ทลายผับ! ขายข้าวแกงบังหน้า เช้าตรวจเจอยาฯ เย็นฝ่าฝืนเปิดผับ นักเที่ยวอื้อ อ้างซ้อมเปิดร้านแจกบัตรฟังลูกเจ้าของร้องเพลง (คลิป)

วันที่ 19 พ.ย. 64 พ.ต.อ.ชนะเกียรติ วงศ์แสงเทียน ผกก.สภ.บ้านผือ จ.อุดรธานี, นายมานพ สุดตา เจ้าพนักงานปกครองอำเภอบ้านผือ นำกำลังตำรวจ และ อส. พร้อมหมายค้นศาลจังหวัดอุดรธานี เข้าตรวจค้นภายใน "ร้านข้าวแกงซ่องโจน" ซอย 7 เลขที่ 30 หมู่ 1 เขตเทศบาลตำบลบ้านผือ เพื่อหาสิ่งผิดกฎหมาย หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่าร้านดังกล่าวเปิดเป็นผับในเวลากลางคืนให้เยาวชนมามั่วสุม มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด

เมื่อไปถึงพบ น.ส.ณัฎฐ์วรินทร์ โกกะพันธ์ อายุ 42 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าของบ้าน เจ้าหน้าที่แสดงหมายค้นและอ่านให้ฟังเข้าใจแล้ว ได้เข้าตรวจค้น พบชายหญิงอยู่ในร้าน 4 คน อยู่ภายในบ้านทราบชื่อภายหลังว่า น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี, นายต้อม สิงห์วงษ์ อายุ 43 ปี, นายธนกร ดวงจันทร์ อายุ 22 ปี และนายนันทวัฒน์ หงษ์วิชัย อายุ 22 ปี จากการค้นพบยาบ้า 96 เม็ด ไอซ์ 543 กรัม อาวุธปืนสั้นบีบีกัน กระสุนปืนขนาด 9 มม. 51 นัด ซึ่งขณะตรวจค้น น.ส.ณัฎฐ์วรินทร์ ได้ใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ตลอด ตำรวจจึงควบคุมตัวทั้งหมดพร้อมของกลางไปโรงพักทำการสอบสวน

จากนั้นช่วงเย็นของวันเดียวกัน หลังจากจับกุมเจ้าของร้านอาศัยเมื่อคืนนี้เป็นวันลอยกระทง ให้น้องชายย้อนกลับไปเปิดร้าน ทำให้ตำรวจและฝ่ายปกครอง บุกไปจับกุมรอบที่ 2 ในเวลา 22.00 น. รวบนักเที่ยวทั้งชายและหญิงได้ทั้งหมด 64 คน แบ่งเป็นชาย 37 คน หญิง 27 คน พร้อมของกลาง

โดยช่วงบ่ายวันนี้ หลังจากตำรวจทำประวัติพิมพ์ลายนิ้วมือนักเที่ยวทั้งหมดเสร็จสิ้น ตำรวจไม่สามารถส่งฟ้องศาลได้ในวันนี้ เนื่องจากเป็นวันหยุดศาล ทำให้ตำรวจต้องแนะนำญาติของนักเที่ยวให้เชิญผู้ใหญ่บ้านของแต่ละหมู่เอาตำแหน่งมาประกันตัวบรรดานักเที่ยวออกไปก่อน

นางบุญพร้อม อายุ 48 ปี เป็นผู้ปกครองหนึ่งในนักเที่ยวที่ถูกจับกุมมาเมื่อคืนนี้ บอกว่า วันนี้มารอประกันตัวลูก เนื่องจากตอนตี 5 ที่ผ่านมา ลูกโทรมาบอกว่าถูกจับเพราะเพื่อนชวนไปเที่ยวที่ร้านดังกล่าว หลังจากกลับจากไปลอยกระทง ยอมรับว่าที่ผ่านมาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าร้านนี้เปิดเป็นผับ

