วันที่ 2 ธ.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนในต่างจังหวัดมีการเตรียมความพร้อมทั้งร่างกาย รวมถึง เตรียมจักรยานให้มีความพร้อมในการเข้าร่วมกิจกรรม "Bike อุ่นไอรัก" ที่จะมีขึ้นในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ หลายพื้นที่มีความคึกคัก มีการนำรถจักรยานไปซ่อม นัดรวมพลซ้อมปั่นจักรยานเพื่อเตรียมความพร้อมของร่างกาย
โดย จังหวัดอ่างทอง ชายวัย 77 ปี ดัดแปลงจักรยานขึ้นมาเอง เพื่อใช้สำหรับกิจกรรม "Bike อุ่นไอรัก"
โดย
นายหาญ บัวทอง อายุ 77 ปี ชาวบ้านจังหวัดอ่างทอง นำจักรยานที่ดัดแปลงขึ้นเอง ติดไฟอย่างสวยงาม บริเวณหน้ารถนำพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ไปซ้อมปั่นจักรยานก่อนจะถึงวันจริง ในกิจกรรม ไบค์อุ่นไอรัก ซึ่งจะมีการซ้อมเสมือนจริงในวันนี้ ( 2 ธ.ค.)
นายหาญ กล่าวว่า ตนมีอาชีพขี่จักรยานยนต์รับจ้างอยู่ในตลาดอ่างทอง หลังกลับจากเสร็จงานในช่วงกลางคืนก็จะนำรถจักรยาน ไปซ้อมปั่นทุกคืนเพื่อที่จะร่วมปั่นในกิจกรรมปั่นจักรยานอุ่นไอรัก
โดยตนเองได้ไปลงทะเบียนร่วมปั่นที่อ่างทองเป็นคนแรกเมื่อวันที่ 19 พ.ย. ที่ผ่านมา ก่อนจะนำรถออกมาซ้อมปั่นเพราะตนเองอายุมาก เกรงว่าร่างกายอาจจะไม่ไหว จึงต้องออกมาซ้อมปั่น และที่เลือกปั่นกลางคืนเนื่องจากไม่ร้อนและเป็นช่วงที่ตนว่างจากการทำงาน ซึ่งตนเองเทิดทูนพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ เมื่อมีกิจกรรมที่เกี่ยวข้องก็จะเข้าร่วมทุกครั้งเพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดี และเป็นการแสดงออกให้เด็กรุ่นใหม่รู้จักเทิดทูนสถาบัน
ต่อมา จังหวัดยะลา ชาวบ้านแห่นำรถจักรยานไปตรวจสอบสภาพ เพื่อร่วมกิจกรรม "Bike อุ่นไอรัก"
บรรยากาศการเตรียมตัว ปั่น Bike อุ่นไอรัก ของชาวยะลา เป็นไปอย่างคึกคัก ประชาชนเป็นจำนวนมาก ได้นำรถจักรยานของตัวไปตรวจสอบสภาพและซ่อมบำรุงรักษา ให้มีความพร้อมมากที่สุด เพื่อไปร่วมปั่น กิจกรรม Bike อุ่นไอรัก ซึ่งจะมีขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศในวันอาทิตย์ ที่ 9 ธันวาคมนี้
นายมุสตอฟา อาแล เจ้าของร้านจักรยาน เปิดเผยว่า ที่ร้านจักรยาน มีประชาชน นำรถจักรยานไปซ่อมให้มีสภาพพร้อมปั่นร่วมกิจกรรม และมีการไปซื้ออุปกรณ์เสริมต่าง ๆ อย่างคึกคัก และร้านของตนจึงต้องเร่งนำเข้าสิ่งของเพื่อให้สามารถเปิดบริการประชาชนได้อย่างทั่วถึง
ด้าน จังหวัดกระบี่ ประชาชนกว่า 4 พันคน ซ้อมปั่นจักรยาน เตรียมความพร้อมของร่างกาย ก่อนร่วมกิจกรรม "Bike อุ่นไอรัก"
นักปั่นจักรยานจังหวัดกระบี่ นำรถจักรยานออกมาซ้อมปั่นเพื่อเตรียมความพร้อมร่างกาย ก่อนร่วมกิจกรรม "Bike อุ่นไอรัก" ในวันที่9ธันวาคมนี้ โดยตั้งต้นที่จุดเริ่มจากสนามหน้าศาลากลางจังหวัดกระบี่เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนหลังศาลหลักเมือง จังหวัดกระบี่ มุ่งหน้า บ้านช่องพลีตามเส้นทางถนนสายกระบี่–อ่าวนางไ ปยังสนามฟุตบอลบ้านช่องพลีตำบลอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ รวมระยะทาง 24กิโลเมตร มีนักปั่นเข้าร่วมโครงการครั้งนี้จำนวน3,922 คน
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เทศบาลหัวหิน เตรียมจัดรถบริการขนย้ายจักรยาน เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักปั่นที่จะไปร่วมกิจกรรม "Bike อุ่นไอรัก"
นายจีรวัฒน์ พราหมณี ปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน ชี้แจงให้นักปั่นทุกคนเตรียมพร้อมร่างกาย เครื่องแต่งกาย รวมถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ ซึ่งในวันจัดกิจกรรม เทศบาลเมืองหัวหินได้เตรียมรถบรรทุกแบบสองแถว เพื่อขนย้ายจักรยานของนักปั่นหัวหินไปร่วมงานที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นักปั่นที่มีความประสงค์จะนำรถจักรยานไปกับรถบรรทุกของทางเทศบาลเมืองหัวหิน สามารถมาลงชื่อได้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 3 ธ.ค. เป็นต้นไป โดยจะมีการจัดเจ้าหน้าที่ดูแลจักรยานของนักปั่นให้ตลอดเส้นทาง
ด้าน จังหวัดพังงา ผบก.ภ.จว. ซาบซึ่้ง หลังร่วมส่งกำลังเจ้าหน้าที่ ถวายความปลอดภัย ฯ ร่วมตำรวจนครบาล
ที่จังหวัดพังงา พล.ต.ต.วิมล พิทักษ์บูรพา ผบก.ภ.จว.พังงา นำข้าราชการตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดพังงา ปล่อยขบวนรถจากกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพังงา เพื่อเข้าปฏิบัติหน้าที่ ถวายความปลอดภัยและรักษาความสงบร่วมกับกองบังคับการตำรวจนครบาล ที่กรุงเทพฯ ในงานปั่นจักรยาน “Bike อุ่นไอรัก” โดยได้นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าร่วมจำนวน 64 นาย
ขณะที่ทาง
พล.ต.ต.วิมล พิทักษ์บูรพา ผบก.ภ.จว.พังงา กล่าวว่า การปฏิบัติร่วมกิจกรรมครั้งนี้นับว่าเป็นเกียรติสูงสุดของเจ้าหน้าที่ ซึ่งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง เคร่งครัด มีระเบียบ วินัย ปฏิบัติหน้าที่ให้เรียบร้อยตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนด
และ พ่อเมืองมหาสารคาม นำซ้อมขบวนปั่นจักรยาน "Bike อุ่นไอรัก” ยันความพร้อมจัดกิจกรรม 100 เปอร์เซนต์
นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการและประชาชนที่ลงทะเบียนในกิจกรรมปั่นจักรยาน “Bike อุ่นไอรัก” จำนวนกว่า 200 คน ร่วมปั่นจักรยานซ้อมเส้นทาง "Bike อุ่นไอรัก” โดยขบวนปั่นจักรยานออกจากจุดเริ่มต้นที่ศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม ก่อนแวะสำรวจสถานที่ซึ่งในวันจัดกิจกรรมต่าง ๆ
นอกจากนี้
นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยว่า เส้นทางและสถานที่ รวมไปถึงการจัดการด้านต่าง ๆ ถือว่ามีความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ โดยทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมความพร้อม และอำนวยความสะดวกตลอดเส้นทาง อาทิ การรักษาความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร การดูแลสุขภาพของนักปั่นจากสาธารณสุขจังหวัดและโรงพยาบาลมหาสารคาม การบริการน้ำดื่มจากหน่วยงานราชการและภาคเอกชน เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้จะสร้างความประทับใจและเป็นเกียรติประวัติแก่พี่น้องชาวมหาสารคามและผู้มาร่วมกิจกรรมแน่นอน