ผัวแฉขรก.ดังสานสัมพันธ์เมีย งัดแชตกล้วยสยิวขู่ฟันวินัย อึ้งโป๊ะแตกเพราะจีพีเอส (คลิป)

31 ธ.ค. 64

กรณีนายเอก (นามสมมติ) อายุ 32 ปี หนุ่มพนักงานฟรีแลนซ์ เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชน อ้างว่าภรรยาของตัวเอง คือ นางสาวมายด์ (นามสมมติ) อายุ 34 ปี ซึ่งแต่งงานจดทะเบียนสมรสและมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน อายุ 10 เดือน กระทั่งฝ่ายหญิงลงสมัครเล่นการเมืองท้องถิ่น เพื่อเป็น ส.อบต.เขตบางใหญ่ แต่ผลการเลือกตั้งไม่ได้รับการคัดเลือก และที่น่าเจ็บใจซ้ำสอง ฝ่ายชายจับได้ว่าภรรยาถูกนายนนท์ (นามสมมติ) เจ้าหน้าที่ข้าราชการระดับสูง แอบตีท้ายครัว หลังจากไปพบแชตคุยกันในไลน์เชิงและแอบมีสัมพันธ์กันมากกว่าคนร่วมงาน ทำให้นายเอก เสียใจเป็นอย่างมากนั้น

ล่าสุดวันที่ 31 ธ.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี จึงเดินทางไปพบกับนายเอก (นามสมมติ) อายุ 32 ปี หนุ่มพนักงานฟรีแลนซ์ โดยนายเอกได้นำหลักฐานซึ่งเป็นแชตการพูดคุยระหว่างนางสาวมายด์ กับนายนนท์ เจ้าหน้าที่ข้าราชการระดับสูง

234475245930

โดยข้อความในแชต ระบุทำนองว่า "คิดถึง รักหนู๋นะ หนู๋ก็รักพี่ คิดถึงพี่ ฝันดีนะ" และยังส่งภาพซึ่งเป็นหน้าอกไปให้กับทางด้านของนายนนท์ พร้อมกับระบุข้อความ “ทำนมมาอ้อยพี่…ดูตอบเข้าดิ” และพูดคุยถึงเรื่องรถมูลค่าประมาณ 700,000 บาท จะมีการซื้อและสัญญาว่าจะซื้อให้ บางแชตยังพูดคุยทำนองสองแง่สองงาม ระบุว่า "เดี๋ยวจะโดนบังคับให้ถอดกางเกงหรอก"

552591

นายเอก เปิดเผยว่า ตนคบหากับนางสาวมายด์ รวมแล้วปัจจุบัน 6 ปี และมีการจดทะเบียนสมรสเมื่อปี 62 มีลูกผู้หญิงด้วยกัน 1 คน เพิ่งคลอดได้ 10 เดือน และปัจจุบันฝ่ายหญิงก็ยังตั้งท้องอ่อน ๆ อีก 2 เดือน โดยเมื่อช่วงเดือนตุลาคม 64 ภรรยาได้ไปลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล และได้ไปรู้จักกับนายนนท์ ข้าราชการระดับสูง แต่ในตอนแรกตนก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะเข้าใจว่าเป็นการทำงานและเตรียมที่จะหาเสียง คงมีความจำเป็นต้องติดต่องานกัน

757957

กระทั่งเดือนพฤศจิกายน 64 ที่ผ่านมา ได้มีการลงคะแนนเสียงรับเลือกตั้ง ผลปรากฏว่าภรรยาของตนแท้เบอร์อื่น นับตั้งแต่ที่ลงรับสมัครเลือกตั้งจนถึงผลการเลือกตั้งออกมาชัดเจน สังเกตว่าภรรยาเริ่มเปลี่ยนไป ออกบ้านแต่เช้า กลับบ้านมืดค่ำ ไม่เคยสนใจลูกน้อยวัย 10 เดือน มีแต่ตนและญาติที่คอยช่วยกันเลี้ยง ซึ่งตอนแรกก็พอจะเข้าใจว่าเป็นการเตรียมการสำหรับการเลือกตั้ง แต่ระยะหลังก็ไม่ได้กลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิมแม้ว่าจะผ่านการเลือกตั้งแล้วก็ตาม

487189

ทั้งนี้ ที่สำคัญตนยังพบว่าในมือถือของภรรยา มีการแอบเก็บภาพของข้าราชการคนดังกล่าวเอาไว้ และเมื่อตนถามถึงเหตุผลภรรยาอ้างว่า เป็นการเก็บบันทึกเอาไว้เฉย ๆ แต่ไม่มีเจตนาอื่น ๆ และการที่ต้องติดต่อกับข้าราชการคนดังกล่าว เพราะเป็นเรื่องผลประโยชน์เกี่ยวกับการทำเอกสาร รวมถึงเป็นการขอข้อมูลเชิงลึกเพื่อจะมอบให้กับนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ที่ก่อนหน้านี้ภรรยาตนเคยไปเป็นอดีตเลขานุการ ฉะนั้นจึงเป็นเพียงแค่การติดต่อพูดคุยงานเท่านั้น 

211983

"ผมเริ่มสงสัยหนักขึ้นว่าทำไมภรรยาถึงดูเปลี่ยนไป เย็นชากับคนในบ้าน หมางเมินกันไม่สนใจแม้แต่ลูก ผมจำได้ว่าวันที่ 15 ธ.ค.64 เปิดระบบ GPS มือถือ และ GPS ของรถที่ภรรยาขับอยู่ ในครอบครัวมีการตกลงกันว่าจะมีการใช้ GPS ร่วมกัน เพื่อให้รู้ความเคลื่อนไหว และให้รู้ว่าแต่ละคนอยู่ที่ไหนบ้างเพื่อความปลอดภัย ปรากฏว่าวันนั้นรถของภรรยาไปจอดนิ่งอยู่ที่ปั๊มแห่งหนึ่งในพื้นที่นนทบุรี ผมจึงโทรศัพท์ไปหาภรรยา และสอบถามว่าทำไมถึงไปจอดรถที่ปั๊ม ภรรยาก็อ้างว่านัดคุยงานและมีกินข้าวกับลูกค้า ผมจึงเอะใจขับรถไปที่ปั๊ม แต่กลับไม่พบรถตามพิกัด GPS" นายเอก กล่าว 

550149477322

ทั้งนี้ ตนจึงได้โทรศัพท์สอบถามว่าสรุปอยู่ที่ไหน ภรรยาได้ส่งภาพร้านอาหารมาให้ พร้อมกับบอกว่านั่งกินข้าวอยู่ที่ร้านคุยงานกับลูกค้า ด้วยความที่ตนไม่เชื่อใจจึงพยายามตามหาร้านที่อยู่ใกล้กับปั๊ม นำภาพเมนูอาหารไปถามร้านอาหารใกล้เคียงแต่ก็ไม่มีเบาะแสของภรรยา ตนจึงสอบถามพนักงานในร้านที่อยู่ใกล้เคียงละแวกนั้นว่าเมนูดังกล่าวมีร้านไหนที่เมนูลักษณะอาหารคล้ายบ้าง จึงทราบรายละเอียดและรู้พิกัดร้านที่อยู่ในเมนู แต่เมื่อไปถึงก็ไม่เจอตัวภรรยาและลูกค้าที่อ้างว่ามานั่งกินข้าวด้วยกัน ตนจึงตัดสินใจสอบถามพนักงานในร้าน ซึ่งพนักงานยืนยันว่าภรรยาของตนได้เดินทางมาพร้อมกับข้าราชการคนดังกล่าว มีการนั่งกินข้าวอยู่ภายในร้าน และสั่งอาหารกลับบ้าน แต่ก่อนที่จะกลับใช้เวลานั่งพูดคุยกันอยู่ในรถนานพอสมควร ตนก็ไม่รู้ว่าการที่ผู้ชายกับผู้หญิงไปนั่งพูดคุยกันในรถ มีอะไรที่มากไปกว่านั้นหรือไม่

cg_9

หลังจากที่ตนเริ่มสงสัยหนักมากขึ้น ในวันที่ 17 ธ.ค.64 ตนจึงตัดสินใจที่จะเปิดมือถือของภรรยาตอนที่เขานอนหลับ ปรากฏว่าเจอข้อความหลังจากในวันที่ตนสะกดรอยตามไปที่ร้านอาหาร ข้อความมีการพูดคุยกับข้าราชการคนดังกล่าว ทำนองว่า “คิดถึงคนบนรถ, อยากจะถอดกางเกงให้พี่ จากข้อความดังกล่าวทำให้ตนเข้าใจว่าหลังจากที่มีการพากันขึ้นไปนั่งพูดคุยบนรถเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงมีข้อความลักษณะคิดถึง และจะมีการขอถอดกางเกงให้กัน และเมื่อตนเลื่อนดูข้อความ ก็ปรากฏข้อความ บอกรัก บอกคิดถึง แสดงความห่วงใยซึ่งกันและกัน ดังนั้น พฤติกรรมของภรรยากับข้าราชการคนดังกล่าวจึงไม่ใช่เป็นการพูดคุยในเชิงการทำงาน เพราะหากใครดูแชตก็คงดูออกว่าเป็นอย่างอื่น 

577182

"ที่สำคัญนะครับ ทุกวันนี้ภรรยาก็ตั้งท้องได้ประมาณ 2 เดือน ในตอนที่ผมทราบข่าวว่าภรรยาท้องก็รู้สึกดีใจ แต่เมื่อเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ที่พัทยากับข้าราชการรู้จักกัน ก็เป็นช่วงคาบเกี่ยว 2 เดือนเหมือนกัน จึงทำให้ผมตัดสินใจที่จะพูดคุยกับภรรยา แต่สุดท้ายก็ได้คำตอบแต่เพียงว่า ถ้าไม่ใช่ลูกพี่จะเป็นลูกใคร จนถึงทุกวันนี้ผมก็ยังคงใช้ชีวิตร่วมกันกับภรรยา แต่ภรรยาก็ยังแอบไปพูดคุยกับชายคนนี้" นายเอก กล่าวตัดพ้อ 

อย่างไรก็ตาม นายเอก ยังกล่าวด้วยว่า จากข้อมูลการพูดคุยในแชต ข้าราชการคนดังกล่าวมีลักษณะให้ภรรยาเป็นคนโอนเงินไปให้ มีตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสน ซึ่งก็ไม่รู้เจตนาว่าทำไมถึงต้องมีการโอนเงินให้กัน ตนถามภรรยาได้คำตอบว่ามีการลงทุนร่วมกัน แต่ตอนนี้ยังขาดทุน ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามีการลงทุนจริงหรือไม่ หรือมีการโอนเงินให้กันด้วยเหตุผลอะไร ตนกลัวว่าข้าราชการคนดังกล่าวจะมาหลอกภรรยาให้สูญเงิน และหลายครั้งภรรยาก็มีการสั่งอาหารจากไรเดอร์ มีการจัดส่งให้กับข้าราชการคนดังกล่าว มีการเทคแคร์ให้อย่างดี ลักษณะเหมือนหวังกินจากผู้หญิง ทำให้ตนรู้สึกเป็นห่วงภรรยา ต้องการที่จะออกมาแฉพฤติกรรม และอยากให้ภรรยากลับมาเป็นเหมือนเดิม

311043

ทีมข่าวยังได้พยายามติดต่อไปยังนางสาวมายด์ แต่ถูกปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ อ้างว่ายังไม่พร้อมที่จะชี้แจงใด ๆ หลังจากนี้เตรียมที่จะมีการฟ้องร้องดำเนินคดีที่ได้รับความเสียหายและอับอาย อีกทั้งเตรียมที่จะดำเนินคดีกับนายเอก นำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์และนำข้อมูลไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต เรื่องของความสัมพันธ์หากไปต่อกันไม่ได้ก็อาจจะฟ้องหย่าต่อไป 

 

858089

ทนายเกิดผล แก้วเกิด นักกฎหมายอิสระ กล่าวว่า ตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏหากหญิงสาวที่เป็นภรรยาของผู้เสียหาย มีความสัมพันธ์หรือเกี่ยวข้องกับข้าราชการระดับสูง ก็จะเข้าข่ายในความผิดแพ่งและพาณิชย์ อีกทั้งยังจะถูกสอบทางวินัย และผิดเกี่ยวกับวินัยข้าราชการด้วย

761580

ส่วนกรณีที่ฝ่ายหญิงอ้างว่าจะมีการฟ้องสามี ที่นำข้อมูลไปเผยแพร่จนเป็นเหตุให้เกิดความอับอายนั้น ในทางกฎหมายมีสิทธิ์ที่จะดำเนินการได้ เพราะถือว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสีย เป็นการปกป้องสิทธิ์ของตัวเองตามกฎหมาย ซึ่งเป็นข้อยกเว้นไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329 โดยหากภรรยามีการฟ้องร้องจริง แต่สามีพิสูจน์ได้ว่าเป็นการปกป้องสิทธิ์และมีส่วนได้เสีย ก็ไม่ต้องรับผิดหรือจะมีความผิดเกิดขึ้นแต่อย่างใด

กรณีที่ภรรยาจะมีการฟ้องสื่อที่นำเสนอข่าว ก็จะถือว่าเป็นข้อยกเว้นอีกเช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นการนำเสนอในมุมที่ไม่ได้มีส่วนได้เสีย ก็จะไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 329 เหมือนกัน ฉะนั้นการฟ้องร้องของภรรยาจะไม่ก่อให้เกิดผลดีแต่อย่างใด ทางที่ดีตนขอแนะนำว่าหันหน้าคุยกันจะดีกว่า

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส