็นคนปกติ เดินเหินและใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไป มีที่ดินสวนปาล์มรวมกว่า 18 ไร่ กระทั่งอาการทรุดเดินไม่ได้ และกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง แต่ก็ยังถูกตามทำร้ายแทบทุกวัน นางหนูเยี่ยมก็ได้ตัดสินใจขายที่ดินเหลือเพียง 16 ไร่ และได้เงินมามูลค่าหลายล้านบาท แต่นางหนูเยี่ยม ไม่สามารถที่จะไปทำธุรกรรมได้ด้วยตนเอง จึงฝากให้นายสวาทเอาไปเข้าบัญชี แต่ปรากฏว่าเอาไปเข้าบัญชีส่วนตัว ครั้งละประมาณ 500,000 บาท รวมทั้งบังคับให้เซ็นมอบอำนาจเกี่ยวกับเงินกองทุนหมู่บ้าน และผู้รับผลประโยชน์เกี่ยวกับเงินประกันชีวิต นอกจากนี้ นายสวาทมักจะนำเงินไปใช้กับการเที่ยวและเปย์หญิงสาว

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ฆ่ากันตาย นางหนูเยี่ยม ยังเคยพูดกับว่า อยากจะหนีไปให้ไกล แต่สภาพเป็นผู้ป่วยติดเตียง ก็ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน ไล่ให้นายสวาทออกไปอยู่ที่อื่นก็ไม่ยอมไป ต้องทนถูกทำร้ายร่างกายแบบนี้แทบทุกวัน เพราะไม่สามารถที่จะทนกับการถูกทำร้ายร่างกายแบบนี้ได้ ฉะนั้น ตนก็อยากให้รับโทษตามกฎหมาย และขออย่าให้ได้รับการประกันตัว ที่สำคัญอยากให้พามาทำแผนด้วย

135566

นางสาคร นุ้ยสวี น้องสะใภ้ของคนตาย เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ยอมรับว่าครอบครัวก็ทราบมาโดยตลอดว่า นายสวาท ก่อเหตุทำร้ายร่างกายนางหนูเยี่ยม แต่ก็มีเพียงแค่รอยพกช้ำ ไม่เคยหนักถึงขั้นจะฆ่ากันตาย หลายครั้งครอบครัวพยายามแยกระหว่างนางหนูเยี่ยมกับนายสวาทออกจากกัน แต่ก็ด้วยความสัมพันธ์เป็นสามีภรรยากันและมีลูกด้วยกัน จึงทำให้ทั้งคู่สามารถที่จะคืนดีกันได้โดยปกติ ทำให้ครอบครัวหรือญาติพี่น้องไม่กล้าเข้ามายุ่ง กลัวว่าสักวันจะกลายเป็นหมาหัวเน่า

594512

ทั้งนี้ นางหนูเยี่ยม ก็พยายามขายที่ดินเพื่อที่จะนำเงินมาใช้จ่าย ในระหว่างที่ไม่สามารถออกไปทำงานได้ แต่ก็ถูกนายสวาทนำเงินไปใช้จ่ายส่วนตัว และนายสวาทก็ไม่เคยออกไปทำมาหากิน ขอเงินเมียไปกินเหล้า มีเพียงลูกชาย อายุ 40 ปี ที่คอยดูแลแม่ทุกเช้าเย็น และกลางคืนก็จะออกไปทำงานรับจ้างกรีดยาง

536981

นางสาคร ยังเผยอีกว่า ก่อนที่นายสวาท จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไปดำเนินคดี ได้มีการพูดและยอมรับสารภาพกับญาติพี่น้องว่า “เป็นการลงมือก่อเหตุโดยไม่มีเจตนา แต่เกิดจากการพลั้งมือ และไม่คิดว่าครั้งนี้เมียจะตาย” หลังจากญาติได้ฟังคำสารภาพดังกล่าวแล้วก็ยอมรับว่ายังทำใจไม่ได้ รู้สึกโกรธและโมโหมาก ฉะนั้นจึงอยากให้รับโทษตามกฏหมายให้สูงสุดหรือให้นานที่สุด

306362

เวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา ตำรวจชุดสืบสวนได้ไปคุมตัวนายสวาท หรือ อ๊อด ซึ่งถูกออกหมายจับในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” โดยได้นำตัวมาที่สภ.ท่าชนะ ซึ่งนายสวาท ไม่ได้มีท่าทีสลด และพยายามให้การกับชุดสืบสวนว่า “หลังก่อเหตุไม่ได้หลบหนี แค่เพียงออกไปนั่งดื่มน้ำชา และในช่วงที่ก่อเหตุก็ไม่ได้อยู่ในอาการมึนเมา แต่กินเพียงแค่น้ำกระท่อม ตั้งใจว่าช่วงสายวันนี้จะตัดสินใจไปบอกความจริงกับตำรวจ แต่กลับถูกควบคุมตัวเอาไว้เสียก่อน และตอนที่ก่อเหตุก็ไม่คิดว่าเมียจะถึงแก่ความตาย”

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส