แม่ “ยู” มือไล่ยิงกลางเมือง แฉปมเดือด “ตั้มเกียร์อาร์” แทนที่พ่อของลูก - อดีตสะใภ้โต้ เลิกแล้ว ไม่ใช่ชู้ (คลิป)

5 ธ.ค. 61
จากกรณี นายศรัญญู อ่อนใจเอื้อ อายุ 27 ปี ขี่จักรยานยนต์ก่อเหตุใช้อาวุธปืนไล่ยิงนายอมตะ ปิ่นทอง หรือ ตั้ม เกียร์อาร์ จนได้รับบาดเจ็บขณะขับรถยนต์ไปกับเพื่อน หลังโดยนายอมตะ ถูกยิงเข้าที่ด้านหลัง แต่แข็งใจขับรถหลบหนีไปขอความช่วยเหลือจากตำรวจบนโรงพัก สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เหตุเกิดบริเวณหน้าธนาคารกรุงไทย สาขาถนนพานิช อ.เมืองฉะเชิงเทรา
นายโก้ ผู้อยู่ในเหตุการณ์
วันที่ 5 ธ.ค. 61 นายโก้ (นามสมมุติ) รุ่นน้องของนายอมตะ ปิ่นทอง หรือ ตั้ม ผู้ที่นั่งในรถเบาะข้างนายตั้มวันเกิดเหตุ เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุ นายตั้มชวนตนไปช่วยถ่ายรูปในงานวันพ่อที่โรงเรียน ขณะไปร่วมงาน ผู้ต้องหาขับเบนซ์สีขาวตามมา ก่อนจะบีบแตรใส่กัน จากนั้นหลังจบกิจกรรมวันพ่อ ตนและนายตั้มก็ได้เดินทางออกจากโรงเรียนด้วยรถยนต์คันดังกล่าว โดยที่นายตั้มเป็นคนขับ ส่วนตัวเองนั่งข้าง
ภาพจำลองเหตุการณ์ก่อนและหลังงานวันพ่อ
จากนั้นก็พบว่าผู้ต้องหาขับขี่รถจักรยานยนต์ตามมา พร้อมกับใช้ปืนไล่ยิง ประมาณ 5 นัด โดนนาย ตั้ม 1 นัดที่บริเวณบ่าซ้ายใกล้กับคอ ซึ่งนายตั้มก็พยายามขับรถมาจนถึงสถานีตำรวจ และเข้าขอความช่วยเหลือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนถูกส่งตัวไปรักษาตัวที่ รพ.พุทธโสธร ส่วนตัวผู้ต้องหานั้นขี่รถหายไปโดยไม่ทันสังเกต
ภาพจำลองเหตุการณ์ นายยูติดต่อขอซื้อปืนและซ้อมยิง
นอกจากนี้ แหล่งข่าวรายหนึ่ง เปิดเผยว่า นายศรัณญูมีการวางแผนมาก่อนแล้ว โดยมีการโทรศัพท์บอกให้คนเอารถจักรยานยนต์มาให้ ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ หลังเลิกกับภรรยาได้ไม่นาน นายศรัญญูก็ไปติดต่อขอซื้อปืนจากเพื่อนมา 1 กระบอก จากนั้นก็ทดลองซ้อมยิงปืนอยู่ 2 – 3 ครั้ง  กระทั่งมาก่อเหตุยิงนายตั้มในที่สุด โดยเชื่อว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องชู้สาว
พี่สาวของนายยู ผู้ก่อเหตุ
ด้าน พี่สาวของนายยู กล่าวว่า ครอบครัวรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจะดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บ ทั้งค่าดูแล ค่ารักษาพยาบาล และค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถด้วย ขณะนี้คนในครอบครัว ทั้งพ่อและแม่รู้สึกเครียดมาก จนที่บ้านนอนไม่หลับ ปกติน้องชายตนไม่ได้เป็นคนใจร้อน จึงไม่รู้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะน้องชายเป็นคนใจเย็น ตนก็อยากที่รู้ว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นก่อนหน้านั้นหรือไม่ เพราะอยู่ดี ๆ น้องชายคงไม่น่าจะเอาปืนมาไล่ยิงคนกลางเมืองแบบนี้ ตนจึงต้องการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเหตุการณ์ก่อนที่น้องชายจะยิงปืนด้วย ทั้งนี้ ตนต้องการบอกน้องชายตนเองว่า พี่สาวและครอบครัวเป็นห่วง หากผิดก็ต้องยอมรับ และขอให้น้องมาสู้กันทางกระบวนการยุติธรรม ให้เป็นเรื่องของกฎหมาย
ภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะเกิดเหตุไล่ยิง
