สาวถอดรองเท้าตบตร.โร่ขอขมา อ้างเมาสติหลุด ปัดเป็นลูกผู้มีอิทธิพล ขอโอกาสมีที่ยืน (คลิป)

8 ม.ค. 65

กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง เผยแพร่คลิปวิดีโอหญิงสาวขับรถเบนซ์สีขาว ลักษณะเหมือนมึนเมาสุราและได้ใช้รองเท้าตบตีทำร้ายร่างกายตำรวจ ก่อนจะพูดจาท้าท้ายสุดกร่างถามกับตำรวจว่า "รู้ไหมกูลูกใคร"

830877

โดยเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นวันที่ 31 ธันวาคม 64 เวลาประมาณ 21.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คูคต ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์ขับย้อนศร ถนนลำลูกกา ข้างสนามกีฬาธูปะเตมีย์ และคนขับมีอาการคล้ายคนเมาสุรา เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรจึงได้เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ พบรถเบนซ์สีขาว จอดอยู่ในทิศทางสวนการจราจร หันหน้าเข้าหารถกระบะ ทะเบียน 1ฒข-7488 กทม. และมีคนขับเป็นผู้หญิง ทราบชื่อภายหลัง น.ส.อรวรรณ จุฑาจำเริญ อายุ 35 ปี ลงจากรถและต่อว่าคนขับรถกระบะ ก่อนจะใช้มือทุบรถกระบะคันดังกล่าว

202044

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร เห็นว่ามีอาการเมาสุรา จึงได้แจ้งกับหญิงคนดังกล่าวว่าขับรถย้อนศรและมีอาการเมาสุราต้องไปตรวจวัดค่าแอลกอฮอล์ ทว่าน.ส.อรวรรณ พยายามขับรถหลบหนีแต่ไม่สามารถสตาร์ตรถได้ จากนั้นมีเจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.คูคต และเจ้าตำรวจจราจรกลาง ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาจึงเข้ามาช่วยระงับเหตุ แต่ก็ถูกน.ส.อรวรรณ ใช้รองเท้าตีเข้าบริเวณหน้าได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ซ้ำยังถามกับตำรวจว่า "รู้ไหมว่ากูลูกใคร"

366643315918

ภายหลังตำรวจจึงได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน และตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ได้ 176 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จึงได้ควบคุมตัวดำเนินคดีในข้อหา 1.ขับขี่รถในขณะเมาสุรา 2.ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย 3.ทำร้ายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ และ 4.ทำให้เสียทรัพย์ ตามคดีอาญาที่ 1/2565 ลงวันที่ 1 มกราคม 65

691763

ล่าสุดวันที่ 8 ม.ค.65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่จังหวัดปทุมธานี พบว่าลักษณะที่เกิดเหตุเป็นถนนทางเข้าลำลูกกา หน้าสำนักงานเทศบาลคูคต ติดกับสนามกีฬาธูปะเตมีย์ ส่วนบนถนนตรงจุดเกิดเหตุเป็นถนนที่มีเกาะกลางกั้นไว้ แบ่งเป็นฝั่งละ 3 เลน

802659

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายอนุชา จันทร์ศรี อายุ 48 ปี เจ้าของรถกระบะ กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุตนกำลังขับรถกลับบ้านที่คลองสอง ลำลูกกา ปรากฏว่าจังหวะที่กำลังจะขับรถกลับบ้าน ไปเจอกับ น.ส.อรวรรณ ขับรถย้อนศรมาด้วยความเร็ว จึงจอดรถขวางเอาไว้

"ในตอนแรกคิดว่าคนขับรถเป็นเป็นผู้ชาย เอาตรง ๆ ก็ตั้งใจลงไปหาเรื่อง จพถามว่าขับรถแบบนี้ได้ยังไง แต่พอลงไปคนขับรถดันเป็นผู้หญิง มีอาการคล้ายคนเมา แล้วก็พูดว่าพี่ช่วยหนูด้วย มีคนบังคับให้หนูจอดรถ หนูตกใจก็เลยขับรถย้อนศรมา" นายอนุชา กล่าว 

