รวบไอ้หื่น ฆ่าข่มขืนสาวพม่า ก่อนเผานั่งยางอำพราง หมกกลางป่ายูคาลิปตัส เมียท้อง 7 เดือน ช็อก! มืดแปดด้านว่าทำได้อย่างไร
จากกรณีเฟซบุ๊กชื่อว่า “คูณ งามภูเขียว” ได้โพสต์ว่า ขอให้เธอปลอดภัยเธอเปรียบเสมือนลูกสาวของฉัน ฉันจะสวดมนต์ขอพรให้เธอปลอดภัย จนมีเพื่อนร่วมงานได้โพสต์ภาพของหญิงสาวรายนี้ โดยระบุเป็นภาษาพม่า-อังกฤษ โดยเนื้อความแปลเป็นได้ได้ความว่า "ไม่ใช่การหายตัวไป การแสวงหาสามี โปรดให้เวลาฉัน 1 นาที เพื่อช่วย myint myint khaing หรือ นางข่าย ชาวพม่าที่ทำงานโรงงานใน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ถูกจับตัวออกจากห้องพัก ห้องที่ 3 โดยกลุ่มที่ไม่ปรากฏชื่อ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 เวลา 08.10 น. ทำให้ญาติและเพื่อนชาวพม่าเชื่อกันว่าโดนบังคับเอาตัวไปนั้น
ในช่วงค่ำที่ผ่าน เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.กบินทร์บุรี ได้เชิญตัวนางสาวสมหมาย (พี่สาว) ของนายบุญหลาย บัวพันธ์ อายุ 21 ปี ผู้ต้องสงสัยมาทำการสอบสวน จนทราบว่า นายบุญหลายได้หลบหนีไปในพื้นที่ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ทางชุดสืบสวนจึงได้พาตัวนางสาวสมหมาย เดินทางไปในพื้นที่ จ.สระแก้ว เพื่อติดตามจับกุมตัวน้องชายที่ก่อเหตุได้ที่บ้านญาติ
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.กบินทร์บุรี จึงได้สอบถามรายละเอียดจากนายบุญหลาย บัวพันธ์ ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุจริงโดยในช่วงเช้า เห็นประตูห้องที่ 3 ของ myint myint khaing หรือ นางข่าย ชาวพม่า เปิดประตูเล็กน้อยจึงได้เปิดดู พบว่านางข่าย กำลังนอนหลับจึงเข้าไปเพื่อจะทำการข่มขืน แต่นางข่ายขัดขืนจึงใช้เท้าเตะไปที่บริเวณปาก พร้อมกับจับมือมัดมือและใช้เทปกาวปิดปาก แต่นางข่ายสามารถดึงเทปออกได้และพยายามร้อง นายบุญหลาย จึงได้ฉุดตัวนางข่ายออกประตูด้านหลังห้องพักเข้าไปในป่าปาล์ม ห่างจากห้องพักประมาณ 500 เมตร และทำการข่มขืนแล้วจับบีบคอจนเสียชีวิต ก่อนนำศพไปซุกในสระน้ำใกล้กับจุดข่มขืนประมาณ 10 เมตร แล้วเดินทางกลับมาห้องพักอาบน้ำเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวกลับเข้าไปทำงานในโรงงานจนเลิกงาน
จากนั้นจึงได้ขับรถยนต์กระบะ อีซูซุ สีขาว ทะเบียน กข 4998 กรุงเทพมหานคร ไปรับภรรยาที่ทำงานอยู่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ศรีมหาโพธิ และพากันไปกินอาหารที่ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา เสร็จเรียบร้อยแล้วพาภรรยากลับไปพักที่บ้านพัก จึงขับรถออกมาจอดที่บริเวณข้างสระน้ำและลงไปลากศพของผู้เสียชีวิตขึ้นมาใส่ท้ายรถ ขับไปยังที่บ้านพัก เลขที่ 317 หมู่ ตำบลเขาไม้แก้ว อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อนำถังน้ำมัน สายยาง และยางรถยนต์ จำนวน 2 เส้น ก่อนนำร่างผู้เสียชีวิตเข้าไปกลางป่ายูคาห่างจากบ้านประมาณ 6 กม. เมื่อนำศพไปเผาเรียบร้อยแล้วจึงได้กลับเข้าบ้านพัก ก่อนหลบหนีไปที่จังหวัดสระแก้ว จนมาถูกเจ้าหน้าที่ตามจับตัวได้ พร้อมให้พาไปชี้จุดที่นำศพไปเผาที่กลางป่ายูคา หมู่ที่ 4 บ้านวังมะกูด ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี
ในช่วงเช้า พ.ต.อ.วัลลพ กังธาราทิพย์ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี รรท.ผกก.สภ.กบินทร์บุรี จึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานปราจีนบุรี และกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างบำเพ็ญธรรมสถานกบินทร์บุรี ลงพื้นที่ไปตรวจสอบพบศพนางข่าย ถูกเผาจนไหม้เกรียม พร้อมเส้นลวดจากยางรถยนต์ จำนวน 2 วง ส่วนขาขวาหลุดจากตัวโครงร่างออกไปประมาณ 1 เมตร ขาซ้ายห่างออกไปอีกประมาณ 2 เมตร ทางเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเกิดจากสัตว์ในพื้นที่มีการกัดกินซากศพ ก่อนให้ทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลกบินทร์บุรี
ต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กบินทร์บุรี ได้ควบคุมตัว นายบุญหลาย บัวพันธ์ ผู้ต้องหา ได้ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ จุดแรกคือ จุดที่นำศพผู้เสียชีวิตไปทำการเผา จุดที่ 2 ห่างจากจุดแรกประมาณ 4 กม. ที่ผู้ต้องหานำขวดน้ำมันไปโยนทิ้งข้างทาง จุดที่ 3 เป็นบ้านพักของผู้ต้องหาที่เข้าไปนำถังน้ำมันพร้อมสายยางและยางรถยนต์ 2 เส้น ใช้ในการเผาศพ จุดที่ 4 บริเวณสวนปาล์มที่ผู้ต้องหาข่มขืนก่อนที่จะนำศพไปซุกซ่อนในสระน้ำ จนค่ำถึงได้นำศพไปเผาทิ้งกลางป่ายูคา ในช่วงที่เจ้าหน้าที่ให้ผู้ต้องหานำชี้จุดที่นำศพขึ้นจากสระน้ำใส่รถยนต์ ปรากฏว่ามีคนงานพม่าที่ทราบข่าวเริ่มเดินทางมาในพื้นที่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องรีบนำตัวผู้ต้องหาเดินทางกลับ สภ.กบินทร์บุรี
พ.ต.อ.วัลลพ กังธาราทิพย์ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี รรท.ผกก.สภ.กบินทร์บุรี ได้กล่าวว่า ในคดีนี้เป็นนโยบายของท่าน ผบ.ตร.ผู้บัญชาการภาค 2 ว่าถ้ามีคดีประเภทนี้จะต้องรีบสืบสวนสอบสวนโดยเร็ว หลังจากที่ได้รับแจ้งความแล้วเราก็ได้สืบสวนพยานแวดล้อมจนได้ทราบตัวผู้ต้องสงสัยคือนายบุญหลาย เราก็ได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมจนพบมีการหลบหนีโดยใช้กระบะ ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ติดตามดูจากกล้องวงจรปิด และสามารถจับกุมตัวได้ที่วัฒนานคร จึงได้นำตัวมาสอบสวนและผู้ต้องหารับสารภาพว่าได้ข่มขืนศพและทำให้จมน้ำ และนำศพมาเผาเพื่อทำลายศพ โดยได้ตั้งข้อหาฆ่าข่มขืนโดยถึงแก่ความตาย และฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาปกปิดทำลายศพ
ในเรื่องนี้ น.ส.พรนิภา อายุ 26 ปี ภรรยานายบุญหลาย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้สามีไม่ได้เล่าอะไรให้ฟังเลย วันที่สามีหายไปคือวันที่ 15 พ.ย. ก่อนหน้านั้นก็ไปทำงานปกติ ไม่ทราบว่าเขากลับมาบ้านกี่โมง มีคนพูดว่าพม่าหายไป เขาก็พูดว่ามีคนใส่ร้ายเขา ว่าเขาเป็นคนทำ ตอนเจ้าหน้าที่โทรหาเขาบอกว่ามีคนว่าเขาทำร้ายผู้หญิง เจ้าหน้าที่เขาตรวจร่างกายและเอาโทรศัพท์ไป ตามร่างกายมีรอยแผลอยู่ ตรงท้อง ช่วงวันเกิดเหตุช่วง 8 โมง ตนไม่ได้อยู่กับเขา ตนไม่รู้อะไรเลย ปกติสามีเขาเป็นคนมีนิสัยอารมณ์ร้อน ตนก็คบกันมาได้ 3 ปีแล้ว และเพิ่งตั้งครรภ์ได้ประมาณ 7 เดือน ตนก็อยากทราบเหตุผลว่ามันเกิดอะไรขึ้น อยากให้เขามาอธิบาย
