ปู่ย่าช้ำหลานตายสะใภ้โผล่ฮุบประกัน โอดไร้เงินทำศพ ญาติแจงเงินแสนใช้ทำบุญ (คลิป)

กรณีวันที่ 25 พ.ย.64 นายวิเชียร ทิทา อายุ 58 ปี และนางสุจิน เซียงโส อายุ 56 ปี สองสามีภรรยา ชาว อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นปู่กับย่าของน้องเจมจิ อายุ 12 ขวบ นักเรียนชั้น ป.6 ได้นำรูปถ่าย และโกศบรรจุกระดูกของน้องเจมจิ หลานชานที่จมน้ำเสียชีวิต เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ที่ผ่านมา ออกมาร้องขอความเป็นธรรม

หลังจากที่ น.ส.ชไมพร อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นลูกสะใภ้ และเป็นแม่ของน้องเจมจิ ได้อมเงินสินไหมทดแทนจำนวน 100,000 บาท ที่บริษัทประกันจ่ายให้ เนื่องจากทางโรงเรียนได้ทำประกันอุบัติเหตุเอาไว้แล้วหนีหายไป ทั้งที่ปู่กับย่าเป็นคนเลี้ยงน้องเจมจิมาตั้งแต่อายุได้ 1 ขวบนั้น

วันที่ 27 พ.ย. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่มาติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าว ซึ่งเมื่อเวลา 15.00 น. ปู่และย่าของน้องเจมจิ ได้มาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.นางรอง ใช้เวลาให้ปากคำประมาณ 1 ชั่วโมง

จากนั้นนายวิเชียร ทิทา อายุ 58 ปี ปู่ของน้องเจมจิ เล่าว่า ตัวเองมีหลานชายอยู่ 1 คน ชื่อน้องเจมจิ อายุ 12 ปี โดยตัวเองและภรรยาเลี้ยงดูหลานชายมาตั้งแต่เด็ก และทำงานรับจ้างตามชุมชน เพื่อหาเงินมาซื้อข้าว ซื้ออาหารให้หลายชายกิน

กระทั่งเมื่อวันที่ 25 ก.ย. หลานชายตัวเองปั่นจักรยานไปเล่นน้ำกับเพื่อนรวม 3 คน ตามทุ่งนา ระหว่างเล่นน้ำหลานชายตัวเองได้ทำการล้างรถกับเพื่อนอีก 1 คน ส่วนเพื่อนอีก 1 คน อยู่บนถนน ทำให้น้ำได้พัดเอาหลานตัวเองและเพื่อนที่ล้างรถจักรยานด้วยกันนั้น จมน้ำเสียชีวิต หลังจากหลานชายเสียชีวิต ทางโรงเรียนได้จ่ายเงินประกันให้กับตัวเองซึ่งเป็นผู้ปกครองของน้องเจมจิ เป็นเงินจำนวน 100,000 บาท

ตัวเองตั้งใจว่าถ้าได้เงินประกันมา จะแบ่งเงินเป็น 4 ส่วน คือเงินทำบุญให้น้องเจมจิ, เงินเก็บ, เงินใช้จ่ายสำหรับตัวเองและภรรยา  และอีกส่วนก็ตั้งใจว่าจะให้นางสาวชไมพร แม่เด็ก แต่นางสาวชไมพรเขาก็บอกว่าเขาไม่ต้องการเงินจำนวนดังกล่าว เพราะว่าเขาไม่ได้เลี้ยงดูเด็ก แล้วเขาก็ได้เซ็นหนังสือสละสิทธิ์ไม่ขอรับเงินสินไหมจากบริษัทประกันดังกล่าว

เนื่องจากขั้นตอนในการรับเงินนั้น ตัวเองต้องดำเนินการเรื่องเอกสารหลายขั้นตอน ทางบริษัทประกันจึงแนะนำตัวเองว่า หากอยากได้เงินเร็วทางบริษัทประกันเขาก็จะโอนเข้าบัญชีของสาวชไมพร ซึ่งเป็นแม่ของน้องเจมจิ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาตรวจเอกสารใหม่ แล้วค่อยให้นางสาวชไมพรโอนเข้าบัญชีของย่าตามที่ตกลง และเซ็นมอบอำนาจเอาไว้

ต่อมาวันที่ 2 พ.ย. 2564 บริษัทประกันโอนเงินสินไหมทดแทนจำนวน 100,000 บาท เข้าบัญชีของนางสาวชไมพร ลูกสะใภ้ของตัวเองแล้วนั้น ตั้งแต่นั้นมาเขาก็ไม่ติดต่อมาหาตัวเองและภรรยา แล้วตัวเองกับภรรยาก็ติดต่อเขาไม่ได้ ทราบแต่ว่าล่าสุดชไมพรเขาไปได้สามีใหม่ที่ จ.นครปฐม

โดยระหว่างทีมข่าวสัมภาษณ์ปู่ของน้องเจมจิ ทีมข่าวได้โทรศัพท์ไปหานางสาวชไมพร แม่ของน้องเจมจิ ซึ่งนางสาสชไมพรก็ได้รับสายทีมข่าว "ฮัลโลค่ะ" ทีมข่าวจึงให้นายวิเชียรพูดคุยกับชไมพร ซึ่งพอนางสาวชไมพรได้ยินเสียงนายวิเชียร ก็ตัดสายไป

นางสุจิน เซียงโส อายุ 56 ปี ย่าของน้องเจมจิ พาทีมข่าวเข้าไปดูในห้องเช่าดังกล่าว นำชุดนักเรียนของน้องเจมจิออกมาให้ทีมข่าวดู พร้อมกับเล่าว่า ตั้งแต่น้องเสียชีวิตไป ตัวเองก็เก็บชุดนักเรียน ชุดกีฬา และเสื้อผ้าของน้องเจมเอาไว้ และตั้งใจว่าหลังจากนี้ ตัวเองจะเอาเสื้อผ้าของน้องเจมไปบริจาค ทุกครั้งที่ตัวเองได้เห็นเสื้อผ้าของน้องเจมจิ ตัวเองก็คิดถึงเขาแทบใจจะขาด ทำให้นึกเห็นภาพหลานชายตอนเขาใส่ชุดนักเรียนไปเรียน

นางสุจิน กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตัวเองเชื่อว่าน้องเจมจิยังอยู่กับตัวเองที่บ้าน คิดว่าเขายังไม่ไปไหน เหตุที่เกิดขึ้น คิดว่าทำไมนางสาวชไมรพร แม่ของน้องเจมจิเขาถึงใจร้ายขนาดนี้ ตัวเองไม่มีเงินที่จะทำบุญ 100 วันให้หลานชาย แม้แต่ของใส่บาตร ก็เอาแต่ไข่เจียวใส่บาตรให้หลานชายทุกวัน เพราะตัวเองไม่มีเงิน ที่ญาติของนางสาวชไมพรเขามีการพูดคุยกับนักข่าวในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ว่าเขาจะคืนเงินช่วงปีใหม่ที่จะถึงนี้นั้น ตัวเองก็ไม่เชื่อใจพวกเขาแล้ว เพราะก่อนหน้านี้ก็มีสัญญาระบุไว้ว่าเงินประกันดังกล่าวมีการมอบอำนาจให้ตัวเองและสามี นางสาวชไมพรเขายังทำกับพวกตัวเองได้ลง หลังจากนี้ไปตัวเองไม่เชื่อใจอีกต่อไปแล้ว ตัวเองก็ได้ไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.นางรอง แล้วด้วย ถ้าพวกเขานำเงินมาคืน ตัวเองก็จะไม่เอาเรื่อง จะไปถอนแจ้งความ

โดยทีมข่าวได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับ นางจรีรัตน์ เทพบรรหม อายุ 74 ปี ยายของนางชไมพร แม่เด็ก เผยว่า หลังจากนางชไมพรได้เลิกรากับพ่อของน้องได้นำลูกมาฝากเลี้ยง 1 คนและให้ทางฝ่ายปูย่าเลี้ยง 1 คน ซึ่งเป็นน้องที่เสียชีวิต โดยทางประกันได้โอนเงินประกันของลูกเข้าบัญชีนางชไมพร นางชไมพรตั้งใจจะเงินคืนให้ แต่ทางฝั่งย่าพูดจาไม่ดี จนทางอดีตลูกสะใภ้เกิดโมโหจึงบอกไปว่าจะให้แค่ครึ่งเดียว คือคนละ 5 หมื่นบาท

ตนเองและหลานยังไปช่วยงาน ช่วยเงินจนเสร็จงานศพน้องเจมจิ โดยนำเถ้ากระดูกของน้องมาลอยอังคารที่วัดไร่ขิง ส่วนเงินประกัน 1 แสนบาท ตนเองได้ยินจากหลานสาวตนเองว่าจะโอนให้ฝ่ายปู่ย่า คนละครึ่งในช่วงปีใหม่นี้ เพราะฝ่ายนางชไมพรก็ต้องใช้เงินทำบุญ 100 วัน และเลี้ยงน้องของเจมจิด้วย