487064

จากนั้นตนก็พยายามบอกกับ น.ส.อรวรรณ ไปว่า "ไม่ต้องกลัวนะ ไม่มีใครทำอะไรน้อง" และตนก็กล่อมให้เขาใจเย็นลง เพราะเกรงว่าหาก น.ส.อรวรรณ ไม่เชื่อฟัง อาจจะขับรถต่อไปชนกับรถคันอื่นได้ ในขณะนั้นตนคิดได้อยากเดียวคือต้องประวิงเวลาเอาไว้ เพื่อรอให้ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เดินข้ามมาช่วยพูดคุยกับ น.ส.อรวรรณ จนตำรวจมาถึงในที่เกิดเหตุ แล้วตำรวจก็ให้ตนถ่ายคลิปเหตุการณ์เอาไว้เป็นหลักฐาน 

อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวยอมรับว่าตกใจมากหลังจากที่คลิปหลุดออกไป เนื่องจากว่าคลิปที่ตนถ่ายเอาไว้ ตนส่งให้ตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์เท่านั้น และก็คิดว่าเรื่องนี้จะจบตั้งแต่วันเกิดเหตุแล้ว เพราะหลังเกิดเหตุได้มีการพูดคุยและขอโทษตกลงกันแล้วที่โรงพัก

686077

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี โทรศัพท์สอบถาม น.ส.อรวรรณ เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุตนได้เดินทางไปกินเลี้ยงปีใหม่กับญาติที่อยู่คลองสอง ลำลูกกา ซึ่งตนเพิ่งจะเคยไปเป็นครั้งแรกจึงไม่คุ้นชินเส้นทาง และด้วยความที่ตนดื่มมาเยอะ จึงทำให้ขับรถสวนเลนออกไป ตนยอมรับว่าตอนนั้นก็รู้สึกตกใจว่าทำไมถึงมีรถสวนทางมา จึงพยายามขับรถเข้าข้างทาง ตนยอมรับว่าตอนนั้นเครียดและเสียสติจากอาการมึนเมา คิดว่าคนที่อยู่รอบข้างเป็นมิจฉาชีพ จึงได้ขัดขืนเจ้าหน้าที่ตำรวจดังที่ปรากฏในคลิป

500749

"เจ้าของรถกระบะที่จอดขวางหน้ารถ บอกตรง ๆ ว่าจำไม่ได้เขาเป็นใคร คิดว่าเขาเป็นมิจฉาชีพ ซึ่งในคลิปก็เห็นอยู่ว่าตัวเราร้องโวยวายให้คนช่วย ส่วนการทุบรถของนายอนุชา อันนี้ก็จำไม่ได้จริง ๆ ว่าทำอะไรลงไปบ้าง สำหรับการด่าตำรวจก็ยอมรับว่าเสียสติจำอะไรไม่ได้ ไม่รู้ว่าเขาเป็นตำรวจ คิดว่าทุกคนเป็นมิจฉาชีพทั้งหมด และที่เราเองไปถามตำรวจว่า กูลูกใคร ก็เป็นคำพูดของคนเมาไม่มีนัยอะไร แล้วก็ไม่ได้ตั้งใจจะเบ่งว่าเป็นลูกใคร เพราะเราเองก็เป็นลูกคนธรรมดา" น.ส.อรวรรณ กล่าว 

อย่างไรก็ตาม ตนก็ตกใจมาก ๆ ที่วันนี้คลิปหลุดออกไปจนกลายเป็นข่าวใหญ่โต เพราะตนคิดว่าเรื่องทั้งหมดจบลงตั้งแต่วันที่เกิดเหตุแล้ว เนื่องจากวันเกิดเหตุตนก็ยอมรับผิดทุกอย่าง และให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งวันเกิดเหตุตนก็ได้รับโทษ โดยการนอนในห้องขังไปแล้ว 1 คืน ส่วนวันนี้ตนจะเดินทางไปที่โรงพักกับแม่ เพื่อไปขอโทษตำรวจที่อยู่ในคลิป ตนยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจด่าตำรวจหรือทำร้ายตำรวจ และตนขอยอมรับว่าในวันเกิดเหตุเมาและขาดสติจริง ๆ 

492705

จากนั้นเวลา 17.40 น. น.ส.อรวรรณ พร้อมกับแม่ได้เดินทางมามอบกระเช้าขอโทษ ด.ต.กิตติธัช พันสำโรง ผบ.หมู่งานจราจร สภ.คูคต โดยมีพ.ต.ท.จิรพัฒน์ ศรีเดช รองผกก.สภ.คูคต เป็นคนกลางการรับมอบกระเช้า ซึ่งบรรยากาศการมอบกระเช้า น.ส.อรวรรณ ก็ได้ยกมือไหว้ขอโทษ ด.ต.กิตติธัช ก่อนจะยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจ

ทั้งนี้ ด.ต.กิตติธัช ก็ได้รับไหว้พร้อมให้อภัย น.ส.อรวรรณ ก่อนจะกล่าวว่าตนไม่ได้โกรธแค้นอะไร ตั้งแต่วันแรกอยู่แล้ว เพราะสิ่งที่ทำลงไปในวันเกิดเหตุคือหน้าที่ ตำรวจไม่มีสิทธิ์ที่จะโกรธแค้นประชาชน

196179

น.ส.อรวรรณ ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากนี้ตนจะขอปรับปรุงตัวเองและแก้ไข้ในสิ่งที่ทำผิดพลาด ตนขอโทษตำรวจ ขอโทษพ่อแม่ และขอโทษสังคมที่ทำให้เดือดร้อน เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นตนยอมรับผิดทุกข้อกล่าวหา ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเล่าให้ทีมข่าวฟังไปแล้ว วันนี้ตนตั้งใจนำกระเช้ามาขอโทษตำรวจ และอยากให้สังคมยกโทษให้ตนด้วย

490645

ขณะที่แม่ของ น.ส.อรวรรณ กล่าวสั้น ๆ ว่า ในวันเกิดเหตุตนไม่รู้เลยว่าลูกสาวไปทำอะไรมาบ้าง ตนมารู้ก็ตอนที่คลิปวิดีโอถูกปล่อยออกมาแล้ว ส่วนรายละเอียดลูกสาวให้สัมภาษณ์ไปหมดแล้ว ตอนนี้ตนเครียดมาก ๆ จึงพูดอะไรไม่ออก ทั้งนี้ ก่อนตนและลูกสาวจะเดินทางกลับบ้าน ก็จะไปขอโทษและขอบคุณนายอนุชา เจ้าของรถกระบะที่จอดรถช่วยเหลือในวันเกิดเหตุ ส่วนเรื่องคดีตำรวจได้นัด น.ส.อรวรรณ ส่งตัวไปฟ้องศาลจังหวัดปทุมธานี

868779

อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.จิรพัฒน์ ศรีเดช รองผกก.สภ.คูคต กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนก็ขอให้เป็นอุทาหรณ์ สำหรับผู้ที่ใช้รถใช้ถนนให้ระมัดระวัง ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ยังโชคดีที่มีตำรวจเข้าไประงับเหตุไม่ให้เกิดเหตุบานปลาย ทั้งนี้ ตนก็อยากจะให้สังคมยกโทษให้กับ น.ส.อรวรรณ เพราะวันนี้ก็ได้เข้ามาแสดงความบริสุทธิ์ใจโดยการมาขอโทษตำรวจแล้ว ส่วนเรื่องคดีความก็คงต้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม