ญาติชายขี่มอ'ไซค์ย้อนศรชนป้าสลบ ปัดเป็นทหาร รับปากกู้เงินมาเยียวยา-เหยื่อโอดทรมาน (คลิป)

30 พ.ย. 61
กรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Giuseppe Rocco ได้โพสต์คลิปวงจรปิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบริเวณห้างแห่งหนึ่ง คลอง 7 ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พบว่ามีรถจักรยานยนต์คันหนึ่งได้ขับย้อนศร ทำให้ชนกับจักรยานคันหนึ่ง จนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งโพสต์ดังกล่าวปรากฏผู้บาดเจ็บ และภาพรถจักรยานยนต์ของคนก่อเหตุ รวมไปถึงหน้าของคนที่ขับรถชน พร้อมระบุข้อความว่า “หลักฐานแค่นี้พอมัดพวกมีสีอยู่รึป่าว ช่วยแชร์หน่อยครับ”
ภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะเกิดอุบัติเหตุ
วันที่ 29 พ.ย. 61 นางปราณี ฉายาวงษ์ หรือ อู้ด อายุ 66 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งพบว่าที่หน้าผากด้านขวามีผ้าปิดแผล รวมไปถึงขอบตาทั้ง 2 ข้าง และช่วงไหล่มีรอยบอบช้ำ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นวันที่ 26 พ.ย. เวลาประมาณ 06.00 น. ขณะที่กำลังปั่นจักรยานกลับบ้าน บริเวณถนนคลอง 7 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี โดยปั่นจักรยานมาตามทิศทางที่ถูกต้อง แต่ปรากฎว่ามีรถจักรยานยนต์ขับย้อนศรมาชน โดยคู่กรณีได้พาไปนั่งพิงที่ริมถนน พร้อมกับมาตีที่แขนเบา ๆ พร้อมกับถามว่า “ป้า ๆ เป็นยังไง” ตนจึงถามว่า “มันเป็นอะไร มันเกิดอะไร” คู่กรณีตอบกลับมาว่า “ป้าแหละ ขี่มาชนรถผม” ขณะนั้นคนที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงได้พูดขึ้นมาว่า “ก็คุณขับย้อนศรมา ไม่งั้นจะเกิดเหรอ” ซึ่งคู่กรณีรอจนรถกู้ภัยมา หลังจากนั้นก็ขอตัวกลับไปทำงาน โดยไม่ได้ให้เบอร์ติดต่อไว้ และเข้ามาเยี่ยมที่โรงพยาบาลครั้งหนึ่ง เพื่อสอบถามอาการ โดยครั้งนั้นตนก็บอกว่า ช่วงนี้อาการก็แย่ แต่คู่กรณีก็ไม่ได้ตอบอะไร แล้วเดินทางกลับทันที
นางปราณี ฉายาวงษ์ หรือ อู้ด ผู้ได้รับบาดเจ็บ
นับตั้งแต่วันที่เกิดเรื่อง ก็ไม่ได้มีใครมาชดใช้ค่าเสียหาย จนมาเมื่อวาน (28 พ.ย.) พี่สาวของคู่กรณีได้เดินทางมาที่บ้านตน พร้อมกับบอกว่าไม่ทราบว่าน้องได้ขับรถชน ก่อนที่จะแสดงความรับผิดชอบด้วยการมอบเงินก้อนแรกให้ก่อน จำนวน 2,300 บาท และบอกว่าหลังจากนี้ จะไปกู้เงินเพื่อมาช่วยเหลือตน เนื่องจาก ฝ่ายคู่กรณีไม่ค่อยจะมีเงิน โดยในใจตนก็อยากคุยกับคู่กรณี เพื่อสอบถามถึงข้อเท็จจริงในวันดังกล่าว แต่ไม่ทราบว่าอีกฝ่ายจะพูดจริงเท็จอย่างไร ขณะนี้ก็ได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.ธัญบุรี แล้ว
สภาพบาดแผลของนางปราณี
สภาพบาดแผลของนางปราณี
นางปราณี ยอมรับว่า ช่วงจังหวะที่รถจะชน ตนมองไม่เห็นว่ามีรถจักรยานยนต์ได้ขับสวนมา เพราะถ้าเห็นก็คงไม่ยอมเจ็บตัวเช่นนี้ คงปล่อยจักรยานทิ้งไว้ และนำตัวเองขึ้นบนฟุตปาธ เนื่องจากเมื่อตนมาเจ็บป่วยเช่นนี้ รายได้ก็ไม่มี ทั้งนี้ อยากฝากไปถึงคู่กรณีว่า การขับรถเช่นนี้ไม่ถูกต้อง เนื่องจากผิดกฎระเบียบ จึงอยากให้ระมัดระวัง เพราะไม่เช่นนั้นก็อาจจะไปกระทบต่อบุคคลอื่นจนทำให้บุคคลอื่นเจ็บตัว อย่างตนเมื่อฟื้นร่างกายขึ้นมาใหม่ ๆ ก็พูดกับตัวเองว่า ทำไมไม่ตายไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด เนื่องจาก การทนเจ็บปวดเช่นนี้ก็ทรมาน เพราะเห็นภาพซ้อน ปวดหลัง แต่เมื่ออาการเริ่มดีขึ้น ก็ใจสู้ดีขึ้นมาบ้าง
น.ส.พรเพ็ญ ภิภักกิจ หรือ เล็ก พี่สาวของคู่กรณี
ขณะที่ น.ส.พรเพ็ญ ภิภักกิจ หรือ เล็ก พี่สาวของคู่กรณี เผยว่า ตนเพิ่งมาทราบเรื่องเมื่อวาน ว่าน้องชายได้ขับรถชนคน เมื่อทราบก็ได้เดินทางไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บ และได้มอบเงินก้อนแรกให้ ส่วนค่าใช้จ่ายส่วนอื่นก็จะให้เป็นงวด ๆ ไป เนื่องจาก น้องชายไม่ค่อยมีเงิน ทางครอบครัวจึงต้องช่วยเหลือกัน และหลังจากเดินทางไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บเสร็จ ก็ได้โทรศัพท์สอบถาม น้องชายก็ยอมรับว่าได้ขับรถย้อนศรชนคนที่ปั่นจักรยานจริง และได้ช่วยเรียกรถพยาบาลมาช่วยเหลือ แต่ไม่ได้อยู่ตลอด เนื่องจากต้องไปทำงาน และไม่ได้คิดจะหนี เพราะได้ให้เบอร์ติดต่อไว้ ซึ่งเท่าที่ทราบ น้องก็ไม่ค่อยขับรถย้อนศร แต่วันดังกล่าว ตนคาดว่าน้องคงขับรถไปเติมน้ำมัน ส่วนอุปนิสัยก็ไม่ใช่คนใจร้อน และไม่ได้ขับขี่รถเร็ว แต่อาจจะมีขับเร็วตอนไปทำงาน ส่วนหน้าที่การงานของน้อง เท่าที่ทราบคือเคยทำงานเป็นยามอยู่ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่ไม่ทราบว่าปัจจุบันยังทำอยู่หรือไม่ เนื่องจากไม่ค่อยได้คุยเรื่องนี้กัน แต่ไม่ได้เป็นตำรวจอย่างแน่นอน

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