จากกรณี การค้นหา ด.ช.ซูลุย อายุ 2 ขวบ หลังหายตัวเข้าไปในไร่อ้อย หมู่ 9 ต.สระพังลาน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเข้าสู่วันที่ 7 ของการค้นหา หลังจากที่ตำรวจภูธรภาค 7 กว่า 200 นาย ได้ระดมกำลังเดินปูพรมลาดตระเวนในไร่อ้อย พื้นที่ 1,400 ไร่ พร้อมกับชาวบ้านอาสาในพื้นที่ที่ให้ความช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกตลอดภารกิจ ซึ่งการค้นหายังเป็นไปอย่างเข้มข้น จากเดิมเคยปูพรมค้นหาเพียงรัศมีจากจุดที่เด็กหาย ขยายเป็นวงกลม ระยะทาง 2-3 กิโลเมตร เน้นการค้นหาจากไร่อ้อยด้านหน้ากองอำนวยการ ทอดยาวถึงบ่อน้ำกลางไร่ (อ่าน :
จุดวิกฤติ! 2 ขวบ หายในป่าอ้อย พาช้างค้น - ดำน้ำหาไร้แวว หวั่นงูรัด)
วันที่ 24 ธ.ค. 61 บริเวณต้นแจงและจอมปลวกในช่วงกลางคืน พบว่า มีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังเดินทางมามาจากภาคอีสาน คือ ครูบาเจ้าหน่อเขี้ยวแก้ว มาร่วมค้นหาตัวเด็กชายชาวเมียนมาวัย 2 ขวบ รวมถึง บริเวณต้นแจงซึ่งมีจอมปลวกศักดิ์สิทธิ์ มีชายคนหนึ่งมีอาการคล้ายถูกวิญญาณของเจ้าที่เจ้าทางเข้าสิง โดยมีอาการกรีดร้อง อยู่ในบริเวณเดียวกัน ครูบาเจ้าหน่อเขี้ยวแก้ว จึงได้ทำพิธีไล่วิญญาณ ตามความเชื่อ
จากการสอบถาม ชายผู้มีอาการคล้ายถูกสิงอ้างว่า ตนเป็นวิญญาณสมิง ต้องการเจอกับพ่อแม่ของเด็ก ทั้งยังกล่าวอีกว่า สิ่งที่พ่อแม่ของเด็กรับปากอะไรไว้ ได้จัดการให้ตนหรือยัง และต้องการให้ครอบครัวของเด็กบวชเพื่ออุทิศส่วนกุศลและตั้งศาลเพียงตาให้ แล้วจะคืนตัวเด็ก 2 ขวบให้
หลังจากนั้น ครูบาเจ้าหน่อเขี้ยวแก้ว ทำพิธีขับไล่วิญญาณ ชายคนนี้จึงสงบลง โดยมีการร้องไห้ และถูกชาวบ้านลากตัวออกไป เมื่อชายคนดังกล่าวมีอาการสงบลงแล้วจึงจุดธูปเพื่อขอขมาเจ้าหน้าที่ รวมถึงพ่อแม่เด็กนำผ้าไตรเพื่อกราบไหว้ต้นแจงและจอมปลวกซึ่งคาดว่าเป็นที่สถิตของวิญญาณดังกล่าว และเพื่อเป็นการขอขมา
ซึ่ง
ครูบาเจ้าหน่อเขี้ยวแก้ว กล่าวว่า ตนเดินทางเข้ามาในพื้นที่วันนี้ ก็เพื่อที่ต้องการปลดปล่อยดวงวิญญาณภายในบริเวณดังกล่าว อีกทั้งยังมาเพื่อถอดถอนอาถรรพ์ของต้องแจงและจอมปลวก เนื่องจากเด็กชายวัย 2 ขวบที่หายไป มีกรรมเกี่ยวเนื่องกันกับสถานที่และวิญญาณภายในพื้นแห่งนี้