กรณี พ.ต.อ.ยศวรรษ กระจ่างวงศ์ ผกก.สืบสวน ภจ.ว.พัทลุง นำเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงถล่มบ้านพักของนายประกาย สงหล่อ อายุ 61 ปี บ้านหมู่ที่ 1 ต.บ้านพร้าว อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง ซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียวแบบก่ออิฐถือปูน ตั้งอยู่ริมถนนภายในหมู่บ้าน
ในที่เกิดเหตุพบรอยกระสุนปืนที่กระจกบ้าน ฝาผนัง และหลังคาเป็นรูพรุนหลายนัด ห่างจากบ้านหลังดังกล่าว ประมาณ 100 เมตร พบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนซ์เงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งเป็นยานพาหนะของคนร้ายจอดอยู่ เนื่องจากถนนในหมู่บ้านเป็นซอยตัน ทำให้คนร้ายขับรถหลบหนีไม่ได้
วันที่ 26 พ.ย. 64 จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า นายประกาย เจ้าของบ้าน บอกว่า ในช่วงฝนตกหนักนั้น ได้มีกลุ่มคนร้าย 3 คนขับรถยนต์คันดังกล่าวมายังบ้านเกิดเหตุ
จากนั้นกลุ่มคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนสงครามทั้ง 2 ชนิด อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงถล่มบ้านพักหลังดังกล่าว ถูกนายประกาย เจ้าของบ้านยิงสวนด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดจำนวนหลายนัด กลุ่มคนร้ายจึงขับรถหนีไป แต่มาเจอซอยตันกลุ่มคนร้ายทั้ง 3 คนจึงได้ทิ้งรถเก๋งหลบหนีไป
โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์ช่วงที่เกิดเหตุบางส่วนไว้ได้นั้น ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุพบเป็นบ้านปูนชั้นเดียว มีรอยกระสุนที่บริเวณจั่วหน้าบ้าน และขอบประตูบ้าน โดยเจ้าของบ้านไม่ขอให้ข้อมูลใด ๆ อ้างว่ากำลังเครียด ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 300 เมตร เป็นจุดที่คนร้ายขับรถมาจอดทิ้งไว้ เนื่องจากเป็นทางตัน รถยนต์ไม่สามารถขับผ่านไปได้
จากนั้น ทีมข่าวเดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรป่าพะยอม เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตัวนายเจมส์ หนึ่งในผู้ต้องสงสัย และเป็นญาติของเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุมาสอบปากคำ เนื่องจากนายเจมส์เคยมีปัญหากับนายประกาย เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ
โดยนายเจมส์ ยืนยันว่าตนไม่ได้ทำ และมีพยานยืนยันว่าช่วงเกิดเหตุตนอยู่ที่บ้าน ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างตนกับนายประกายจบกันไปแล้ว
ด้าน น.ส.เอ (นามสมมติ) ญาติของนายเจมส์ ระบุว่า ช่วงปลายเดือนตุลาคม นายเจมส์ทะเลาะกับน้องเขยของนายประกาย หรือนายมาด เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งนายมาดได้เข้ามาเคลียร์ และมีการยิงปืนขึ้นฟ้า 1 นัด จากนั้นเรื่องก็จบกันไป
จนเมื่อวานนี้ 25 พ.ย. เวลาประมาณ 19.00 น. ขณะที่นายเจมส์ขับรถเก่งกลับบ้าน นายมาดขับรถจักรยานยนต์ตามมายิงใส่รถของนายเจมส์ ซึ่งตนไม่ทราบจำนวนว่ากี่นัด ทำให้นายเจมส์ต้องขับรถหนีไปบอกทางนายก อบต.บ้านพร้าว ซึ่งทางนายกฯ ก็บอกว่าจะเคลียร์ให้ และมีการพูดคุยกันว่าวันนี้จะเข้าไปขอโทษนายมาด เพื่อให้จบเรื่อง กระทั่งเวลาประมาณ 22.30 น. ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ตนยังคิดว่านายมาดยังไม่จบเข้ามายิงขู่พี่ชายตน เพิ่งทราบช่วงเช้าว่าบ้านของนายมาดถูกคนร้ายยิงถล่ม
ตนยืนยันว่าพี่ชายของตนไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะช่วงเกิดเหตุพี่ชายอยู่ที่บ้าน และพี่ก็กลัวมาก อยากให้เรื่องทุกอย่างจบ โดยตั้งใจจะเข้าไปขอโทษนายมาดอยู่แล้ว ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้