จากกรณีนางสาวพิมพ์ณภัส หรือ จูน นวลหงษ์ อายุ 27 ปี เจ้าของรถเก๋งโตโยต้า คัมรี่ สีขาวมุก ทะเบียน 1 กภ 4366 กทม. ซึ่งนำไปซ่อมที่อู่แห่งหนึ่งย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี หลังเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนสุนัขจนหม้อน้ำรถแตก เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2564 และหลังจากนั้นนำไปซ่อมที่อู่ เมื่อเวลาผ่านไปเจ้าของอู่โทรมาแจ้งว่ารถเก๋งถูกคนร้ายขโมยไป เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2564 ซึ่งกล้องของอู่จับภาพคนร้ายได้ ทางเจ้าของอู่จึงเข้าแจ้งความที่ สภ.บางบัวทอง เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2564 นั้น
กระทั่งวันที่ 22 พฤศจิกายน 2564 น.ส.พิมพ์ณภัส ได้รับแจ้งจากพลเมืองว่าพบรถเก๋งคัมรี่ ลงประกาศขายในเพจแห่งหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับรถของ น.ส.พิมพ์ณภัส อยู่ที่เต็นท์ขายรถแห่งหนึ่งย่านนวมินทร์ กทม. ทำให้ น.ส.พิมพ์ณภัส และเพื่อนเฝ้าสังเกตความเคลื่อนไหวที่เต็นท์รถ ก่อนจะตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากตำรวจชุดสืบสวน สน.โคกคราม วางแผนล่อซื้อรถที่ถูกขโมยมาสวมทะเบียน จึงได้อายัดนำมาตรวจสอบนั้น
นายหมู อายุ 34 ปี เปิดใจว่า ตนยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการขโมยรถ และมีหลักฐานแสดงความบริสุทธิ์ใจทุกอย่าง ส่วนเจ้าของอู่รู้จักกันมาพักใหญ่แล้ว จากการนำรถไปให้ช่างต้นทำเป็นประจำ แม้มีบางช่วงมีปัญหากันบ้างเรื่องทำสีรถไม่ตรงสเปก รวมถึงตนอยู่วงการรถด้วยและตนมีหุ้นส่วนเปิดอู่ทำรถจักรยานยนต์และขายออนไลน์ มีรายได้หลายทาง ไม่จำเป็นต้องลักขโมย ส่วนคดีที่รับซื้อของโจรตนโดนจริง ๆ เป็นรถซิตี้ สีเทา ตนซื้อรถมาขายต่อ และรถคันนี้เป็นคันเดียวกันกับที่เอาไปให้ช่างต้นประเมินราคาซ่อม แต่ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีนี้ เพราะตนประกันตัวออกมาสู้คดี
นายหมู ชี้แจงว่า ในเรื่องรถคัมรี่ ช่างต้นได้ติดต่อขอความช่วยมาหาตนเองด้วยซ้ำ แค่เป็นจังหวะที่ตนก็สามารถหารถได้ด้วยก่อนนัดหมายไปเอารถที่ย่านเมกะ บางนา ไม่ใช่กาญจนบุรี ที่ช่างต้นอ้างกาญจนบุรี เพราะก่อนหน้าที่ตนจะโดนคดี ตนพบรถคันนี้ขายในเพจ และรถอยู่ที่กาญจนบุรี ก่อนตนหายไป จากนั้นตนกลับมาช่างต้นก็ทวงถามเรื่องช่วยหารถ
จากนั้นตนก็ช่วยก่อนติดต่อแอดไลน์ในหาผู้ขายชื่อไลน์ว่า K รถจำ โดยขอซื้อรถคืน เพราะรถคันนี้ถูกขโมยมา ทางผู้ขายบอกว่า ขอ 150,000 บาทก่อต่อรองเหลือ 145,000 บาท โดยมัดจำไปก่อน 25,000 บาท ตนนัดเอาเงินกับนายสมหมาย นายทุน และไปจ่ายผู้ขายย่านเคหะบางพลี ทั้ง นี้ตนยืนยันว่าตนวางมัดจำรถฮอนด้าเจส ปี 2008 รุ่น G ไว้กับช่างต้น เพื่อยืนยันว่าจะเอารถกลับมาให้ได้ และเดินทางไปด้วยรถแท็กซี่ ตอนนี้นั้นเห็นรถคัมรี่จอดข้างทาง ตนส่องรถเห็นป้ายทะเบียนจริง แต่ป้ายทะเบียนหน้ารถถูกเปลี่ยนจำเลขท้ายได้แค่ 82
จากนั้นก็เชื่อก่อนจ่ายเงินให้ชาย 2 คนที่ขับรถคัมรี่มา ก่อนได้ขอดูเอกสารเล่มรถ และจะก้มดูเลขคัสซี่ นาทีที่ก้มดู เพราะตนก็ไม่เชี่ยวชาญรถคัมรี่ดูเลขคัสซี่ตรงไหน จากนั้นตนเองได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์เข้ามา ก่อนโดนตีหัว แล้วคนพวกนั้นจะหนีไป นอกจากนี้ ตนไม่ได้หนีไปไหน เข้าวันรุ่งขึ้นยังไปอู่ ตนยืนยันไม่มีเจตนาเชิดเงินใคร ตนมีใจที่จะช่วยช่างต้นจริง และตนยังบอกช่างต้นว่าให้เจอรถก่อน ค่อยว่ากันเรื่องเงินน้ำใจให้ตน ทั้งนี้ ตนมีบาดแผลยืนยันได้
ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังเต็นท์รถของนายเอ (นามสมมติ) เจ้าของเต็นท์รถ ยืนยันว่า มีหลักฐานทุกอย่างที่ยืนยันได้ว่าซื้อรถคันนี้มาอยู่ถูกต้อง แต่ยังไม่ขอเปิดเผยในตอนนี้ เพราะกำลังรวบรวมเพื่อแสดงตัวตน อีกทั้งวันนี้ต้องรีบรวบรวมหลักฐานอื่นเพื่อเครียร์กับคนที่แนะนำให้ซื้อรถคันนี้มาด้วย
ส่วนตัวไม่อยากให้ข่าวมากมายเพราะกังวลและห่วงภาพลักษณ์ของเต็นท์รถ เพราะสร้างมากับมือ จะให้มาเสียเพราะปลาเน่าตัวเดียวไม่ได้ ส่วนเมื่อวานได้เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนของ สน.โคกคราม ไปเกือบครบแล้ว
นายนิยม โพธิ์จัตุรัส เจ้าของอู่ เดินทางมาดูรถคัมรี่ เปิดเผยว่า ตนดูรถแล้วก็ยังไม่มั่นใจว่าใช่หรือไม่ เพราะต้องเปิดดูหม้อน้ำ แต่ไม่สามารถเปิดได้ ใจอยากให้รถคันนี้เป็นของลูกค้า แต่ก็ยังงงว่าเรื่องนี้อย่างไรกันแน่ เรื่องประตูร้านตนเป็นพื้นที่ใช้ร่วมกับ ตรอ. มีลูกน้องเฝ้าอยู่ ต้องใช้พื้นที่รวม ดังนั้นจึงลงกลอนไว้เฉย ๆ ไม่สามารถล็อกได้
ส่วนกุญแจช่วงทำงานต้องเหน็บกุญแจไว้ เพื่อสะดวกในการซ่อม แต่วันนั้นพอช่วงเย็นจะเก็บกุญแจ แต่ไม่พบกุญแจคิดว่าลูกน้องเก็บแล้ว และตนไม่ได้เช็ก พอรถหาย ถามลูกน้องก็ไม่มีใครหยิบไป จึงมีคนที่น่าสงสัยคนเดียวที่ตนเคยพูดไว้
นางสาวพิมพ์ณภัส เปิดเผยว่า เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมพร้อมกับดูสำนวนคดีว่าคืบหน้าไปถึงไหนบ้าง จึงไม่มีความกังวลใจแล้วเพราะเชื่อว่ารถคันนี้เป็นของตนเอง 100 เปอร์เซ็นต์ ส่วนตัวหวังว่าคดีนี้จะถูกดำเนินการไปจนถึงที่สุดของตนเองเหมือนตัวแทนของคนที่รถสูญหาย หวังว่าจะได้รถคืน ส่วนคนที่ทำผิดก็ถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนอู่ที่กล่าวหาตนอยู่ก็ขอให้รอดูผล เพราะตนเป็นเด็กคนหนึ่งที่ขับรถชนสุนัข และต้องเอารถไปซ่อม และไม่กล้าบอกแม่
ส่วนกรณีที่รถชนจากจุดอื่นแต่เอามาซ่อมไกลถึงยางบัวทองนั้น เพราะเพื่อนสนิทแนะนำมา เพราะเจ้านายเพื่อนเคยซ่อมที่นี่ และการที่คนสนิทแนะนำตนก็เชื่อใจอยู่แล้ว ขณะเดียวกันตอนนี้ตนยืนยันคำเดิมว่าไม่ได้รับเงินเยียวยาจากเจ้าของอู่ ได้รับเงินแค่ 5,000 บาท จากนายทุนของเจ้าของอู่เท่านั้น ส่วนการนัดเจรจามีแต่ขอผลัดวันประกันพรุ่ง และไม่มีการพูดถึงเงินที่จะชดใช้เลย
ล่าสุด เมื่อเวลา 19.00 น. พ.ต.ท.สมุทร์ เกตุยา รองผู้กำกับสอบสวน และรักษาการผู้กำกับ และพนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เรียก นางสาวพิมพ์ณภัส หรือ จูน นวลหงษ์ อายุ 27 ผู้เสียหาย, เจ้าของเต็นท์รถย่านนวมินทร์ และช่างต้น เจ้าของอู่ ที่รถหายเข้าสอบปากคำ โดยแยกห้องสอบกัน
