จากกรณีเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 12 มกราคม 2565 นายพรชัย เปรมประสงค์ อายุ 20 ปี ได้นำคลิปจากกล้องวงจรปิดเดินทางเข้าให้แจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.คมกฤชต์ ทองอุไร รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางปู จ.สมุทรปราการ หลังจากเมื่อช่วงเย็นของวานนี้ ได้พานาย ธนภัทร สุดชาย อายุ 19 ปี น้องชายไปทวงค่าแรง และถูกรุมทำร้ายได้รับบาดเจ็บ
โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นที่หน้าโรงงานแห่งหนึ่งในซอยทีเจซี ถนนสุขุมวิท ต.บางปู อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ล่าสุด วันที่ 13 มกราคม 2565 นายธนภัทร สุดชาย อายุ 19 ปี ผู้บาดเจ็บจากการถูกรุมทำร้าย เสียชีวิตลงแล้ว เมื่อช่วง 12.00 น.
นายพรชัย เปรมประสงค์ อายุ 20 ปี พี่ชายผู้เสียชีวิต เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวานนี้ ตนเองเดินทางไปทำงาน ไปส่งงาน และได้ขอหัวหน้างานลา เพราะต้องเดินทางไปโรงพยาบาลเพื่อไปเอกซเรย์ขา เนื่องจากตนเองผ่านตัดขามา โดยหัวหน้าก็อนุมัติให้ลา
ต่อมามีนายเนม (นามสมมติ) หัวหน้าอีกแผนก ไล่ให้ตนเองไปรับประทานยา เพื่อที่จะเข้าทำงานต่อในช่วงบ่าย ซึ่งตนเองได้ตอบกลับว่าตนเองได้ขอลาหัวหน้าไปแล้วว่าช่วงบ่ายไม่ได้ทำงาน แต่ทางด้านนายเนม (นามสมมติ) หัวหน้าแผนกอื่น ก็ได้พูดจาใช้ถ้อยคำหยาบคายว่า "เรื่องของมึง ไม่ใช่เรื่องของกู" ตนเองยอมรับว่าเมื่อได้ยินก็โมโห จึงด่ากลับไป "มึงเป็นใคร ทำไมต้องมาด่ากูด้วยไอสั-ว์"
ต่อมานายเอ (นามสมมติ) ผู้จัดการที่เป็นพี่ชายของนายเนม (นามสมมติ) หัวหน้าแผนกอื่นที่มาด่าตน ก็มาออกตัวแทนนายเนมมาด่าตนเอง และถามว่า "ที่บอกว่าลางาน มึงบอกกับใคร แล้วหัวหน้าฝ่ายมึงมันได้ให้เงินเดือนมึงไหม" และด่าว่าตนเองว่า "ทำงานไม่ได้เรื่อง ออกไปเลย มึงออกงานไปเลย" ตนเองจึงตอบกลับว่า "เออกูออกแน่ เงินเดือนเอามาให้กูด้วยนะ เพราะมึงไล่กูออกวันนี้ กูต้องได้เงินวันนี้"
โดยระหว่างนั้นมีคนชื่อ นายเอกซ์ น้องเขยของนายเอ ผู้จัดการผู้ก่อเหตุ ยืนฟังอยู่และไม่พึงพอใจที่ตนเองไปด่าพี่เขยของนายเอกซ์ จึงได้ตะโกนท้าทาย "ค-ยอะไรไอสั-ว์ เอาหรือเปล่า 1-1 ไหม" ตนก็ได้ตอบสวนว่า "ออกมานอกโรงงานสิ" แต่นายเอกซ์ก็ไม่ได้ออกมา ตนเองจึงกลับบ้านไปหาน้องช่วงบ่าย 14.00 น. หัวหน้าฝ่ายตนเองโทรศัพท์เข้ามาให้มารับเงิน ตนเองก็เลยออกมาพร้อมน้อง เนื่องจากน้องจะไปทำรถจักรยานยนต์ด้วยกัน เมื่อมาถึงนั้นตนเองอยู่เพียงแค่หน้าโรงงาน ไม่ได้เข้าไปในโรงงาน ต่อมาหัวหน้าก็เดินเอาเงินค่าแรงมาให้ จึงย้อนถามหัวหน้าถามหานายเอกซ์ที่จะต้องการชกต่อยกับตนเอง หัวหน้าจึงไล่ให้ตนเองกลับบ้าน
ขณะที่กำลังควบรถกลับ นายเอกซ์ถือมีดออกมา และนายแต๊กก็ถือไม้วิ่งมาหาเรื่องตนเองที่รถ ตนเองขับรถออกไม่ทัน จึงกระโดด ป้องกันตัว ต่อมานายแต๊กกระโดดถีบ นายธนภัทร น้องชายตนเองล้มลงไป และคนในโรงงานอีก 4-5 คน ก็กรูเข้ามาทำร้ายร่างกายน้อง โดยแบ่งเป็น 3 คน ชกต่อยกับตนเอง และอีก 3 คนกระทืบน้องชายตนเองจนสลบ จนล่าสุด น้องชายเสียชีวิตลงแล้วช่วงเที่ยงที่ผ่านมา
ซึ่งตนเองยอมรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น เนื่องจากคนก่อเหตุไปให้การว่าไม่ได้รุมทำร้ายน้อง แต่ร่างกายน้องสะบักสะบอม หัวบวม เลือดคั่งในสมอง หน้าอกช้ำ ฟันแตกหักเหลือไม่กี่ซี่ เป็นการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าถูกรุมทำร้ายร่างกาย อีกทั้งตนเองเรียกค่าเสียหายเพียงแค่ค่ารักษาพยาบาล 200,000 บาท แต่ญาติของคู่กรณีมาหัวเราะขำใส่ตนเองว่าเรียกเงินเยอะ ตนอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหากลับมาสอบสวนและลงโทษให้ถึงที่สุด
นายนิคม (นามสมมติ) พนักงานรักษาความปลอดภัย ระบุว่า ตนเองทราบว่ามีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทเกิดขึ้น ในวันดังกล่าวตนเองไม่ได้เข้าเวร เนื่องจากเป็นผลัดกลางวัน แต่ก็พอรู้ว่าวัยรุ่นทั้ง 2 คนนั้นเคยมีปากเสียงกัน มีปัญหากันก่อนหน้า ไม่ถูกไม่ลงรอยกันจึงท้าทายชกต่อยกัน
ตนยืนยันว่า หนึ่งในผู้ก่อเหตุที่เป็นพนักงานนั้นมีอาวุธมีดยาว พกมาด้วยจริง แต่ไม่ได้นำมีดมาแทงแต่อย่างใด เมื่อเช้าที่ผ่านมาตนเองก็ยังเห็นกลุ่มวัยรุ่นที่วิวาทนั้นยังมาทำงานปกติ แต่ไม่ได้พูดคุยอะไรกัน
