ทุบพังบ้านลูกหนี้ 3 รอบ ขู่ถล่มอีก - เหยื่อซวย แค่เซ็นกู้แทนคนอื่น (คลิป)

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ว่า "ช่วยกันแชร์ ให้เป็นข่าวใหญ่กันด้วยนะ เงินกู้มาทุบบ้าน แต่คนกู้ไม่ได้อยู่บ้านนี้ ทำกันขณะนี้เลย ห้องน้ำมันเอาไปทุบ เลยครับจังไรจิงๆ" พร้อมเผยแพร่ภาพบ้านหลังหนึ่งในจังหวัดนครปฐม ถูกชายฉกรรจฉ์ มากกว่า 2 คน เดินบุกเข้าไปในบ้าน ทำลายข้าวของพังเสียงหาย ระหว่างนั้นจากภาพในคลิปที่เห็นมีเสียงเด็กร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว นอกจากนี้ ยังมีคนในบ้านส่งเสียงร้องด้วยความตกใจ ไม่นาน ชายฉกรรจ์ดังกล่าวก็เดินออกไปขึ้นรถกระบะ ที่จอดไว้ในซอยดังกล่าว แล้วขับรถออกไป

วันที่ 20 ธ.ค. 61 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ บ้านในซอยหลังวัดใหญ่ อ.เมือง จ.นครปฐม นายสิปปภาส แร่ดี เจ้าของบ้าน ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (19 ธ.ค.) เวลาประมาณ 00.00 น. ตนและครอบครัวหลับอยู่ภายในบ้าน จู่ ๆ ได้ยินเสียงคนมาทุบกระจกบ้าน และใช้ค้อนปอนด์ทุบประตูพังเสียหาย เพื่อที่จะล้วงมือเข้ามาบิดลูกบิดเพื่อเปิดบ้านเข้าไป โดยมีชายฉกรรจ์ ประมาณ 7-8 คน ใส่หมวกไอ้โม่งปิดบังใบหน้า อาวุธครบมือ มีทั้งไม้เบสบอล ค้อนปอนด์ มาถึงไม่พูดอะไร ตะโกนถามหาว่า "เอ๊ะอยู่ไหน มันอยู่ที่ไหน" ตนก็พยายามบอกว่า "บ้านนี้ไม่มีคนชื่อเอ๊ะ" แต่กลุ่มคนร้ายก็ไม่ฟัง ยังใช้ค้อนและไม้เบสบอล ทุบกระจก ตู้เย็น เครื่องซักผ้า พังเสียหายทั้งหมด โดนกลุ่มชายบอกทิ้งท้ายว่า “อีก 3 วันถ้าพวกมึงยังไม่เอาเงินมาคืน ก็จะมาอีก”

เมื่อถามว่าห้องกระจกหน้าบ้านมีใครอยู่บ้าน นายสิปปกรบอกว่า เมื่อคืนที่ผ่านมามีลูกสาวและเด็ก พร้อมน้องที่นอนอยู่ในห้องนั้น ทุกคนกำลังหลับอยู่ เหตุการณ์เกิดขึ้นไวมาก เพียง 5 นาทีเท่านั้น กลุ่มคนร้ายก็ออกจากบ้านไป ตนเองก็ยังตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าจะเจอเรื่องแบบนี้ ทั้งที่ตนไม่ได้เป็นคนก่อเรื่องอะไรเลย ครั้งนี้ยังโชคดีที่คนในบ้านไม่ได้เป็นอะไร เนื่องจากที่คนร้ายตีไปมีแต่กระจกและคนที่นอนอยู่ก็มีแต่เด็ก โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ตนไม่เข้าไปสู้ ก็เพราะกลุ่มคนดังกล่าวมากันเป็นจำนวนมาก ตนก็ห่วงว่าจะเอาชีวิตไม่รอดเหมือนกัน

นายสิปปภาส เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้มีเพื่อนบ้านที่ชื่อนายเอ๊ะ มาขอยืมเงินแม่ของตน ด้วยความสงสารแม่ก็เลยให้ไป แต่สุดท้ายนายเอ๊ะก็ไม่ได้คืน กระทั่งวันหนึ่งนายเอ๊ะบอกว่าจะกู้เงินนอกระบบ เพื่อนำเงินมาคืนให้กับแม่ของตน แต่ต้องให้แม่เป็นคนที่ช่วยค้ำประกัน สุดท้ายแม่ตนก็หลงเชื่อเซ็นค้ำประกันให้ ทั้งนี้ กลุ่มคนทวงหนี้ เคยมาที่บ้านแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกมาช่วงประมาณ 2-3 เดือนที่ผ่านมา อาวุธครบมือ ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ที่ผ่านมา ยอมรับขณะนี้ครอบครัวของตนผวากันหมดทั้งบ้าน

ด้าน นิวาริน ตันติภิรมย์ ชาวบ้านในพื้นที่ เผยว่า เมื่อวานนี้ เวลาประมาณเที่ยงคืน ตนนั่งอยู่ในบ้าน ได้ยินเสียงเหมือนคนมาทุบกระจก ตีประตู ตอนแรกตนก็คิดว่าเพื่อนบ้านมีการทะเลาะตบตีกัน และได้ยินเสียงผู้ชายมากันหลายคน ตนจึงแอบดูอยู่ที่หน้าต่างของบ้าน ไม่กล้าที่จะออกไปข้างนอกเพราะว่ากลัวอันตราย เมื่อส่องดูพบว่ามีชายฉกรรจ์ 7-8 คนส่วมใส่ไอ้โม่งปิดบังใบหน้า ถือค้อนปอนด์ ไม้เบสบอล วิ่งอยู่ในซอยขึ้นรถกลับออกไป เมื่อเห็นว่าเหตุการณ์ด้านนอกสงบแล้ว ตนจึงออกมาดูข้างนอก พบว่าสภาพบ้านที่เกิดเหตุ พังเสียหายอย่างมาก หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ตนรู้สึกตกใจมาก และยังผวากับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะไม่รู้ว่ากลุ่มคนดังกล่าวจะย้อนกลับมาอีกเมื่อไร จึงต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้เร็วที่สุด เพื่อที่ชุมชนจะได้อยู่โดยไม่ต้องหวาดระแวง เพราะก่อนหน้านี้ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา กลุ่มคนร้ายทวงหนี้โหดเคยบุกมาแล้วพร้อมอาวุธ โดยกลุ่มคนร้ายตะโกนออกมาว่า “ใครไม่เกี่ยวให้เข้าบ้านไป ถ้างั้นเจอดี” หลังจากนั้นทุกคนก็ต่างกันพาเข้าบ้านปิดประตูเงียบกันหมด จากนั้น ทีมข่าวสำรวจบ้านของนายเอ๊ะ ผู้กู้ยืมเงินแก๊งทวงหนี้โหด ปรากฏว่าไม่มีใครอยู่บ้าน และบ้านหลังดังกล่าว เป็นบ้านของภรรยาเก่าที่เลิกลากันไปนานแล้ว เมื่อถามหาคนละแวกใกล้เคียง ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า นายเอ๊ะหายออกไปจากชุมชนนานกว่า 7-8 เดือนแล้ว

จากนั้น นายเด่น บุญศรี ชายพิการขาหัก ขายลูกชิ้นทอดในชุมชน เปิดใจว่า ตนเองรู้จักกับนายเอ๊ะปีกว่าแล้ว เนื่องจากเมื่อก่อนตนขายลูกชิ้นทอด นายเอ๊ะขายก๋วยเตี๋ยวอยู่ที่หน้าโรงเรียนใกล้กัน นายเอ๊ะเคยปรึกษากับตนว่า มีปัญหาครอบครัว ลูกต้องใช้เงิน จึงขอยืมเงินตน ด้วยความสงสารจึงให้ไป ครั้งละ 2,000 - 3,000 บาท แต่สุดท้ายนายเอ๊ะก็ไม่เอามาคืน ทวงไปก็เงียบ กระทั่งต้นปีที่ผ่านมา นายเอ๊ะ บอกกับตนว่า จะให้ตนกู้เงินนอกระบบให้หน่อย แต่ว่าใช้ชื่อของตน และเมื่อได้เงินกู้มา เจ้าตัวก็จะใช้หนี้เก่าที่เคยยืมตนไว้ด้วย ตนเองก็หลงเชื่อ เมื่อเซ็นสัญญาเงินกู้ไปแล้ว นายเอ๊ะก็เอาเงินต้นที่ยืมตน มาใช้คืนให้จริง แต่เจ้าตัวส่งดอกรายวันได้ไม่ถึง 2 เดือนก็หายตัวไป ไม่สามารถติดต่อได้ แต่ที่น่าเจ็บใจมากคือ ตนทราบทีหลังว่านายเอ๊ะ นำเงินที่กู้ไปเล่นการพนันจนเป็นหนี้ ไม่มีเงินที่ไปใช้คืน ตอนนี้ตนต้องมาใช้หนี้ที่ไม่ได้ก่อไว้ เป็นเงินกว่า 15,000 บาท กับเจ้าหน้านอกระบบ 2 เจ้าด้วยกัน ทั้งนี้ เมื่อเกิดเรื่องที่ทุบบ้าน ตนเองก็กลัวว่าจะมาเกิดกับตนหรือไม่ แต่ก็พูดคุยกับเจ้าหนี้แล้ว ว่าจะใช้หนี้คืนให้ ซึ่งเป็นเจ้าหนี้คนละคนกัน สุดท้ายตนอยากให้นายเอ๊ะ กลับมาชดใช้หนี้ แต่ตนก็ไม่หวังมาก หากไม่ได้ก็ถือว่าทำบุญ แต่ขออย่าได้มาเจอกันอีกเลย