นอกจากนี้ แม่ของนายยู กล่าวว่า ตนตกใจและเครียดมาก ไม่คิดว่าลูกชายจะก่อเรื่องแบบนี้ ลูกชายตนเป็นคนทำงาน ดูแลกิจการของที่บ้าน และเป็นคนใจเย็นมาก เรื่องที่เกิดขึ้นอาจมีสาเหตุจากความเครียด เพราะนายยูมีภรรยาที่อยู่กินกันมา 10 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน แต่เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว ลูกชายได้มาบอกว่า ภรรยาได้ออกไปเที่ยวกับนายตั้มคู่กรณีที่ จ.ชลบุรี หายไปด้วยกัน 2 คืน กระทั่งเป็นเรื่องราวหึงหวงกัน และเป็นที่มาของการหย่าร้าง หลังจากนั้นลูกชายก็ไม่ได้ติดต่อกับภรรยาอีกเลย นอกจากนี้ หลังจากที่หย่าร้างกัน นายตั้มก็โพสต์เฟซบุ๊กหยามลูกชายตลอด เป็นเหตุให้เกิดเรื่องนี้ขึ้น วันเกิดเหตุ ตนทราบว่าลูกชายออกไปงานวันพ่อของโรงเรียน เนื่องจากต้องไปทำหน้าที่พ่อของลูก แต่อาจไปเจอกับนายตั้ม ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่ามีการยั่วยุอะไรหรือไม่ เพราะมีคนมาเล่าให้ฟังว่า อดีตลูกสะใภ้จะเอานายตั้มไปเป็นพ่อแทนนายยู และให้ลูกของยูมากราบเท้านายตั้ม ตนจึงคิดว่าอาจจะมีสาเหตุมาจากประเด็นนี้หรือไม่ แต่ทั้งนี้ ตนก็ไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด
แม่ของนายตั้ม ผู้ที่ถูกยิง
แม่ของนายตั้ม ผู้ที่ถูกยิง กล่าวว่า เมื่อวานนี้ ตอนเวลาประมาณ 10.00 - 11.00 น. มีเพื่อนของนายตั้มโทรมาบอกว่านายตั้มโดนยิง ให้รีบไปโรงพยาบาล ตอนนั้นตกใจมาก หัวอกคนเป็นแม่ย่อมเสียใจ ไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะมาเกิดขึ้นกับลูก ตัวเองทำอะไรไม่ถูก หมดแรง มือไม้ชา เมื่อไปถึงโรงพยาบาล หมอบอกว่านายตั้มโดนกระสุนยิงเข้าที่ท้ายทอย และกระสุนฝังใน ซึ่งเป็นจุดอันตราย ตอนนี้ยังไม่สามารถผ่าตัดได้ ลูกชายของตนไม่สามารถที่จะโต้ตอบได้ พูดได้บ้างแต่ไม่ค่อยจะรู้เรื่องเท่าไร อาการโดยรวมก็ยังไม่ค่อยดี แม่นายตั้มยังบอกอีกว่า ตนเองเป็นครูเกษียณ ส่วนนายยูก็เป็นลูกศิษย์ที่ตนเคนเห็นหน้าในโรงเรียนมาก่อน
ภาพจากคลิปวิดีโอขณะเกิดเหตุการณ์
ตนไม่ทราบว่าลูกชายมีปัญหาเรื่องผู้หญิงกับใคร แต่ยอมรับว่า ลูกชายเป็นคนเจ้าชู้ มีผู้หญิงมาติดพันเยอะ แต่นายตั้มก็มีครอบครัวมีลูกมีภรรยาอยู่แล้ว ก็ไม่ค่อยไปยุ่งกับผู้หญิงคนอื่นเท่าไร ตอนนี้ตนก็ได้แต่ภาวนาให้ลูกปลอดภัย แม่นายตั้มยังบอกอีกว่า ลูกชายเป็นคนที่ไม่ค่อยยอมคน ซึ่งไม่อยากให้ลูกตนไปแค้นคนที่ทำ ให้ปล่อยเป็นเรื่องของกฎหมายเอาโทษกับคนผิดไป และอยากจะบอกว่าชีวิตคนไม่ใช่ผักไม่ใช่ปลาก็ขอให้คนที่ยิงคิดดีทำดี
น.ส.เจน (นามสมมติ) ซึ่งอดีตภรรยาของนายยู
น.ส.เจน (นามสมมติ) ซึ่งอดีตภรรยาของนายยู กล่าวว่า ตนทราบเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องของตนกับนายยู นั้นยุติความสัมพันธ์กันได้ 4 เดือนแล้ว ส่วนคู่กรณีที่ไปโดนไล่ยิง คือนายตั้ม ตนก็ไม่ไปมีความสัมพันธ์อะไรกับนายตั้ม อีกทั้งไม่เคยติดต่อ หรือคบหากันฉันชู้สาวเลย ส่วนกรณีที่มีการกล่าวหาว่า เมื่อ 3 เดือนก่อน ตนไปเที่ยวกับนายตั้ม ก็ไม่เป็นความจริง แต่ถึงจะไปเที่ยวกัน ก็ไม่น่าจะเกี่ยวกับเรื่องนี้ที่ทำให้ทั้งคู่ยิงกัน ส่วนเป็นการหึงหวงกันนั้น หากไปถามนายตั้มที่ถูกยิงก็จะรู้ว่า ตนกับนายตั้มไม่ได้มีสัมพันธ์ลึกซึ่งกัน ทั้งหลังและก่อนเลิกกับนายยู ก็ไม่เคยติดต่อ คบหากัน หรือชีวิตร่วมกันเลย น.ส.เจน บอกว่า วันเกิดเหตุ คือวันที่ 4 ธ.ค. นายยูติดต่อผ่านทางเพื่อนตอนเย็นวันที่ 3 ธ.ค. ว่าจะมาเป็นพ่อให้ หลังจากที่ตนโพสต์เฟซบุ๊กว่า “พรุ่งนี้จะมีกิจกรรมวันพ่อ คงต้องหาพ่อให้ให้ลูก” และตนก็ลบโพสต์ไป หลังจากนั้นนายยูก็ติดต่อผ่านเพื่อนของตนบอกว่าจะมาทำกิจกรรมวันพ่อให้ลูกเอง แต่ตนไม่ยอม เนื่องจากตนกีดกันนายยูไม่ให้เจอกับลูก และตนไม่อยากติดต่อกับนายยู แต่อีกฝ่ายพยายามจะมาให้ได้ กระทั่งวันที่ 4 ธ.ค. นายยูเดินทางมาที่โรงเรียนและเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