"โรสแมรี่" แจงโพสต์ทิ้งลูกแค่ประชดลูกดื้อ ท้อหมดตัวแล้ว "ต่าย" ห่วงซึมเศร้ารุมเร้า (คลิป)

1 ม.ค. 65

“โรสแมรี่ คาฮันดิง” อดีตนักร้องดังยุค 90 ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “โรสคงไม่สามารถดูแลพีเจได้ต่อไป สตอรี่แม่ลูกของเราคงจบเพียงเท่านี้ ขอบคุณที่รักและเอ็นดูพวกเราเสมอมา สิ้นเดือนแล้วเรากำลังจะไม่มีที่อยู่รถอาจจะโดนยึด แม้แต่ข้าวจะหากินยังยาก มีลูกคนนึงค่าใช้จ่ายมันสูง โรสแบกคนเดียวจนวันนี้โรสรู้แล้วว่ามันเกินตัว หมดบุญกันเท่านี้ จบเรื่องนี้ขอไปอยู่ไกลๆ และจบโซเชียลลาออกจากงานบันเทิงที่ไม่มีใครไม่มีคอนเน็คชั่นช่วยเหลือเรื่องงานทั้งๆ ที่โรสมีมือมีเท้าทำได้ทุกอย่าง ถึงไม่ได้ ตอนนี้ก็คงไม่ต่างจากตายทั้งเป็น โรสยอมแพ้ต่อโชคชะตา ไม่มีค่าบ้านค่าน้ำค่าไฟค่าข้าว สมเพชตัวเอง ลาก่อนนะคะทุกคน”

334247695885796880

ซึ่ง”โรสแม่รี่”ยังบอกต่อว่า ตนขอยอมแพ้ต่อโชคชะตา ไม่มีค่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าข้าว พรุ่งนี้จะเอาโทรศัพท์ เอามอเตอร์ไซค์ไปขายเพื่อมาเคลียร์ค่าใช้จ่าย จากนั้นจะใช้มือถือปุ่มกด ขายโทรทัศน์ ขายตับไตไส้พุงให้หมด และจะไม่ส่งลูกชายไปแคสติ้งงานอีก ไอแพดที่เอาไปจำนำก็จะปล่อยทิ้ง ไม่จ่ายค่าเน็ต เพราะคงขอลาออกจาก ร.ร. ไปอยู่วัดหรือไปอยู่กับคุณย่า ถ้าคุณย่าไม่รับก็ไปไว้วัดหรือไม่ก็สถานสงเคราะห์ ส่วนตัวเองก็จะเป็นคนเร่ร่อนหรือไม่ก็ขอทานถ้ามันสุด ตนไม่สู้อีกแล้ว

หลังจากที่โพสต์ไป 3 สเตตัสก็มีแฟนคลับ เข้ามาให้กำลังใจล้นหลามบอกให้”โรสแมรี่”สู้ต่อ อย่าเพิ่งคิดสั้น

986975

วันที่ 1 ม.ค. 65 "โรสแมรี่ คาฮันดิง" เปิดใจว่า ลูกชายไม่ยอมทำการบ้านมา 1 เดือนแล้ว เหมือนลูกชายรู้สึกเบื่อการเรียนออนไลน์ ซึ่งตนก็เป็นซึมเศร้าด้วย เลยถึงจุดที่ตนทะเลาะกับลูก เลยโพสต์สเตตัสตามที่ทุกคนเห็น เพื่อให้เขารู้ว่าความลำบากมันเป็นอย่างไร คนที่เขาไม่ได้เรียนหนังสือเขารู้สึกอย่างไร ซึ่งน้องพีเจสบายมากเกินไป ตนจึงได้โพสต์ไปว่าจะขายบ้านขายรถ เหมือนเป็นการประชดมากกว่า แต่ประเด็นที่ตนบอกว่าจะขายรถแล้วทิ้งลูกชาย ไม่ได้หมายความว่าจะโยนน้องทิ้งไป แต่แค่รู้สึกว่าตนควบคุมลูกชายไม่ได้ เพราะรักเขามากเกินไป จนเขาเสียคน ตนก็เลยโมโหมากจนปรี๊ดแตก

หลังจากที่ตนโพสต์สเตตัสไปก็มีทางญาติบอกว่าพร้อมที่จะดูแลน้องพีเจ ซึ่งทางลูกชายก็บอกว่าไม่ยอมไปเพราะรักคุณแม่ สัญญาว่าจะตั้งใจเรียน แต่เขาก็ยังไม่ยอมทำ ตนยอมรับว่าเครียดทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายและเครียดเรื่องลูกด้วย ซึ่งตนบอกว่าทุ่มเททุกอย่างเพื่อให้ลูกมีความสุขแบบเด็กคนอื่นได้กินทุกอย่างที่อยากกิน แต่ลูกชายไม่เห็นคุณค่าในตัวเองเลย ทำให้เจ้าตัวมีความรู้สึกดิ่งเกิดขึ้น ก็เป็นเรื่องลูกอย่างเดียวเลย

404968

ทั้งนี้ หมอบอกว่าตนมีอาการชัตดาวน์ตัวเอง 3 รอบแล้ว เวลาที่ตนเครียดอะไรมาก ๆ ตนจะน็อกไปเลย ซึ่งอาการก็เหมือนร่างกายตัดไปโดยไม่รับรู้อะไรแล้ว ตนก็กลัวตรงนี้เวลาโมโห อยากจะฝากลูกไว้กับคุณย่า หากเกิดอาการแบบนั้นขึ้น ลูกชายจะได้ไม่ต้องลำบาก แต่ยืนยันว่าไม่ได้ทิ้งพีเจแน่นอน ส่วนแนวทางในอนาคตจะอยู่รับงานต่อไป ตนทำได้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นการแสดงละคร มีแคสโฆษณา มีพากย์เสียง ส่วนที่ตนโพสต์ขายรถคือเรื่องจริง ถ้าหากไม่สามารถหาค่าใช้จ่ายมาได้ก็คงจะขายเ พราะไม่อยากให้ใครต้องมาช่วยเหลือ

142538

ส่วนเรื่องคอมเมนต์ที่ไม่น่ารัก มากล่าวหาว่าตนไม่รักลูก ตนขายลูกกิน ตนก็อยากจะฟ้อง เพราะกว่าที่เราทั้ง 2 คนจะผ่านมาได้คุณไม่เคยรู้ว่าเราต้องฝ่าฟันอะไรมาก่อน

528582

ด้าน "ต่าย สายธาร นิยมการณ์" รุ่นพี่คนสนิทของโรสแมรี่ เข้ามาร่วมให้กำลังใจ พร้อมประสานงานช่วยเหลือติดต่อทุกช่องทาง เปิดใจผ่านวิดีโอคอลว่า ตนเองนั้นรู้สึกเป็นห่วงเพราะช่วงหลังไม่ได้คุยกับโรสเลย แต่วันนี้มีข้อความขึ้นมาหน้าฟีด ตนเองรู้อยู่แล้วว่าโรสมีอาการของโรคซึมเศร้า ตนเองก็เลยส่งข้อความไปหาให้กำลังใจ ตนเองเข้าใจว่าเรื่องพวกนี้ละเอียดอ่อน ก่อนหน้านี้ได้มีการพูดคุยกับโรสแต่หลายปีมาแล้ว ซึ่งตนเป็นคนรับฟัง มีคุยให้คำแนะนำส่วนตัวบ้าง

ทั้งนี้ ตนอยากให้ทุกคนมองว่าโรสมีอาการซึมเศร้า และด้วยฤทธิ์ของยา อาจจะทำให้โพสต์อะไรโดยที่ไม่รู้ตัว อาจจะทานยาจนเบลอ และกำลังเกิดอาการซึมเศร้าอยู่ในขณะนั้น ถ้าหากไม่ทานยาทำอะไรจะขาดสติ อาการเหล่านี้หายได้จากการพบแพทย์ ไม่ใช่พบโซเชียลฯ หากอยู่กับผู้ป่วยซึมเศร้าแล้วมีอาการเช่นนี้ให้เรารับฟัง หากโพสต์เชิงคิดสั้นแบบนี้อย่าคิดว่าเรียกร้องความสนใจ ให้ดูแลอย่างใกล้ชิดแทน เพราะตนเองเชื่อว่าหากเคยคิดสั้นครั้งแรก ก็จะมีครั้งที่ 2 ตามมา

สุดท้ายฝากถึงโรสว่าหากไม่ว่าจะเจออะไร ให้โรสมีสติ หากคิดว่าไม่มีเงิน ไม่มีเพื่อน ให้นั่งมองหน้าลูกแล้วดึงสติ ไม่มีเพื่อนไม่เป็นไร ต้องมีเพื่อนที่ชื่อ "สติ" ไว้ตลอดเวลา สามัญสำนึกเวลาที่นึกถึงครอบครัวพ่อแม่ก็จะมีสติ หากโรสสบายใจ และพร้อมคุยก็ค่อยโทรหา ได้ทานยาก็ปกติ เป็นบทเรียนที่ไม่อยากให้โพสต์หรือทำอีก

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส