กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์เรื่องราวผู้หญิง 2 คน ถูกทำร้ายร่างกายเลือดอาบทั้งตัว พร้อมเขียนข้อความว่า "จิตใจเขาทำด้วยอะไร ขนาดคนแก่ขนาดนี้ ยังทำได้ลงคอ ไม่รู้จะหาคำไหนมาเปรียบเทียบ เหตุเกิดตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 24 ธันวาคม 2564 #ทำขนาดนี้ไม่ใช่คนแล้วแหละ #ผู้ต้องหาอยู่ระหว่างการหลบหนี" นั้น
เหตุการณ์ดังกล่าว มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย รายแรกนางสาวสายวรุณ แสงงาม อายุ 49 ปี เป็นภรรยาของผู้ก่อเหตุ ได้รับบาดเจ็บ มีบาดแผลและรอยช้ำตาทั้ง 2 ข้าง แขนทั้ง 2 ข้าง นิ้วซ้ายหักผิดรูป ต้องดามเหล็ก มีบาดแผลและรอยช้ำที่ศีรษะ คอ ท้ายทอย หน้าผาก จนแพทย์ต้องทำการเย็บที่หน้าผาก 8 เข็ม ศีรษะข้างขวา 7 ศีรษะข้างซ้าย 8 เข็ม ท้ายทอย 7 เข็ม หูซ้าย 7 เข็ม แขนขวาและมือขวารวมอีก 5 เข็ม
และอีกราย นางจวน แก้วบัวเคน อายุ 76 ปี แม่ของนางสาวสายวรุณ แม่ยายของผู้ก่อเหตุ ได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลที่ศีรษะ และรอยช้ำตามร่างกาย
วันที่ 28 ธันวาคม 2564 นางสาวสายวรุณ แสงงาม อายุ 49 ปี ภรรยาของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุ เวลา 18.30 น. ของวันที่ 24 ธันวาคมที่ผ่านมา นายนภสินธุ์ ตะริวงศ์ สามีของตัวเอง ได้กลับมาถึงบ้านช้า ตัวเองจึงบ่นให้เขาว่า "ทำไมกลับมาค่ำมืดจัง ไม่ดูเวล่ำเวลา ไม่มีความรับผิดชอบต่อครอบครัว" จากนั้นนายนภสินธุ์จึงตอบกลับตัวเองว่า "ไปไหนก็ไม่ได้ โทรตามอยู่นั่นแหละ เรื่องมากนักมึง เดี๋ยวตีให้ตายเลย" จากนั้นสามีจึงเงื้อมมือมาตบตัวเอง 1 ครั้ง
ระหว่างนั้นนางจวน แม่ของตัวเอง ได้เห็นเหตุการณ์ จึงพูดกับสามีว่า "ทำไมต้องตบลูกสาวแม่ ถ้าจะทำกันขนาดนี้ แม่เลี้ยงมาไม่เคยตบเคยตี ออกไปจากบ้านหลังนี้เลย" จากนั้นนายนภสินธุ์ ก่อใช้มือตบแม่ตัวเองอีก 1 ครั้ง จนแม่ตัวเองล้มไปนอนที่พื้น ตัวเองจึงหยิบได้ท่อนเหล็ก แล้วนำไปตีนายนภสินธุ์ 2 ครั้ง ทำให้นภสินธุ์แย่งท่อนเหล็กจากตัวเองไป แล้วนำมากระหน่ำตีตัวเองหลายครั้ง นับไม่ถ้วน ทั่วร่างกายตัวเอง จนเหล็กหัก
ตอนที่ตัวเองถูกนายนภสินธุ์ตีทำร้ายร่างกายนั้น แม่ของตัวเองเขาก็ได้เข้ามาห้ามนายนภสินธ์ว่า "พอแล้ว พอแล้ว" ทำให้นายนภสินธุ์ หันกลับไปหานางจวน ใช้ท่อนเหล็กตีที่ศีรษะและลำคอนางจวนมีเลือดอาบที่ศีรษะ จากนั้นนายนภสินธุ์เข้าไปในบ้าน แล้วพังทำลายข้าวของในบ้าน ซึ่งระหว่างนั้นตัวเองได้ประคองร่างนางจวน แม่ของตัวเองเดินไปหลังบ้าน แล้วหลบอยู่ในพุ่มมันสำปะหลัง ก่อนที่นายนภสินธุ์จะไม่เจอพวกตัวเอง แล้วขับรถมอเตอร์ไซค์ออกจากบ้านไป
หลังเกิดเหตุ ตัวเองได้ไปแจ้งความที่ สภ.นาจะหลวย เพื่อเอาผิดกับนายนภสินธุ์ ซึ่งตัวเองก็ทราบข่าวว่า เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2564 นายนภสินธุ์ เขาได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยืนยันว่าจะเอาเรื่องผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด เพราะตัวเองอยากให้ผู้ก่อเหตุเขาได้รับกรรมในสิ่งที่เขากระทำ
สำหรับตัวเองคบหากับนายนภสินธุ์ได้ 2 ปี แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ซึ่งตั้งแต่อยู่กินกันมา สามีก็เป็นคนนิสัยดี และไม่เคยทำร้ายร่างกายตัวเองมาก่อน แต่ยอมรับว่าสามีเป็นคนอารมณ์ร้อน และชอบดื่มเหล้า ยืนยันว่าหลังจากนี้จะไม่กลับไปคบหากับผู้ก่อเหตุอีก ขอตัดขาดจากเขาเลย ตัวเองรู้สึกเสียใจที่เป็นต้นเหตุพาผู้ชายคนนี้เข้ามาในครอบครัว มาทำให้แม่ซึ่งเป็นคนที่ตัวเองรักต้องบาดเจ็บ และเสียใจ ส่วนตนนิ้วกลางข้างซ้ายหักงอผิดรูป แพทย์ได้ทำการดามเหล็กเอาไว้ ซึ่งต่อให้หายดี นิ้วของตัวเองก็ไม่สามารถกลับมาสภาพเดิมได้แล้ว
นางจวน แก้วบัวบาน อายุ 76 ปี ผู้บาดเจ็บ เปิดใจว่า วันเกิดเหตุ ตัวเองเห็นว่าลูกเขยและลูกสาวทะเลาะกัน ตัวเองจึงเข้าไปห้าม แล้วก็บอกนายนภสินธิ์ว่า "อย่าตี อย่าตี" จากนั้นนายนภสินธุ์ เขาได้หันมาพูดกับตัวเองว่า "เดี๋ยวก็จะฆ่ามึงนะอีเฒ่า" จากนั้นนายนภสินธ์ ก็ใช้ท่อนเหล็ก ตีเข้าที่ศีรษะและลำคอของตัวเองและลูกสาวหลายครั้ง ก่อนที่เขาจะเข้าไปทำร้ายข้าวของในบ้าน ระหว่างนั้น นางสาวสายวรุณ ลูกสาวตัวเองได้ประคองตัวเอง ไปหลบที่สวนมันสำปะหลัง ด้านหลังบ้าน โดยลูกสาวก็บอกตัวเองว่า ห้ามส่งเสียงดัง เพราะกลัวว่านายนภสินธุ์เขาจะได้ยืนเสียง แล้วตามมาก่อเหตุอีก ยอมรับว่าความรู้สึกตอนนั้น ตัวเองกลัวนายนภสินธุ์ฆ่าตัวเองมาก
สำหรับนายนภสินธุ์ ก่อนหน้านี้ ตัวเองก็เห็นเขามีนิสัยดีอยู่ แต่ก็ไม่ทราบว่าทำไม่ระยะหลังนี้ เขากลายเป็นคนอารมณ์ร้อน ที่นายนภสินธุ์ ให้ข่าวว่าเขาแค้นมานาน ที่ถูกตัวเองพร้อมลูกสาวด่าเขาว่าเขาเป็นคนตระกูลชั้นต่ำ ตัวเองขอยืนยันว่าตัวเองไม่เคยไปดูถูกใคร เขาให้ข่าวไม่เป็นความจริง คิดอยากจะพูดอะไรก็พูด ส่วนกรณีเรื่องผลผลิตข้าวที่นายนภสินธุ์อ้างว่าตัวเองไม่ยอมแบ่งข้าวไปให้พ่อของเขาทานนั้น ตัวเองก็ไม่อยากจะพูดเรื่องนี้แล้ว อยากให้นายนภสินธุ์ได้รับโทษถึงที่สุด และตัวเองก็ไม่ให้อภัยเขาอีกด้วย
เวลา 13.00 น. นายนภสินธุ์ ตะริวงศ์ ผู้ก่อเหตุ เดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบปากคำผู้ก่อเหตุ ใช้เวลาสอบปากคำประมาณ 4 ชั่วโมง โดยผู้ก่อเหตุมีสีหน้าที่นิ่งเฉย
นายนภสินธุ์ เปิดใจว่า เหตุที่เกิดขึ้นตัวเองทำไปเพราะบันดาลโทสะ และเป็นปัญหาที่ตัวเองอัดอั้นเก็บไว้มานาน ก่อนหน้านี้ตัวเองถูกแม่ยาย และภรรยาดูหมิ่น เหยียดหยามตัวเองมากว่า 1 ปี โดยนางจวน แม่ยายของตัวเอง จะชอบดูหมิ่นตัวเองว่าโคตรเหง้าตระกูลของตัวเองไม่ดี ว่าตระกูลตัวเองต่ำช้ากว่าหมา แล้วก็ว่าตัวเองชิงหมาเกิด ส่วนนางสายวรุณ ภรรยาตัวเองก็ด่าว่าตัวเองชิงหมาเกิด หมาจะเกิดก็ดึงขาหมาไว้ ด่าว่าตัวเองมีสัมพันธ์กับลูกสาวตัวเอง ที่เป็นลูกติดของตนกับภรรยาเก่า
เท่านั้นยังไม่พอ เมื่อปีที่แล้วตัวเองปลูกข้าวในที่นาที่พ่อตัวเองแบ่งให้ พอได้ผลผลิตข้าวมา ตัวเองจะบอแบ่งข้าวไปให้พ่อของตัวเองให้ได้กินบ้าง แต่นางจวน แม่ยาย เขาก็ใช้คำพูดกับตัวเองว่า "จะเอาข้าวไปให้มันกินทำไม" ซึ่งก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ตัวเองไม่พอใจแม่ยาย และเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจ ทำให้ตัวเองอัดอั้นมานาน กระทั่งวันเกิดเหตุ 24 ธันวาคม 2564 ตัวเองกลับจากทำงานค่ำมืด เพราะหาเงินเลี้ยงครอบครัว แต่กลับถูกภรรยาด่าว่าโง่ แล้วถูกแม่ย้ายไล่ออกจากบ้าน แล้วภรรยาได้เอาไม้เท้าเหล็กมาตีทำร้ายที่ศีรษะ และแผ่นหลังของตัวเองก่อน จึงทำให้ตัวเองบันดาลโทสะทำร้ายภรรยาและแม่ยาย
ตัวเองเสียใจ และอยากขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถ้าเป็นไปได้ตัวเองก็อยากกลับไปหาภรรยาอีก ตัวเองอยากบอกภรรยาว่าตัวเองรักภรรยามาก แล้วก็ฝากขอโทษแม่ยายด้วย
ทีมข่าวได้ตรวจสอบเฟชบุ๊กนายนภสินธุ์ ซึ่งมีการโพสต์ข้อความเมื่อ 5 ก.พ 2563 ว่า "จะสุข..ทุกข์มันยุที่จัย..?? คนดี.มักแก้ไข คนจัญไ-.มักแก้โต..แหม่.บ่วะ" และอีกข้อความเมื่อวันที่ 29 ม.ค.2563 ว่า "บางสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนเรา.ถึงเราไม่ได้ตั้งใจให้เกิด.แค่อารมหลงผิดชั่ววูบ.ก้ออาจทำให้ทุกสิ่งที่เราทุ่มเททั้งชีวิตมันพังจบสิ้นลงได้"
