แผงกุ้งเดือด! แค้นขายถูกกว่ายิงยกครัวดับ 2 เจ็บ 3 เผยเบาะแสทิ้งรถหนีซุกเกาะ (คลิป)

7 ม.ค. 65

วันที่ 7 ม.ค. 65 ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินฯ 191 ภูเก็ต รับแจ้งเหตุยิงกันขึ้นที่ตลาดเกษตร ข้างห้างโรบินสัน อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา หลังได้รับแจ้งตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต เดินทางเข้าไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบร่างชายอายุประมาณ 40 ปีนอนหายใจรวยรินบนพื้น เจ้าหน้าที่พยายามปั๊มหัวใจช่วยยื้อชีวิต แต่ช่วยไว้ไม่ได้ บาดเจ็บ 3 ราย และเสียชีวิต 2 ราย

601508

ผู้ก่อเหตุคือ นายมณีนพ หมีทอง อายุ 49 ปี ปมเหตุเกิดจากพ่อค้าขายกุ้ง 2 คนมีแผงค้าติดกัน และยังขายตัดราคากัน ทำให้เกิดปากเสียงทะเลาะกันบ่อยครั้ง สุดท้ายมีฝ่ายหนึ่งทนไม่ไหว ถือปืนบุกตลาดจ่อยิงคู่อริเสียชีวิต 1 ราย และมีผู้ถูกลูกหลงบาดเจ็บสาหัสอีก 4 ราย

272353

ด้านนางกาญจนา จุนทอง อายุ 48 ปี ภรรยาของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า สำหรับกรณีที่เกิดขึ้น ตนยืนยันว่าหลังจากที่สามีของตนได้ก่อเหตุดังกล่าว ตนไม่ได้มีการช่วยเหลือพาสามีหลบหนี เหมือนตามที่มีข่าวถูกเผยแพร่ออกไปก่อนหน้านี้

288230

โดยขณะเกิดเหตุช่วงเช้าวันนี้ เวลาประมาณ 07.00 น. ทางครอบครัวของตนและครอบครัวของคู่กรณีก็ทำการขายกุ้งอยู่แผงติดกันเหมือนกันปกติทุกวัน แต่ในวันนี้ก่อนเกิดเหตุมีลูกค้าได้เดินมาระหว่างกลางร้านของตนและคู่กรณี ก่อนสอบถามราคากุ้ง ซึ่งตนก็เป็นคนตอบว่าราคากุ้งร้านตนราคาเท่าไร ก่อนที่ลูกค้าจะซื้อสินค้าและเดินออกจากหน้าร้านไป

107189

แต่เมื่อลูกค้าเดินออกจากหน้าร้านไป ทางนางอาพร หรือ แต๋ว ผู้บาดเจ็บ และทางฝ่ายคู่กรณี กลับพูดจาแดกดันตนและสามี ในทำนองว่าครอบครัวตนไปขายของตัดกำไร ตัดหน้าร้านของเขา ซึ่งในขณะนั้นสามีตนก็เป็นคนที่ห้ามบอกกับตนว่าให้ต่างคนต่างขายของไป เพราะก่อนหน้านี้ตนและครอบครัวคู่กรณีก็มักจะมีปากเสียงในลักษณะดังกล่าวอยู่บ่อยครั้ง ก่อนที่สามีจะขอตัวกลับบ้านก่อน

773996

ซึ่งในตอนแรกตนก็เข้าใจว่าสามีคงเหนื่อยเลยอยากจะไปนอนพักเอาแรง โดยที่ไม่คิดว่าช่วงเวลา 11.00 น. สามีจะย้อนกลับมาที่ตลาด พร้อมกับอาวุธปืน ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นของใคร ก่อนกระหน่ำยิงครอบครัวของคู่กรณีตามภาพวงจรปิดที่ปรากฏ ซึ่งขณะเกิดเหตุตนยืนยันว่า ตนพยายามห้ามแล้ว แต่ก็ไม่ทัน ก่อนสามีจะเดินออกไปขึ้นรถรถกระบะ ฟอร์จูนเนอร์สีดำหลบหนีไป ขณะนี้ทางครอบครัวเองก็ยังไม่สามารถติดต่อได้

cg

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนก็รู้สึกเสียใจและอยากขอโทษทางคู่กรณี ปมเหตุตนมองว่าสามีคงจะได้รับแรงกดดันสะสมจากทางคู่กรณีเกือบทุกวัน เป็นเหตุให้ทนไม่ไหวตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว หลังจากเกิดเหตุตนได้เดินทางมาให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นที่เรียบร้อย หากมีโอกาสได้พูดกับสามีที่กำลังหลบหนีอยู่ในขณะนี้ ตนก็อยากบอกให้สามีรีบกลับมามอบตัว ผิดก็ว่าไปตามผิด ส่วนเรื่องคดีค่อยมาช่วยกันหาทางแก้ไข

242525

นางนริศรา จุนทอง อายุ 39 ปี น้องสาวผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ปกติแล้วผู้ก่อเหตุเป็นคนนิสัยดี ไม่เคยมีปัญหาอะไรกับใคร หากลองถามพ่อค้าแม่ค้าในตลาดก็จะทราบว่าผู้ก่อเหตุจริง ๆ แล้วเป็นคนใจดี ใจเย็นนิ่งยิ่งกว่าน้ำ แต่ปมเหตุที่เกิดขึ้นตนในฐานะน้องสาวยืนยันได้ว่าผู้ก่อเหตุคงหมดความอดทนอดกลั้น เนื่องจากตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา พี่ชายและคู่กรณีที่ประกอบอาชีพขายของทะเลในตลาดแผงใกล้กัน มักจะมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกันบ่อยครั้ง เรื่องถูกกล่าวหาว่าพี่ชายไปขายของตัดราคาบ้าง ขายของแย่งลูกค้าเขาบ้าง ที่ผ่านมาพี่ชายก็ไม่เคยติดใจเอาความ กระทั่งมาเกิดเหตุการณ์ล่าสุด ตนจึงมองว่าคงเป็นความอดกลั้นที่สะสมมานาน

อย่างไรก็ตาม คนในครอบครัวก็อยากขอโทษผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ สำหรับการกระทำของพี่ชายในครั้งนี้ แต่ก็อยากให้มองความ 2 ด้านว่าความเป็นจริงแล้วต้นสายปลายเหตุเป็นอย่างไร ขณะนี้ยอมรับว่าหลังเกิดเรื่องยังไม่สามารถติดต่อพี่ชายได้ เนื่องจากพี่ชายไม่ได้นำโทรศัพท์มือถือติดตัวไปด้วย หากพี่ชายได้ติดตามข่าว ตนก็อยากจะให้พี่ชายรีบเดินทางกลับมามอบตัว พร้อมทั้งอยากฝากบอกไปถึงคนในครอบครัวของคู่กรณีว่าไม่ต้องเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะทางฝ่ายตน หากผิดก็ว่าไปตามผิด

881364

หลังจากนั้นช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. ตำรวจชุดสืบ สภ.เมืองภูเก็ต ได้ติดตามสำรวจพื้นที่เส้นทางหลบหนีของผู้ก่อเหตุ จนไปพบว่าผู้ก่อเหตุหลังก่อเหตุจากตลาดเกษตร ข้างห้างโรบินสัน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้ขับรถยนต์มุ่งหน้าไปยังท่าเรือแหลมหิน ก่อนจอดรถทิ้งไว้ เพื่อนั่งเรือข้ามฟากไปยังเกาะมะพร้าว จ.ภูเก็ต เพื่อทำการหลบหนีต่อ ตำรวจจึงได้ตระเวนติดตามคอยเฝ้าระวัง

688235

นายจตุรงค์ ชัยกุล อายุ 35 ปี คนขับเรือ ท่าเรือแหลมหิน เปิดเผยว่า ช่วงเวลา 12.00-13.00 น. ตนรอรับส่งนักท่องเที่ยวนั่งเรือข้ามเกาะ ได้พบเห็นผู้ก่อเหตุขับรถกระบะ ฟอร์จูนเนอร์สีดำขับมาจอดไว้ที่ท่าเรือ มาคนเดียว ก่อนจะวานให้ตนช่วยไปส่งที่เกาะมะพร้าว พร้อมกับนักท่องเที่ยวรายอื่นที่เดินทางมาขึ้นเรือด้วย ในราคา 20 บาท ซึ่งตนก็ไม่ได้เอะใจ และขับเรือไปส่งเหมือนนักท่องเที่ยวคนอื่นตามปกติ

277159

กระทั่งมาทราบข่าวในภายหลัง มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาสอบถามข้อมูลจึงทราบว่าผู้ก่อเหตุที่มาขึ้นเรือตนนั้น ไปก่อเหตุยิงคนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บมา ตนก็รู้สึกตกใจเพราะหากตนรู้ก่อนหน้าตนคงจะไม่ไปส่งผู้ก่อเหตุ และรีบประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เขาทำการควบคุมตัวโดยเร็ว

274421435995692996

นางกัญนิกา เทพณรงค์ หรือ ติ๋ม อายุ 54 ปี ญาติผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายมณีนพ หมีทอง อายุ 49 ปี ปกติแล้วผู้ก่อเหตุจะเปิดแผงกุ้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับร้านของผู้เสียชีวิต แต่เนื่องจากคู่กรณีทั้ง 2 ร้านขายสินค้าเหมือนกัน ทำให้เกิดความไม่พอใจกัน ต่างฝ่ายต่างขายของตัดราคากันมาตลอด มักทำให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งกันเรื่อยมา แต่ไม่มีความรุนแรง

393212

กระทั่งล่าสุดวันนี้ผู้ก่อเหตุเดินถือปืนเข้ามาในตลาด ก่อนจะยิงปืนใส่ผู้เสียชีวิต และกระสุนปืนไปโดนผู้ที่อยู่ใกล้เคียงอีก 4 คน จนได้รับบาดเจ็บ โดยหลังก่อเหตุ นายมณีนพก็ได้ขึ้นรถกระบะ ฟอร์จูนเนอร์สีดำหลบหนีไป

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนตัวในฐานะครอบครัวของผู้เสียชีวิต มองว่าผู้ก่อเหตุทำเกินไป เพราะถึงแม้ว่าจะขายสินค้าเหมือนกันและเคยมีการขายสินค้าตัดราคากันบ้าง แต่ก็น่าจะมองว่าเป็นเรื่องธุรกิจ ไม่ใช่คิดแต่ว่าตัวเองจะขายอยู่ฝ่ายเดียว และมาก่อเหตุดังกล่าวแบบนี้ ทั้งนี้ ปมเหตุการณ์ลงมือตนเชื่อว่าผู้ก่อเหตุน่าจะมีความคิดอยากจะเป็นใหญ่ในตลาด คิดจะขายของหารายได้เพียงผู้เดียว ใครที่คิดขายของจะขายดีกว่าเจ้าตัวไม่ได้ ทำให้ตัดสินใจก่อเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น สุดท้ายนี้ ก็อยากจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีเอาผิดผู้ก่อเหตุถึงที่สุด ให้สาสมกับการกระทำ

180910

ด้านนายน้ำ ผู้เห็นเหตุการณ์ ระบุว่า ตนมองว่าเป็นพฤติกรรมที่อุกอาจเกินไป เนื่องจากจุดเกิดเหตุเป็นพื้นที่ตลาด มีประชาชนเดินทางเข้ามาเลือกซื้อสินค้ากันเป็นจำนวนมาก ก็ไม่สมควรที่จะใช้อาวุธปืนก่อเหตุในลักษณะนี้ ทั้งนี้ หากตนมีโอกาสได้พูดกับทางผู้ก่อเหตุก็อยากจะบอกว่าควรใจเย็นลง เป็นพ่อค้าแม่ค้าทำธุรกิจค้าขายก็จะต้องมีเพื่อนร่วมอาชีพมาแข่งขันด้วยเป็นเรื่องปกติ ควรมีสติและใจเย็นกว่านี้ จะได้ไม่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส