ผัวหึงโหด ฆ่าทอมติดพันเมีย พ่อช่วยแฉแอบดูดคอเป็นจ้ำ - ผีเฮี้ยนโผล่หลอน (คลิป)

จากกรณีนายวิทยากร แก้วมา อายุ 36 ปี รับจ้างก่อสร้างใช้อาวุธปืนยิง น.ส.รัชนีกร หรือ เพลิน สาวทอม อายุ 32 ปี จนเสียชีวิต เนื่องจากหึงหวงที่ภรรยามีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับสาวทอม

วันที่ 19 ธ.ค. 61 ตำรวจ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ได้คุมตัว นายวิทยากร แก้วมา ผู้ก่อเหตุ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยให้ผู้ต้องหาได้ชี้จุด ตั้งแต่เริ่มนำอาวุธปืนออกจากบ้าน และเดินไปประมาณ 30 เมตร ซึ่งเป็นบ้านที่สาวทอมทำงานอยู่ และเป็นจุดเกิดเหตุ และชี้จุดที่ยืนยิงปืน ซึ่งเป็นมุมห้องของบ้าน โดยผู้ก่อเหตุยืนห่างจากผู้ตายประมาณ 1 เมตร

พ.ต.อ.ศราวุธ สวัสดิชัย ผกก.สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เปิดเผยว่า นายวิทยากร ผู้ก่อเหตุ รับสารภาพทั้งหมด ซึ่งเหตุเกิดจากความหึงหวง เนื่องจากภรรยาของผู้ก่อเหตุมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับผู้ตาย โดยนายวิทยากรให้ปากคำว่า ช่วงหลังภรรยามีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป อีกทั้งยังพบแชตสนทนาเชิงชู้สาวระหว่างภรรยากับผู้ตาย และเคยไปตักเตือนผู้ตายแล้ว จนกระทั่งวันเกิดเหตุ นายวิทยากรได้ไปส่งภรรยานั่งรถกลับ จ.สุรินทร์ ที่คิวรถ ก่อนจะย้อนกลับมาก่อเหตุ อย่างไรก็ตาม นายวิทยากรยอมรับว่าก่อนวันก่อเหตุ 1 วัน ได้ทะเลาะกับผู้ตาย แต่ไม่มีเหตุรุนแรงขึ้น จนกระทั่งอีกวันที่ยังมีอารมณ์โกรธ จึงได้มุ่งเข้าไปยิงผู้ตายในโรงงาน ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุ เป็นปืนไทยประดิษฐ์ ลูกโหม่เก่า ไม่มีทะเบียน กระสุนขนาด .22 ซึ่งเก็บได้จากเหตุน้ำท่วมตอนปี 54 แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อเรื่องปืน เบื้องต้นแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และครอบครองอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาไปในที่สาธารณะ

นายทรงยศ วิชัย เพื่อนร่วมงานของผู้ตาย เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุ วานนี้ 18 ธ.ค. 61 เวลาประมาณ 15.00 น. นายวิทยากรได้เดินเข้ามาในบ้าน อาจจะเจ็บเก็บปืนไว้ในเสื้อ และเดินตรงไปหาสาวทอมผู้ตาย และยืนห่างจากผู้ตายประมาณ 1 เมตร แล้วชักปืนออกมาจากข้างหลัง ยิง 1 นัด แต่ไม่ถูกสาวทอม เนื่องจากสาวทอมย่อตัวหลบ หลังจากนั้น นายวิทยากรก็หันตามไปยิงอีก 1 นัด ตรงเข้าหัวขมับซ้ายของสาวทอม ซึ่งในขณะนั้นสาวทอมได้พูดคำว่า "ลูกพี่" เพื่อขอความช่วยเหลือจากนายจ้าง ซึ่งนายจ้างของตนพยายามยกมือไหว้และขอให้หยุด แต่นายวิทยากรได้หันปืนมาทางนายจ้างพร้อมลั่นไกอีก 1 นัด แต่กระสุนขัดลำปล้อง ทำให้นายวิทยากรหันกลับ และเดินอ้อมโต๊ะไปยิงสาวทอมที่ท้ายทอยเกือบกลางหัวอีก 1 นัด ทุกคนที่ทำงานต่างตกใจและวิ่งหนี บางคนก็นั่งอยู่กับที่ เพราะลุกไม่ขึ้นด้วยความตกใจ และไม่กล้าเข้าไปช่วย เพราะกลัวจะถูกลูกหลง ซึ่งตนก็มองว่านายวิทยากรทำรุนแรง และไม่ฟังเหตุผล เพราะตนเห็นว่าสาวทอมเป็นคนนิสัยดีมาก ไม่ควรมาตายเช่นนี้ เมื่อตนเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดก็รู้สึกสยดสยอง อย่างไรก็ตาม คนภายในโรงงานก็ไม่ได้สังเกตว่าภรรยาของนายวิทยากร และสาวทอมมีความสัมพันธ์ชู้สาวกันหรือไม่ เพราะทั้งคู่พูดคุยกันในแชตเฟซบุ๊ก

นอกจากนี้ หลังสาวทอมตายไปไม่นาน เมื่อคืนเวลาประมาณเที่ยงคืน ขณะที่ทุกคนหลับพักผ่อนอยู่บนชั้น 2 ก็ได้ยินเสียงเหมือนคนโยนของอยู่ที่ชั้น 1 อีกทั้งคนที่อยู่นอกบ้าน ยังเห็นมีผู้หญิงลักษณะคล้ายผู้ตาย เดินวนเวียนอยู่ที่บริเวณที่สาวทอมตาย อยู่ในบ้าน ซึ่งตนก็รู้สึกค่อนข้างกลัว ทุกคนได้ร่วมกันซื้อปลาดุกย่าง ข้าวเหนียว และน้ำอัดลม พร้อมปักธูป 1 ดอก และตั้งไว้จุดที่สาวทอมเสียชีวิต เพื่อเซ่นไหว้วิญญาณ

นายคมศิลป์ แก้วมา พ่อของนายวิทยากร ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ตนไม่เคยรู้รายละเอียดหรือปมต่าง ๆ ในครอบครัวลูก เพราะถ้ารู้ก็คงห้ามปราม ลูกเป็นคนเงียบขรึม จึงไม่รู้ว่าในใจเขาคิดอะไร แต่ยอมรับว่าลูกของตนเป็นคนใจร้อน ถ้าคิดแล้วจะทำทันที ซึ่งตนคิดว่าถ้าตนกับแม่ได้ห้ามปราม เจ้าตัวก็คงจะไม่ก่อเหตุ ส่วนชนวนของการก่อเหตุนั้นเกิดจากปมหึงหวง เพราะลูกของตนพบข้อความการสนทนาของภรรยาและผู้ตายที่พูดคุยกันในเชิงชู้สาว เนื่องจากภรรยาของลูกและผู้ตาย ทำงานที่เดียวกันมาประมาณ 1 เดือน อีกทั้งในวันที่ภรรยาหายตัวไป ลูกของตนก็ไปพบว่าภรรยานอนอยู่คนเดียวในห้องของผู้ตาย และบริเวณลำคอมีรอยจ้ำแดงจากการดูด ซึ่งคิดว่าลูกของตนคงทนไม่ได้ที่ภรรยาไปมีความสัมพันธ์กับคนอื่น และตนก็คิดว่าหัวอกลูกผู้ชายทุกคน ก็คงรับไม่ได้ เพราะไม่ว่าจะเป็นทอมหรือเป็นผู้ชาย ถ้ามายุ่งกับภรรยาคนอื่น และเห็นหน้าเห็นตากันอยู่ทุกวัน ก็คงทนไม่ได้ ซึ่งเจ้าตัวรักภรรยามาก และยอมเขาทุกอย่าง

ขณะที่ วัดไผ่เหลือง จ.นนทบุรี สถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของ น.ส.รัชนีกร ผู้เสียชีวิต บรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงา มีเพียงญาติและเพื่อนร่วมงานอีกประมาณ 10 คน มาร่วมงาน และครอบครัวของผู้ก่อเหตุจะตามมาทีหลัง ซึ่งทุกคนยังอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจ

คุณนาง แม่ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนได้ทราบข่าวเมื่อวานว่าลูกถูกยิง จึงได้เดินทางมาจาก จ.ภูเก็ต เพื่อมาจัดงานศพให้ลูก ซึ่งตนไม่ได้เจอลูกมาประมาณ 2 ปี อีกทั้งไม่ค่อยได้พูดคุยกับลูก เพราะต่างคนต่างทำงาน จึงไม่ค่อยรู้เรื่อง หลังจากที่ลูกเสียชีวิต ตนก็รู้สึกช็อก เมื่อคืนที่ผ่านมาร้องไห้จนตาบวม และนอนไม่หลับ และกินข้าวไม่ลง กินขนมได้นิดหน่อย อย่างไรก็ตาม ครอบครัวผู้ก่อเหตุได้มาขอโทษตน ซี่งตนก็อภัยและยกโทษให้ แต่ตนยังรู้สึกคิดถึงลูกมาก และเสียใจที่ตอนมีชีวิตอยู่ไม่ค่อยได้ทำอะไรให้ลูก คุณนาง พูดทั้งน้ำตาว่า ทั้ง ๆ ที่ตนกำลังเก็บเงินสร้างบ้านให้ลูกไปอยู่ด้วย แต่เขาก็มาด่วนจากไปเสียก่อน