พ่อปัดข่มขืนลูก 10 ขวบ ชี้เมียเพี้ยนเห็นเลือดประจำเดือน - ร้านค้าพิสูจน์ พ่อพาซื้อผ้าอนามัย (คลิป)

3 ธ.ค. 61
จากกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชลบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุทะเลาวิวาทกัน โดยนางเนตรดาว อายุ 43 ปี แม่ของเด็กวัย 10 ขวบ อ้างว่าลูกสาวถูก นายไพฑูรย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี บิดาของเด็กข่มขืนกระทำชำเรา โดยใช้นิ้วมือและอวัยวะเพศสอดใส่ ทำให้มีเลือดไหลออกมาทางช่องคลอด ติดกางเกงใน และผ้าปูที่นอน ขณะเดียวกัน นายไพฑูรย์ พ่อของเด็ก ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ข่มขืน แต่ลูกมีประจำเดือน จึงไปซื้อผ้าอนามัยมาให้ใส่ (อ่าน : พ่อสอนลูกสาวใช้ผ้าอนามัย ถูกแม่แจ้ง ตร.จับข้อหาข่มขืนลูก)
นายไพฑูรย์ (สงวนนามสกุล) ผู้ถูกกล่าวหา
วันที่ 3 ธ.ค. 61 นายไพฑูรย์ (สงวนนามสกุล) ผู้ถูกกล่าวหา กล่าวว่า ครั้งแรกที่ตนทราบว่าลูกสาวเป็นประจำเดือน เมื่อประมาณ 3 เดือนก่อน โดยตนไปรับลูกจากโรงเรียน ซึ่งลูกสาวระบุว่าประจำเดือนมา ตนจึงพาลูกสาวไปซื้อผ้าอนามัย ก่อนจะบอกให้แม่ของน้องแอล ช่วยสอนลูกใส่ผ้าอนามัยด้วย แต่แม่ของน้องแอลไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตนข่มขืนลูก ซึ่งตนได้ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตนไม่ได้ข่มขืน ทั้งนี้ ที่ผ่านมาตนเห็นว่านางเนตรดาว มีอาการป่วยคล้ายกับคนป่วยทางจิต ซึ่งป่วยมากว่า 5 ปีแล้ว ตนก็พยายามบอกให้ไปรักษากับแพทย์ แต่นางเนตรดาวก็บ่ายเบี่ยงไม่ยอมไป ทำให้เวลาที่ตนต้องอยู่กับนางเนตรดาวลำพัง นางเนตรดาวเคยแอบเอามีดมาแทงขาตนช่วงที่ตนดื่มสุรามาแล้วเมา ซึ่งเขาจะแอบเก็บมีดไว้ พอตนถามว่า “แทงกูทำไม” นางเนตรดาวก็จะตอบว่า “เปล่า” ตนเองก็ต้องไปรักษาพยาบาลเอง ซึ่งตนก็ไม่เคยไปแจ้งความดำเนินคดีกับนางเนตรดาว โดยที่ตนมั่นใจว่านางเนตรดาวป่วยทางจิต เพราะเวลานางเนตดาวอยู่คนเดียว ก็จะชอบพูดคนเดียว คุยกับเสาข้างบ้านบ้าง แต่ไม่ยอมรับว่าตัวเองป่วย
ภาพจำลองเหตุการณ์ ขณะเกิดเหตุ
ขณะเดียวกัน ตั้งแต่ลูกสาวเป็นประจำเดือน ตนมักถูกนางเนตรดาวกล่าวหาว่าข่มขืนลูกสาว และไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายครั้ง กระทั่งตำรวจไม่รับแจ้งความอีก โดยครั้งนี้ที่เป็นข่าว ก็เพราะเขาส่งเสียงทะเลาะอาละวาดกับตน ส่วนตัวตนไม่เชื่อว่านางเนตรดาวจะมองเห็นคราบเลือดประจำเดือน ที่ติดตามที่นอนและกางเกงชั้นในของน้องแอล เพราะนางเนตรดาวตามองไม่ค่อยเห็น เนื่องจากเชื้อราลงตา ตนจึงคิดว่านางเนตรดาวน่าจะคาดเดาไปเอง นำไปสู่การกล่าวหาตน นายไพฑูรย์ ยอมรับว่า ตนต้องอดทนอยู่กับนางเนตรดาวและลูกสาววัย 10 ขวบ เพราะแม้นางเนตรดาวจะป่วย แต่ตนก็อยู่กับเขามานาน หากตนทิ้งเขาไป แล้วเขาจะอยู่อย่างไร ตอนนี้ตนก็ต้องหาเงินเลี้ยงดูลูกสาวเพียงลำพัง ซี่งพักหลังมานี้ อาการของนางเนตรดาวเริ่มหนักขึ้น มีอาการติดสุรา เหล้าขาว ทำให้หันมาทำร้ายร่างกายตนด้วย อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ตนไม่เอาลูกสาวไปอยู่กับแม่แล้ว และให้ลูกไปนอนชั่วคราวที่บ้านญาติแทน ขณะนี้ตนเองก็วอนขอให้เจ้าหน้าที่เร่งนำตัวนางเนตรดาวไปรักษาอาการที่โรงพยาบาลโดยเร็ว หากเจ้าหน้าที่พาไปเข้าโรงพยาบาล ตนก็จะรู้สึกสบายใจขึ้นกว่านี้ นายไพฑูรย์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนขอยืนยันในความบริสุทธิ์ใจของตัวเอง เรื่องที่ตนไปข่มขืนลูกสาวเป็นไปไม่ได้ ตนรักลูกมาก เลี้ยงมากับมือ ลูกตนเป็นเด็กดี ฉลาด เรียนได้เกรด 4 ตนไม่มีทางทำร้ายลูกสาวแน่นอน ตอนนี้ขอเพียงอย่างเดียวคือ ให้พาแม่ของลูกไปรักษาอาการทางจิตเวชก็พอแล้ว
นางเนตรดาว แม่ของน้องแอล
นางเนตรดาว แม่ของน้องแอล เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ลูกสาวถูกนายไพฑูรย์ ข่มขืนกระทำชำเรา ตนไปจับได้ เพราะกำลังซักกางเกงในให้ลูกสาว พบเลือดติดกางเกงเป้า ตนเองจึงไปสอบถามนายไพฑูรย์ว่าได้ทำอะไรลูกสาวหรือไม่ แต่นายไพฑูรย์บอกกับตนว่าลูกสาวเป็นประจำเดือน จึงได้ไปซื้อผ้าอนามัยมาให้ลูกสาวใส่ ตนไม่เชื่อว่าลูกจะเป็นประจำเดือน เพราะลูกสาวอายุเพียง 10 ขวบเท่านั้น จึงอยากวอนหน่วยงานให้ช่วยมาหาตรวจสอบดูแลเรื่องดังกล่าวด้วย ขณะเดียวกัน น้องแอล (นามสมมติ) ลูกสาวของนางเนตรดาว และนายไพฑูรย์ ให้ข้อมูลว่า ตอนนี้ตนเองไม่อยากจะย้ายกลับไปอยู่กับแม่อีก เพราะแม่ชอบส่งเสียงอาละวาดใส่พ่อ ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกโกรธที่แม่แจ้งความจับพ่อ เพราะเข้าใจว่าแม่มีอาการป่วย ตอนนี้ที่โรงเรียน คุณครูทุกคนก็เข้าใจ และให้กำลังใจ ซึ่งตนไม่รู้สึกเครียดหรือกังวลเป็นพิเศษ
นางสาวนิด (นามสมมติ) เพื่อนบ้าน
นางสาวนิด (นามสมมติ) เพื่อนบ้าน เปิดเผยว่า ตนค่อนข้างคุ้นเคยกับนายไพฑูรย์ และน้องแอล เพราะตนเปิดร้านขายนม พ่อกับน้องมักจะพากันมาซื้อนมที่ร้านเป็นประจำ โดยเมื่อ 2-3 สัปดาห์ก่อน น้องแอลเคยมาปรึกษาตนว่าเป็นประจำเดือน แต่ใช้ผ้าอนามัยไม่เป็น ตนจึงอาสาพาไปซื้อผ้าอนามัยที่ร้านสะดวกซื้อ ซึ่งตอนนั้นตนก็ไปชี้ให้น้องแอลดูว่าควรซื้อแบบไหน และได้บอกวิธีการใช้งาน แต่ขณะนั้นน้องไม่ได้ซื้อผ้าอนามัยกลับบ้านไป เนื่องจากประจำเดือนยังไม่มา ทั้งนี้ น้องแอลบอกกับตนด้วยว่า น้องเคยเป็นประจำเดือนมาแล้วก่อนหน้านี้ แต่ประจำเดือนก็หายไป โดยตอนนั้นแม่เป็นคนสอนให้ใส่ผ้าอนามัย แต่หลังจากนั้น พ่อของน้องก็ได้มาปรึกษาให้ตนช่วยสอนน้องอีกรอบ ว่าใส่ผ้าอนามัยอย่างไร ซึ่งตนไม่แน่ใจว่าแม่ของน้องแอลสอนใส่ผ้าอนามัยให้ถูกต้องหรือไม่ แต่ส่วนตัวมองว่า แม้แม่ของน้องแอลจะตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมน้องอายุแค่ 10 ขวบ ถึงเป็นประจำเดือนแล้ว ตนเองคิดว่าน้องแอลมีรูปร่างใหญ่กว่าเด็กวัยเดียวกัน ร่างกายสมบูรณ์ ตนจึงไม่รู้สึกแปลกใจที่ประจำเดือนจะมาไว นางสาวนิด ยืนยันว่า ตนเองไม่เคยเห็นนายไพฑูรย์ทำร้ายร่างกายของน้องแอล หรือกระทำชำเราน้อง ทำให้ตนรู้สึกตกใจว่าเหตุใดจึงมีข่าวว่าพ่อข่มขืนลูกออกมา เนื่องจากที่ผ่านมา นายไพฑูรย์กับลูกสาวค่อนข้างสนิทสนมกัน โดยพ่อเขาต้องดูแลลูกอย่างลำพัง ซึ่งเขาก็ค่อนข้างรักลูกมาก นอกจากนี้ แม่ของน้องแอลมีอาการไม่ปกติ ดวงตามองเห็นภาพไม่ชัดเจน และมีอาการป่วยทางจิต ในลักษณะชอบพูดคนเดียว ตนจึงคิดว่า อาจะเป็นการกล่าวหา หรือคิดไปเองว่าสามีข่มขืนลูกมากกว่า ซึ่งตนไม่เชื่อว่านายไพฑูรย์จะข่มขืนลูกของตัวเองได้
นางสาวปุ้ย (นามสมมติ) พนักงานร้านสะดวกซื้อ
จากนั้น ทีมข่าวเดินทางมาที่ร้านสะดวกซื้อ ที่นางสาวนิด และนายไพฑูรย์ เคยพาน้องแอล มาซื้อผ้าอนามัย โดยนางสาวปุ้ย (นามสมมติ) พนักงานร้านสะดวกซื้อ ระบุว่า กรณีที่แม่ของน้องแอลแจ้งความจับสามีตัวเองว่าข่มขืนลูกนั้น ตนคิดว่าไม่เป็นความจริง เพราะตนรู้จักกับนายไพฑูรย์มานาน เขาเป็นคนรักลูก เลี้ยงดูลูกเพียงลำพัง และนิสัยดี ตนเคยเห็นนายไพฑูรย์พาน้องแอลมาซื้อผ้าอนามัยที่ร้านสะดวกซื้อ โดยนายไพฑูรย์เป็นคนเอ่ยปากรบกวนให้ตนช่วยพาน้องแอลไปเลือกผ้าอนามัยให้ด้วย ตนก็ได้แนะนำให้ในฐานะพนักงาน ซึ่งตอนนั้นตนยังตกใจว่าน้องเป็นประจำเดือนแล้วหรือ แต่ก็คิดว่าที่ประจำเดือนมาไว เพราะน้องเป็นเด็กตัวโต อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าที่แม่ของน้องแอลแจ้งความจับนายไพฑูรย์นั้น คงเป็นเพราะแม่น้องแอล มีสติที่ไม่ค่อยดี ชอบเดินถือไม้เท้าไปทั่วซอย บางครั้งก็บอกตนว่าจะไปกรุงเทพฯ ทั้งที่ตอนนั้นเป็นช่วงเย็นแล้ว ตนจึงขอยืนยันว่านายไพฑูรย์ไม่ใช่คนที่จะข่มขืนลูกได้

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