น.ส.ปราณี สีสุพัฒน์ อายุ 44 ปี แม่ของนักเที่ยวที่ถูกจับ บอกว่า เมื่อคืนนี้นอนหลับอยู่ ลูกชายโทรศัพท์ไปหาบอกว่าให้เอาบัตรประชาชนไปให้ที่ร้านข้าวแกงซ่องโจน จึงรีบเอาบัตรประชาชนไปให้ลูก พอไปถึงก็เจอเจ้าหน้าที่ยืนกันเต็มหน้าร้าน ถึงรู้ว่าลูกชายถูกจับข้อหามั่วสุม ตั้งแต่เมื่อคืนถึงตอนนี้ยังไม่ได้นอนมาเฝ้าลูก

สำหรับเรื่องที่ตำรวจส่งศาลไม่ทันในช่วงเช้า ก็ไม่ได้ติดใจอะไร เพราะในใจก็อยากให้ลูกเข้าไปนอนในคุกสัก 1-2 วัน เพื่อดัดนิสัย เนื่องจากตัวเองได้เตือนลูกชายแล้วว่าอย่าไปที่ร้านแห่งนี้ เพราะรู้มาว่าร้านนี้ถูกจับไปก่อนหน้านี้แล้วเมื่อช่วงกลางวัน ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าร้านนี้เปิดเป็นผับ มองผ่าน ๆ คิดว่าเป็นร้านแต่งรถที่วัยรุ่นไปรวมตัวกัน

อย่างไรก็ตาม อยากจะฝากถึงน้อง ๆ นักเที่ยวทุกคน ให้หยุดเที่ยวกันก่อน การไปมั่วสุมเที่ยวกันถ้าหากติดโควิด-19 ขึ้นมา มันจะทำให้เดือดร้อนไปกันหมด

น.ส.ณัฎฐ์วรินทร์ เจ้าของร้าน เปิดใจว่า การจับกุมทั้งหมดตัวเองและครอบครัวถูกตำรวจกลั่นแกล้ง แล้วก็อ้างว่าตำรวจเข้าไปจับกุมโดยไม่มีหมายค้น โดนค้นบ้านมาแล้ว 6 ครั้ง ตำรวจไม่เคยมีหมายค้นเลยสักครั้ง จับลูกน้องได้ยาบ้าไป 10 เม็ด แต่ของกลางถึงโรงพักเหลือแค่ 7 เม็ด อีก 3 เม็ดที่หายไป ตำรวจเอาไปไหน

ส่วนเรื่องร้านที่ถูกจับเมื่อคืนนี้ ยืนยันว่าไม่ได้เปิดร้านให้ใครมามั่วสุม แล้วร้านก็เปิดเป็นร้านอาหารปกติ สาเหตุที่ลูกค้าเข้าไปเยอะ เพราะลูกค้าชื่นชอบสไตล์ของร้าน ยิ่งไปกว่านั้นในความที่ลูกสาวของตัวเองเป็นนักร้อง เมื่อคืนนี้ก็เลยจัดงานให้ลูกสาวร้องเพลงให้ลูกค้าฟัง โดยการแจกบัตรเชิญให้มาชมลูกสาวร้องเพลงในเทศกาลลอยกระทง ยืนยันว่าไม่ได้เปิดร้านเปิดผับบาร์อะไรทั้งนั้น งานที่จัดขึ้นเป็นการเตรียมความพร้อมที่จะเปิดร้านตามคำสั่งของ ศบค. ที่จะให้สถานบันเทิงเปิดในวันที่ 15 ม.ค. 65 ซึ่งลูกค้าที่มีบัตรเชิญและถูกจับเมื่อคืนนี้ ตัวเองจะรับผิดชอบเสียเงินประกันตัวให้

สำหรับเรื่องบัตรเชิญ ทีมข่าวสอบถามข้อมูลกับนักเที่ยว ไม่มีใครได้รับบัตรเชิญมาร่วมงาน ที่ถูกจับเพราะไปเที่ยวตามปกติ